ลูกศิษย์น้ำตาไหลพราก ไร้เงา! "พระลิน" ร่วมงานกฐินวัดป่าดอนเทือน
ลูกศิษย์น้ำตาไหลพราก ไร้เงา! "พระลิน" ร่วมงานกฐินวัดป่าดอนเทือน
ไร้เงา! "พระลิน"และ"พระบัวลัย"ร่วมงานทอดกฐินวัดป่าดอนบ้านเทือน แต่งานกฐินยังจัดต่อได้ ยอดกฐินได้เงิน 390,647 บาท คอหวยไม่พลาดตีเป็นเลขเด็ดเสี่ยงโชคสลาก N3 ลูกศิษย์เผยพระลินไม่มาน้ำตาไหลพราก เสียใจพระดีไม่น่าจะมีเรื่องแบบนี้เลย อยากให้ท่านได้กลับมาอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีหนังสือเจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี (ฝ่ายธรรมยุต) มีหนังสือแจ้งให้พระลินและพระบัวลัย พ้นจากวัดภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. 67 โดยเจ้าคณะจังหวัดมีความเห็นว่า พระลินและพระบัวลัยมอมเมาประชาชนด้วยอวิชชา พฤติกรรมมิชอบ ประพฤติตนมิอยู่ในโอวาท มี 4 ข้อ
1. ประพฤติตนไม่สำรวมระวังต่อพระธรรมวินัยและธรรมเนียมปฏิบัติแห่งคณะสงฆ์จังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุต)
2.มีพฤติกรรมมอมเมาประชาชนด้วยอวิชชา โดยการเขียนเลขยันต์ ลงตามเนื้อตามตัวหรือผ้ามือ อันเป็นการสร้างความหลงผิดต่อหลักพระพุทธศาสนา
3. การไม่สำรวมระวังในการสื่อสารผ่านสื่อโซเชียล ก่อให้เกิดความเสียหายต่อคณะสงฆ์จังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุต)
4. ประพฤติตนมิอยู่ในโอวาทของเจ้าคณะผู้ปกครองและละเมิดคำสั่ง จากนั้นพระลินและพระบัวลัย รับคำสั่งตามหนังสือจากนั้นได้เดินทางกลับยัง สปป.ลาว ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. 67
และบอกกับลูกศิษย์ว่าจะเดินทางกลับมาร่วมงานทอดกฐินที่วัดป่าดอนบ้านเทือน ในวันที่ 27 ต.ค. 67 แต่ไม่นานก็มีหนังสือขอเพิกถอนวีซ่าจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ส่งไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด วัดทุกวัด ทำให้พระลิน และพระบัวลัย ไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยได้
(27ต.ค.67) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดป่าดอนบ้านเทือน บ้านกลางใหญ่ ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี โดยพบว่างานกฐินยังคงจัดต่อไป มีพระครูสุนทรวุฒิธรรม หลวงพ่อสนอง ชินวังโส เจ้าอาวาสวัดเป็นประธานสงฆ์ และมีนายมงคล มีลา นายก ทต.กลางใหญ่ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส มีชาวบ้านมาร่วมงานบุญกฐินครั้งนี้จำนวนมาก แต่ปรากฏว่าไร้เงาของพระลินกับพระบัวลัย พระน้องชายมาร่วมงานกฐินแต่อย่างใด
โดยลูกศิษย์ลูกหาบางคนเดินทางมาเพื่อมาพบกับพระลินด้วย สำหรับยอดกฐินได้ปัจจัยทั้งสิ้น 390,647 บาทได้ถวายให้วัดป่าดอนเทือนต่อไป ซึ่งคอหวยคนที่มาร่วมงานกฐินก็นำเลขยอดกฐิน390,647 ไปเสี่ยงโชคและสลาก N3 ต่อไป และหลังเสร็จพิธีทอดกฐินคณะศิษยานุศิษย์ทั้งสงฆ์และฆราวาสได้ร่วมกันสงฆ์น้ำหลวงพ่อสนอง เจ้าอาวาสวัดฯ เนื่องในงานอายุวัฒนะมงคล 65 ปี 45 พรรษาอีกด้วย
ส่วนบรรยากาศที่โดมที่พระลินไว้รับญาติโยมเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ไม่เหมือนตอนพระลินและพระบัวลัยอยู่ กุฏิถูกปิดเงียบสนิทมีการเอาป้ายมาติดประกาศ ห้ามถ่ายรูปก่อนได้รับอนุญาต เขตสงฆ์ห้ามเข้า แต่ก็ยังมีคนมาสักการะรูปปั้นองค์พระนาคปรก องค์พญานาค รูปปั้นท้าวเวสสุวรรณ ที่ตั้งอยู่ ส่วนการก่อสร้างต่างๆได้หยุดก่อสร้างแล้ว
ลูกศิษย์ท่านหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนเป็นชาว จ.อุดรธานี และเป็นลูกศิษย์ที่ศรัทธาพระลิน ด้วยความศรัทธามาวัดวันนี้เห็นท่านไม่อยู่น้ำตาก็ไหลพราก “เพราะเห็นสิ่งที่ท่านทำไว้สร้างไว้อีกท่านเป็นคนดีพระดี” ยิ่งมาดูข่าวรู้ข่าวที่ออกไปยิ่งทำให้หดหู่ ทำไมพระดีปฏิบัติดีต้องเป็นแบบนี้จึงทำให้น้ำตาไหล โดยส่วนตัวเราศรัทธาที่ท่านพาสร้างวัดให้เจริญและพาคนสวดมนต์ ปัจจัยที่คนให้ท่านไม่ได้เรียกร้องคนให้เพราะศรัทธาจริงๆ
ถ้าเป็นไปได้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงรับรู้อยากให้พระลินได้กลับมา ตอนแรกได้ยินข่าวว่าพระลินจะมาร่วมงานกฐินลึกๆก็รู้สึกดีใจว่าท่านจะมาร่วมบุญ แต่เมื่อมีข่าวถอนวีซ่าทำให้ท่านไม่ได้มาแล้วตอนนั้นนั่งอยู่บ้านขนหัวลุกน้ำตาไหลเลย ถ้ามีโอกาสจะไปหาท่านที่ สปป.ลาว และเป็นไปได้อยากให้ท่านกลับมาที่วัดนี้ดังเดิม ลูกศิษย์กล่าวด้วยความเศร้าใจ