"ดีอี"สั่งปิดแล้วแพลตฟอร์มปลอม ทางรัฐ - ดิจิทัลวอลเล็ต
"ดีอี"สั่งปิดแล้วแพลตฟอร์มปลอม ทางรัฐ - ดิจิทัลวอลเล็ต
"ดีอี"สั่งปิดแล้วแพลตฟอร์มปลอม ทางรัฐ - ดิจิทัลวอลเล็ต ย้ำให้ติดตามจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
(5ส.ค.67) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอี โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (Anti Fake New Center หรือ AFNC) สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และ เครือข่าย ได้ติดตามตรวจสอบและประเมินสถานการณ์การกระทำที่เข้าข่ายการก่ออาชญากรรมออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับโครงการเติมเงิน 10,000 ผ่าน Digital Wallet หรือ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมาพบว่าการตรวจสอบเฝ้าระวังตลอดระยะเวลา 5 วันของการเปิดให้เริ่มลงทะเบียนโครงการฯ พบการกระทำที่เข้าข่ายการก่ออาชญากรรมออนไลน์ ในแพลตฟอร์มต่างๆ และประสานงานดำเนินการปิดกั้นแพลตฟอร์มแล้ว ดังนี้
- แอปพลิเคชันปลอม หลอกลงทะเบียน จำนวน 6 แอปพลิเคชัน
- เฟซบุ๊ก แฟนเพจปลอม “ทางรัฐ-เงินดิจิทัล” จำนวน 90 เพจ
- ข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน จำนวนกว่า 20 ข่าว
- เว็บไซต์ปลอม “dga-thai.com” จำนวน 1 เว็บไซต์
“กระทรวงดีอี ได้ดำเนินการประสานผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างๆ ทำการปิดกั้นแพลตฟอร์มหลอกลวงทั้งหมดแล้ว พร้อมดำเนินการตามกฎหมายกับมิจฉาชีพอย่างถึงที่สุด โดยถือว่าการกระทำดังกล่าว ทั้งการเปิดแอปฯ เว็บไซต์ เพจปลอม ข่าวปลอม หรือข้อมูลบิดเบือน เป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ร้ายแรง ซึ่งสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และความเสียหายต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง เนื่องจากเป็นโครงการสำคัญของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประชาชน ซึ่งคนไทยกำลังให้ความสนใจมากที่สุดในปัจจุบัน” นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเตรียมการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ซึ่งเป็นข้อมูลโดยตรงจากรัฐบาลที่เชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ www.digitalwallet.go.th หรือ www.กระเป๋าเงินดิจิทัล.รัฐบาล.ไทย และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านศูนย์บริการข้อมูลโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet โทรสายด่วน Digital Wallet 1111 พร้อมให้บริการและคำแนะนำปรึกษาแก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
ในส่วนของการติดตั้งแอปพลิเคชัน ทางรัฐ เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิฯ สามารถดาว์นโหลดผ่าน App Store และ Google Play Store เท่านั้น
ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนกลุ่มผู้ที่มีสมาร์ตโฟน ที่อาจประสบปัญหา และไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร หรือต้องการความช่วยเหลือในการลงทะเบียนฯ นอกเหนือจากการลงทะเบียนผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ กระทรวงดีอี จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดสถานที่จุดให้บริการ (Walk – in) สอบถามข้อมูล และให้บริการรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ รวมเป็นจำนวน 6,107 แห่งทั่วประเทศ เวลาทำการ ดังนี้
- ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 1,722 ศูนย์ทั่วประเทศ
- ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 1,200 แห่ง ทั่วประเทศ (ยกเว้น ไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ)
- ธนาคารออมสิน 1,047 แห่ง ทั่วประเทศ
- ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1,238 แห่งทั่วประเทศ
- ธนาคารกรุงไทย จำนวน 900 แห่ง ทั่วประเทศ
ขณะที่กลุ่มผู้ที่ไม่มีสมาร์ตโฟน จะเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2567 โดยรัฐบาลจะมีการแจ้งวิธีการลงทะเบียนและจุดให้บริการอย่างเป็นทางการต่อไป
อย่างไรก็ตาม กระทรวงดีอี มีความห่วงใยประชาชน โดยขอเตือนให้ประชาชนอย่าเชื่อ อย่าแชร์ อย่ากดลิงก์ ที่น่าสงสัย หรือไม่แน่ใจ ซึ่งอาจมีการส่งต่อๆกันในสื่อสังคมออนไลน์ โดยหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต สามารถโทรสายด่วน Digital Wallet 1111 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ภูมิธรรม"เดินตลาดเชียงใหม่ ถามความเห็นผู้ค้าลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต
- "ดีอี"เพิ่มจุดลงทะเบียน"ดิจิทัลวอลเล็ต"ได้ที่ ธ.กรุงไทย 900 สาขา