ลูกชายตำรวจ ลั่นไกลาโลก

เมื่อเวลาประมาณ 09.33 น. วันที่ 16 ต.ค.67 ส.ต.ท.กิตติพงษ์ ชูเมือง พนักงานวิทยุ สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งว่า มีเหตุใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ภายในบ้านหลังหนึ่ง ในซอยต้นแก้ว ถ.สวนขวัญเมือง ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา จึงได้วิทยุให้เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจ เข้าตรวจสอบ พร้อมทั้งปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุ ก่อนแจ้ง พ.ต.อ.ปิยภัทร ทองพันเลิศกุล ผกก.สภ.เมืองยะลา , พ.ต.ท.หญิง พนิดา หงษา พนักงานสอบสวน , เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา และเจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพ-กู้ภัย เจ้าแม่ทับทิมยะลา เข้าตรวจสอบอย่างละเอียด 

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่า เป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว ภายในบ้านมีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ BMW สีดำ หมายเลขทะเบียน Xง-XX50 ยะลา จอดอยู่ เจ้าหน้าที่ตํารวจ และชุดกู้ชีพ-กู้ภัยฯ เข้าตรวจสอบภายในบ้านพัก พบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายกัสดาฟี (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของ ร.ต.ต.อาหมัด (สงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา 

สภาพศพ ถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณคาง ทะลุศีรษะ 1 นัด นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงภายในห้องนอน ใกล้กัน พบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ซึ่งคาดว่า เป็นอาวุธปืนที่ใช้ยิงตัวเองจนเสียชีวิต เลือดไหลนอง โดยทางเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา ได้รวบรวมเก็บวัตถุพยานและอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนที่จะให้ทางเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยฯ เคลื่อนย้ายศพไปตรวจพิสูจน์อีกครั้ง ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา

จากการสอบสวน ผู้เป็นแม่ในเบื้องต้น ทราบว่า นายกัสดาฟี ได้เรียนที่กรุงเทพฯ แล้วกลับมาฝึกสอนที่โรงเรียนสตรียะลา เมื่อกลับมาอยู่บ้านพบว่า ลูกชายมีอาการเครียด ซึมเศร้า ไม่ค่อยพูด จึงได้พาไปรักษาตัวคลินิกจิตเวช ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ ลูกชายก็บ่นว่าอยากตาย 

วันที่เกิดเหตุ ตนอยู่ในบ้าน พร้อมด้วย ร.ต.ต.อาหมัด ผู้เป็นพ่อของผู้เสียชีวิต ซึ่งนอนหลับอยู่บนโซฟา ภายในบ้าน ขณะที่ลูกชายคนเล็ก นอนเล่นอยู่ในห้องอีกห้อง เมื่อได้ยินเสียงปืน ร.ต.ต.อาหมัด ก็ได้วิ่งเข้าไปดูในห้องนอน พบว่า นายกัสดาฟี ใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงตัวเองเสียชีวิต 

โดยอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนของ ร.ต.ต.อาหมัด ซึ่งได้ซ่อนไว้ในตู้ในห้องเสื้อผ้าอีกห้องหนึ่ง แต่ก็ไม่ทราบว่านายกัสดาฟี แอบหยิบไปตอนไหน หลังจากนั้น จึงได้หยิบปืนกระบอกดังกล่าว ออกมาจากห้องนอนที่เกิดเหตุ มาวางบนโต๊ะหน้าทีวี แล้วโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบดังกล่าว 

พ.ต.อ.ปิยภัทร ผกก.สภ.เมืองยะลา กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นโรคแพนิค ต้องกินยา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ร้อยเวรสอบสวน ต้องมีการสอบสวนทุกประเด็น สอบสวนพ่อ-แม่ และองค์ประกอบต่างๆภายในบ้าน พยานบุคคล พยานหลังฐาน ตลอดจนคราบเขม่าปืน อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ก็ขอแสดงความเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้นด้วย 

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง :

• เช็กอาการ โรคแพนิก วิตกกังวลขั้นไหนถึงควรพบคุณหมอ