กวาดล้างเครือข่ายคาวบอยบ่อแก้ว ยึดทรัพย์กว่า 118 ล้านบาท

(12 ก.พ.68) พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด , เจ้าที่หน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 5 และเจ้าหน้าที่ทหาร นำกำลังเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น "กวาดล้างเครือข่ายคาวบอยบ่อแก้ว" เพื่อจับกุมบุคคลในเครือข่ายฯ ตามหมายจับและยึดอายัดทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้อง 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.66 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ได้จับกุมผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมไอซ์ 999 กก.และเคตามีน 1,200 กก.บริเวณท่าเทียบเรือ อ.บางประกง จ.ฉะเชิงเทรา และเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.67 จับกุมผู้ต้องหา 10 ราย พร้อมไอซ์ 1,500 กก. ในพื้นที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี แล้วขยายผลจนทราบถึงกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน ซึ่งลำเสียงยาฯ ไปส่งให้กับกลุ่มที่ถูกจับกุม จึงได้เฝ้าสืบสวนพฤติการณ์เรื่อยมา 

กระทั่งเมื่อวันที่ 21 ม.ค.68 ได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางไอซ์ จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 600 กก.จากการสืบสวนขยายผล ทราบว่ามีผู้ร่วมลำเลียงยาเสพติดกับผู้ต้องหาและยังไม่ถูกจับกุม โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าว ทำหน้าที่เป็นผู้สั่งการว่าจ้าง และขับรถนำทางคุ้มกันการลำเสียงยาเสพติด และจากการตรวจสอบทรัพย์สินกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว ก็พบว่า จะให้เครือญาติถือครองทรัพย์สินแทน ซึ่งจากการสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้ต้องหายังได้นำเงินจากการลำเลียงยาเสพติด ไปฟอกเงินในธุรกิจประเภทบริษัทอสังหาริมทรัพย์ โดยให้เครือญาติเป็นนอมินี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับ 9 หมายจับ และเปิดปฏิบัติปิดล้อมตรวจค้นจำนวน 20 จุด ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ , จ.เชียงราย , จ.ลำพูน , จ.พะเยา และ จ.หนองคาย 

โดยสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 ได้สนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมปฏิบัติการ ตรวจยึดทรัพย์สิน 4 จุด ในพื้นที่ อ.สะเมิง , อ.ดอยสะเก็ด และ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งสามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้ 9 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดประมาณ 17.4 ล้านบาท ซึ่งจะมีการประสาน บก.ปส.3 บช.ปส. เพื่อเสนอเลขาธิการ ป.ป.ส.ออกคำสั่งตรวจสอบและยึดหรืออายัดทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ต่อไป ประกอบด้วย 

1. ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 4 แปลง มูลค่าประมาณ 6.4 ล้านบาท
2. อาคารพาณิชย์ 2 คูหา มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท
3. รถยนต์ 3 คัน มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท 

ส่วนผลการปฏิบัติการตรวจยึดทรัพย์สินทั้งหมด สามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้ จำนวนทั้งสิ้น 45 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ประมาณ 118.3 ล้านบาท ประกอบด้วย 

1. บ้านพร้อมที่ดิน 10 รายการ มูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท 
2. ที่ดิน 18 แปลง มูลค่าประมาณ 54 ล้านบาท 
3. สวนลำไย 70 ไร่ 1 แปลง มูลค่าประมาณ 17 ล้านบาท 
4. รถยนต์ 11 คัน มูลค่าประมาณ 6.6 ล้านบาท 
5. รถจักรยานยนต์ 5 คัน มูลค่าประมาณ 200,000 บาท 



มีรายงานด้วยว่า ทุกหน่วยงานจะได้ประสานการปฏิบัติร่วมกันภายใต้แผน SEAL STOP SAFE ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน ทำงานในหลายมิติ ทั้งการลาดตระเวนสกัดกั้นตามแนวชายแดน , การเฝ้าระวังบุคคลที่มีพฤติการณ์ในพื้นที่ชายแดน , การขยายผลกลุ่มเครือข่ายที่อยู่พื้นที่ชั้นใน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยในการทำงาน เพื่อหยุดยั้ง สกัดกั้น ปราบปราม ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ตัดต้นตอการผลิตและจำหน่าย ตลอดจนมาตรการยึดทรัพย์สินเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ และเครือข่ายผู้เกี่ยวข้อง ตามข้อสั่งการและนโยบายของรัฐบาล - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน