เมียสุดทนร่ำไห้แจ้งจับผัวขี้เมา ตืบ-ถือมีดพร้าขู่ฆ่าต่อหน้าลูก
เมียสุดทนร่ำไห้แจ้งจับผัวขี้เมา ตืบ-ถือมีดพร้าขู่ฆ่าต่อหน้าลูก
เมียสุดทนร่ำไห้แจ้งจับผัวขี้เมา ตืบ-ถือมีดพร้าขู่ฆ่าต่อหน้าลูก เมียลั่นครั้งนี้ไม่ไหวแล้ว ขอตัดขาดจากผัว ด้านผัวยังอยู่ในอาการเมาบอกต้องตกลงแบ่งลูก แบ่งเงินกันก่อน เมื่อได้ตามตกลงจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก
(27 ต.ค.67) ขณะที่ ร.ต.อ.ถิรโยธิน ทรัพย์สิน รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจสายตรวจออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งเหตุว่า สามีเมาคลุ้มคลั่งอาละวาดทำร้ายภรรยา เผาเสื้อผ้า และกำลังจะเผาบ้าน เหตุเกิดที่แคมป์คนงานก่อสร้าง บ.คำกลิ้ง ม.3 ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุจึงพร้อมด้วยสายตรวจ 191 และตำรวจ ตชต.บ้านจั่น รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นสร้างเป็นเพิงที่พักสังกะสีอยู่กลางแคมป์ ด้านหน้าเป็นร้านของชำประจำแคมป์ ที่ชานหน้าห้องพัก พบนายรัฐชาติ หรือกิ๊ก อายุ 32 ปี นั่งดื่มเบียร์อยู่ และมีอาการมึนเมา ตะโกนด่าทอภรรยาและแม่ยาย ข้างกันมีลูกชายฝาแฝด อายุ 10 เดือน อยู่ที่เปล ที่หน้าบ้านพบกองเสื้อผ้าถูกเผาจำนวนหนึ่ง
โดยมี น.ส.อรพรรณ หรือแป้ง อายุ 28 ปี ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตกใจ ระหว่างรอตำรวจเข้าควบคุมตัว นายกิ๊กก็ยังไม่มีท่าทีสงบลง ยังตะโกนด่าโต้เถียงกับ น.ส.แป้งอยู่ตลอด เจ้าหน้าที่ต้องเก็บมีดพร้าและอุปกรณ์ที่มีคมนำไปซ่อนเก็บไว้ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นมากกว่าเดิม ซึ่งนายกิ๊กฯ ตะโกนบอกยอมไปโรงพัก แต่ต้องแบ่งลูกและแบ่งเงินกันก่อน
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงนายกิ๊กมีท่าทีเปลี่ยนไป ไม่ยินยอมไปขึ้นรถกระบะตราโล่ อ้างว่าต้องการตกลงกับภรรยา เพื่อแบ่งลูกแบ่งทรัพย์สินกันที่นี่ หากขึ้นรถไปกับตำรวจก็จะเสียเปรียบ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้กำลังเข้าควบคุมตัวใส่กุญแจมือ และขึ้นรถกระบะนำไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก
เบื้องต้น น.ส.แป้ง ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอุดรธานีไว้แล้ว เนื่องจากก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง น.ส.แป้ง ถูกนายกิ๊กผู้เป็นสามี ทำร้ายร่างกายด้วยการผลักและตบหน้า ก่อนใช้มีดพร้าข่มขู่ฆ่าให้ตายพร้อมแม่ยายและลูกๆ
นายกิ๊ก เล่าให้ฟังด้วยอาการเมาว่า ตนออกไปทำงานที่ไซต์งานสร้างหมู่บ้านจัดสรรที่อยู่ใกล้กัน ตนถูกกาวร้อนกระเด็นใส่ตาข้างซ้าย จึงรีบกลับมาที่บ้านเพื่อล้างตา แต่เมื่อมาถึงก็เห็นแต่ลูกแฝดนอนกลางวันอยู่ที่เปล ไม่เห็นภรรยา เห็นแต่ลูกชายคนโต ตนโทรหาเขาก็บอกว่าออกไปซื้อของ ตนโมโหที่ภรรยาไม่อยู่บ้านดูแลลูกที่ยังเล็ก เขาอ้างว่าไปซื้อของเข้าร้าน ตนก็บอกว่ายังมีของขายอยู่ จะลงทุนเพิ่มไปทำไม ที่เผาเสื้อผ้า เพราะเขาไม่ซัก กองไว้จนเน่า แต่ไม่ได้คิดจะเผาบ้านจริงๆ
"เงินทองที่หามาเขาก็เอาไปหมด ไม่เคยตกถึงมือตน ทำอะไรตนก็ผิดตลอด จับตนไปได้เลย ตนพร้อมจะออกไปจากที่นี่ แต่ต้องตกลงแบ่งลูก แบ่งเงินกันก่อน เมื่อได้ตามตกลงตนจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก"
ด้าน น.ส.แป้ง เล่าว่า อยู่กินกับนายกิ๊กมาประมาณ 10 ปี เขารับเหมาช่วงสร้างบ้านต่อนายจ้าง ตนก็เปิดร้านขายของในแคมป์ มีลูกด้วยกัน 3 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด คนโตอายุ 8 ขวบ อีก 2 คนเป็นลูกแฝด อายุ 10 เดือน วันนี้สามีออกไปทำงาน ตนก็เฝ้าร้านตามปกติ พ่อและแม่ตนก็ออกไปทำงานอีกที่
ช่วงสายตนออกไปซื้อของมาขายเพิ่ม บอกลูกชายคนโตให้เฝ้าน้อง เดี๋ยวแม่จะกลับมา ไม่นานสามีก็โทรหา บอกว่าให้รีบกลับมา เพราะถูกกาวร้อนกระเด็นเข้าตา ตนก็รีบมาทันที มาถึงเขาก็โมโหด่าตน ตบตีตน แล้วไปเอามีดพร้าในห้องมาฟันฝาบ้าน ข่มขู่ตน แม่ตนทราบเรื่องก็รีบมา มาถึงสามีก็ด่าแม่ข่มขู่แม่อีกคน ตนจึงต้องออกไปแจ้งความในข้อหาทำร้ายร่างกาย
“ที่ผ่านมาสามีอารมณ์ร้อนมาตลอด อยู่ด้วยกันก็ถูกเขาตบตีทำร้าย ไม่รู้ว่าไปโกรธอะไรมานักหนา มีปัญหาที่ไซต์งาน มีปัญหากับลูกน้องก็เอามาลงที่ตน ตนอดทนกับพฤติกรรมของสามีมานานแล้ว เขาชอบกินเหล้าเป็นประจำ เมาแล้วก็ตบตีตน ด่าตนไม่พอ ยังด่าไปถึงพ่อแม่ตน จนพ่อแม่ตนเอือมระอา ไม่มีใครอยากเข้ามายุ่ง เพราะกลัวเขาจะทำร้าย กับเขาจะฆ่า สามีเสพยาหรือไม่ ตอนนี้ตนไม่รู้ แต่ที่ผ่านมาเคยเห็นเขาเสพบ้าง แต่นานมาแล้ว ครั้งนี้ไม่ไหวแล้ว ตนขอตัดขาดจากสามี แต่จะให้แบ่งลูกตนไม่ยอม ให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายจนถึงที่สุด”
เบื้องต้นตำรวจได้นำตัวนายกิ๊กไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก เมื่อหายสร่างเมาและมีสติมากขึ้น จะทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.