พรรคร่วมประสานเสียง ส่ง “แพทองธาร” ชิงเก้าอี้นายก

(15 ส.ค. 67) ที่อาคารชินวัตร 3 ถนนวิภาวดีรังสิต พรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย, พรรคภูมิใจไทย, พรรคพลังประชารัฐ, พรรครวมไทยสร้างชาติ, พรรคชาติไทยพัฒนา, พรรคประชาชาติ, พรรคชาติพัฒนา, พรรคไทรวมพลัง, พรรคเสรีรวมไทย รวม 9 พรรค ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีการเสนอชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้

โดยทั้ง 9 พรรคมีมติร่วมกันว่าจะส่งชื่อของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย โดยหากผ่านการลงคะแนนเสียงอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้แล้ว ก็จะทำให้ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31  นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย และเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

หัวหน้าพรรคร่วมแต่ละพรรคได้กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน ต้องออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจและน่าเสียดาย แต่เชื่อมันว่า น.ส.แพทองธารเองก็เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความสามารถ เชื่อมั่นว่าจะนำพารัฐบาลให้บริหารบ้านเมืองได้ประสบความสำเร็จ

ทางด้าน น.ส.แพทองธาร ได้กล่าวขอบคุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย สมาชิกพรรคที่เสนอชื่อ รวมถึงทุกคนที่ให้การสนับสนุน ยืนยันว่าต่อไปนี้จะทำทุกอย่างเต็มความสามารถ และยังบอกว่าที่ผ่านมาทุกคนชื่นชม การทำงานของนายเศรษฐา เสียดาย ที่เกิดเรื่องแบบนี้ ไม่ได้คาดฝันเอาไว้ นายเศรษฐา เป็นผู้ใหญ่ ที่ตนเคารพรักนับถือมาตั้งแต่ก่อนมาเป็นนายกรัฐมนตรี เห็นว่า ท่านมีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน 

ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล พร้อมผลักดันประเทศต่อ และมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคจะนำพาประเทศให้หลุดพ้นวิกฤตเศรษฐกิจไปได้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ว่าได้ให้คำแนะนำหรือไม่ น.ส.แพทองธารระบุว่า ก่อนหน้านี้นายทักษิณให้คำแนะนำหลายเรื่อง ถ้าต้องการคำปรึกษา ท่านพร้อมให้คำปรึกษาเสมอ ส่วนจะมาให้คำปรึกษาใกล้ชิดมากขึ้นหรือไม่ คงไม่ใกล้ชิดกว่านี้ แต่ในฐานะพ่อ มีประสบการณ์มาก่อน ท่านให้คำปรึกษาอยู่ตลอด

ในส่วนของนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีความกังวลกันว่าจะเอาอย่างไรต่อ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ต้องรับฟังความเห็น แต่ขอให้ได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีก่อน เดี๋ยวค่อยมาลงในรายละเอียดกันอีกที ตอนนี้ที่คุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ยังรับฟังความคิดเห็นอยู่