CIB ตามรวบหนุ่มหื่น คดีโทรมเด็กหญิงวัย 8 ขวบ
CIB ตามรวบหนุ่มหื่น คดีโทรมเด็กหญิงวัย 8 ขวบ

CIB ตามรวบหนุ่มหื่น คดีโทรมเด็กหญิงวัย 8 ขวบ หลังพ่อที่ร่วมก่อเหตุถูกศาลตัดสินจำคุก 18 ปี
(21 พ.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พ.ต.ท.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายไพวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 400/2563 ลงวันที่ 14 ส.ค.63 คดีหมายเลขดำที่ อ 1182/2560 คดีหมายเลขแดงที่ อ 3309/2560 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ความผิดที่เกี่ยวกับการข่มขืนกระทำชำเรา , ความผิดเกี่ยวกับการอนาจาร , ความผิดต่อเสรีภาพ”
สืบเนื่องจาก ก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหาย ได้ฝากบุตรสาวของตนคือ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 8 ปี พร้อมกับน้องอีก 2 คน ไว้กับมารดาของตน (ซึ่งมีศักดิ์เป็นยายของเด็กๆ) ที่พักอาศัยร่วมอยู่กับนายจำปี (สงวนนามสกุล) สามีใหม่ของมารดาซึ่งนายจำปี มีลูกติดมาด้วย 1 คน คือ นายไพวรรณ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่ง 2 พ่อลูกดังกล่าว มักจะหาโอกาสที่จะกระทำล่วงละเมิดทางเพศกับ ด.ญ.บี อยู่เป็นประจำ ต่อมา เมื่อเพื่อนบ้านทราบเรื่องที่ ด.ญ.บี ถูกกระทำชำเรา ทนไม่ไหวจึงพาแม่และเด็กเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี
จากการสอบสวน พบการกระทำความผิดของทั้ง 2 พ่อลูก หลายครั้ง ตั้งแต่ เมื่อประมาณ กลางเดือนกันยายน 2557 ขณะ ด.ญ.บี อายุ 8 ปี กับน้องสาวกำลังเล่นซ่อนหาอยู่ภายในบ้านพักที่เกิดเหตุ นายไพวรรณ ได้ทำทีมาขอเล่นด้วยและจับ ด.ญ.บี เข้าไปภายในห้อง ปิดประตูก่อนจะลงมือกระทำชำเรา น้องสาวพยายามตะโกนเรียก ไม่ได้ยินเสียงตอบ จึงแอบดูและเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว
ต่อมา เมื่อประมาณ ต้นเดือนพฤศจิกายน 2557 นายจำปี เรียกให้ ด.ญ.บี เข้าไปในห้องแล้วจับมัดแขนขา ก่อนจะลงมือข่มขืน ด.ญ.บี
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2557 นายจำปี พร้อมด้วยนายไพวรรณ ได้ชักชวนเพื่อนอีก 2 คน มาร่วมข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.บี โดยผลัดเปลี่ยนกันข่มขืนกระทำชำเรา
และช่วงประมาณ กลางเดือนธันวาคม 2557 ผู้เป็นยายของเด็ก ได้ออกไปธุระข้างนอก นายจำปี ได้ไล่ให้น้องทั้ง 2 คน ของ ด.ญ.บี ออกไปเล่นนอกบ้าน แล้วกักตัว ด.ญ.บี ไว้ภายในบ้าน ปิดประตู ปิดไฟ ปิดผ้าม่าน น้องทั้ง 2 จึงวิ่งไปตามยาย เมื่อยายมาถึง ได้เปิดประตูเข้าไปเห็นนายจำปี กำลังกระทำชำเรา ด.ญ.บี จึงตะโกนด่านายจำปี และ ช่วยด.ญ.บี ไว้ได้
หลังจากนั้น นายจำปี ย้ายไปอยู่ที่อื่น ซึ่งระหว่างนั้น ด.ญ.บี เองก็ย้ายไปอยู่กับญาติที่อื่นช่วงระยะเวลาหนึ่ง ต่อมา ด.ญ.บี ได้เล่าเรื่องราวที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหาข่มขืนกระทำชำเรา ให้เพื่อนบ้านพลเมืองดีฟังจนทนกันไม่ไหว จึงเป็นที่มาของการพามารดาและเด็กเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรีดังกล่าว
เมื่อนายจำปี ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา แต่นายจำปี ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และอ้างว่า ด.ญ.บี เป็นผู้เริ่มก่อน สุดท้าย นายจำปี ถูกศาลจังหวัดนนทบุรีพิพากษา จำคุก 18 ปี ปัจจุบันถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ
ส่วนนายไพวรรณ ลูกชายของนายจำปี หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปทำงานอยู่ที่ จ.ราชบุรี กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่นายไพวรรณ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งศาลชั้นต้นได้ตัดสินลงโทษจำคุกนายไพวรรณ 16 ปี นายไพวรรณ ได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์สู้คดีต่อศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ จึงมีคำพิพากษาลดโทษนายไพวรรณ เหลือโทษจำคุกเพียง 2 ปี หลังจากมีการรับโทษครบกำหนด 2 ปี นายไพวรรณ จึงได้ถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำ
กระทั่งต่อมา ศาลฎีกาได้พิจารณาแก้โทษนายไพวรรณฯ ให้รับโทษเพิ่มขึ้นเป็นจำคุก 3 ปี 8 เดือน จึงให้ออกหมายจับจำเลยคือ นายไพวรรณ มาบังคับโทษตามคำพิพากษา
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป.จึงได้วางแผนสืบสวนติดตามจับกุม จนทราบว่า นายไพวรรณ ได้หลบหนีมาทำงานและมากบดานอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง บริเวณถนนเจริญราษฎร์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าจับกุมนายไพวรรณ ผู้ต้องหารายนี้ ก่อนนำตัวส่งศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธข้อหาความผิดเกี่ยวกับการข่มขืนกระทำชำเรา แต่ยอมรับข้อหาความผิดเกี่ยวกับอนาจาร และความผิดต่อเสรีภาพ - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน