วิกฤติน้ำลำตะคอง เหลือใช้การได้เพียง 28 %
วิกฤติน้ำลำตะคอง เหลือใช้การได้เพียง 28 %
วิกฤติน้ำเขื่อนลำตะคอง เหลือใช้การได้เพียง 28 % ประมงพื้นบ้านได้รับผลกระทบแล้ว
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคอง หรือ เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ยังอยู่ในเกณฑ์ “น้ำน้อยวิกฤติ” โดยปริมาณน้ำเก็บกักล่าสุดวันนี้ อยู่ที่ 105.01 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 33.39 % ของความจุกักเก็บทั้งหมด 314.49 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นน้ำใช้การได้เพียง 82.29 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 28.21 % เท่านั้น โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ต้องบริหารจัดการน้ำอย่างรัดกุม เพราะต้องส่งจ่ายน้ำไปให้ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.สีคิ้ว , อ.สูงเนิน , อ.ขามทะเลสอ , อ.เมืองนครราชสีมา และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ได้ใช้ผลิตประปาเพื่อการอุปโภค-บริโภค มาเป็นอันดับแรก และให้เพียงพอใช้จนกว่าจะถึงฤดูฝนปีหน้า
โดยสาเหตุหลัก ที่มีปริมาณน้ำเก็บกักเหลือน้อยจนถึงขั้นวิกฤติ เนื่องจาก มีปริมาณฝนตกในพื้นที่เหนือเขื่อนลำตะคองน้อย ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 2567 ถึงปัจจุบัน มีมวลน้ำไหลมาเติมลงอ่างฯ สะสมแค่ 80.87 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 31.10 % เท่านั้น แต่ต้องส่งจ่ายระบายน้ำออก 95.46 ล้านลูกบาศก์เมตร ไปให้ 5 อำเภอ ได้ใช้ผลิตประปา , รักษาระบบนิเวศน์ลำน้ำ และอื่นๆ จึงต้องดึงน้ำเก็บกักต้นทุนมาใช้ ปัจจุบันเหลือน้ำใช้การได้แค่ 28.21 % ดังกล่าว
โดยสภาพน้ำที่ลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นประวัติการณ์นี้ ทำให้ถนนมิตรภาพสายเก่า บริเวณบ้านท่างอย ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง โผล่พ้นน้ำขึ้นมาให้เห็นเป็นแนวยาว ขณะที่ชาวบ้านที่ทำประมงพื้นบ้าน อาศัยจับปลาในเขื่อนลำตะคอง ไปบริโภคและขายสร้างรายได้ ต่างบ่นว่า หาปลาไม่ค่อยได้ เพราะน้ำในเขื่อนลำตะคองเหลือน้อย ส่งผลกระทบกับประมงพื้นบ้านเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ พ่อค้าแม่ค้าที่เคยมาตั้งแผงขายปลาสดๆ หรือปิ้งย่างปลาขาย ก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน โดยนางหนูกาย ศรีนลา อายุ 56 ปี เป็นชาวบ้านหมู่ 12 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง ให้ข้อมูลว่า ตนและครอบครัว เคยทำประมงพื้นบ้านหาปลาในเขื่อนลำตะคอง และตั้งแผงขายปลาสดๆ มาก่อน เพราะปริมาณน้ำในเขื่อนลำตะคอง ยังมีมาก ชาวบ้านหลายรายในพื้นที่จึงทำประมงกันอย่างคึกคัก เพราะหาปลาได้ง่าย สามีของตนก็มาหาปลาในเขื่อนลำตะคอง ไปขายสร้างรายได้เป็นประจำทุกปี รวมทั้งทำการเกษตร ปลูกผักสวนครัวขายด้วย
แต่มาปีนี้ น้ำเหลือน้อยกว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมา จึงทำประมงลำบาก และไม่สามารถสูบดึงน้ำมาใช้ทำการเกษตรได้ จึงต้องเปลี่ยนมาทำอาชีพขายอาหาร ลูกชิ้นทอด และเครื่องดื่มแทน โดยต่อพ่วงเป็นรถเคลื่อนที่ มาจอดขายอาหารให้กับชาวบ้านและนักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวบริเวณท่างอย ซึ่งบางวันก็แทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมธรรมชาติภายเขื่อนลำตะคอง เลยขาดรายได้อย่างมาก
ส่วนชาวบ้านที่ยังทนทำการเกษตรริมเขื่อนลำตะคอง ต่างก็กังวลและบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ปีนี้น้ำในเขื่อนลำตะคองแห้งมากที่สุด ทำการเกษตรมาหลายปีแล้ว แต่ปีนี้แล้งจริงๆ แทบไม่มีน้ำเลย ไม่รู้ว่าปีหน้าจะเอาน้ำที่ไหนมาปลูกผักสวนครัวขาย ยังเหลืออีกหลายเดือนกว่าจะถึงฤดูฝนปีหน้า กังวลว่า จะไม่มีน้ำให้ทำการเกษตร เพราะชลประทานต้องสงวนเก็บกักน้ำไว้ใช้ผลิตประปาอุปโภคบริโภคก่อน
ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง :