สั่งฟ้องผู้ต้องหา 12 ราย ความผิดฐาน “แข่งรถในทาง และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ”
สั่งฟ้องผู้ต้องหา 12 ราย ความผิดฐาน “แข่งรถในทาง และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ”

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สั่งฟ้องผู้ต้องหา 12 ราย ความผิดฐาน “แข่งรถในทาง และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ”
(21 ก.พ.68) ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./หัวหน้าคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ร่วมกับกรมทางหลวง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน ร่วมกันสืบสวนสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา
1.นายสิริชัยฯ อายุ 23 ปี
2.นายณัฐวุฒิฯ อายุ 22 ปี
3.นายณัฏฐพลฯ อายุ 30 ปี
4.นายศิวรุตฯ อายุ 26 ปี
5.นายกรองเกียรติฯ อายุ 40 ปี
6.นายธงชัยฯ อายุ 26 ปี
7.นายภาสกรฯ อายุ 21 ปี
8.นายพินิจฯ อายุ 32 ปี
9.นายศุภรัตน์ฯ อายุ 27 ปี
10.นายอลงกตฯ อายุ 23 ปี
11.นายภาณุภัทรฯ อายุ 27 ปี
12.นายศุภกรฯ อายุ 28 ปี
ฐานความผิด “ร่วมกันแข่งรถในทางฯ, ขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น และไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน และขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด” พร้อมตรวจยึดของกลาง รถยนต์ 12 คัน
พฤติการณ์ด้วยปรากฏคลิปวีดีโอซึ่งแพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2568 มีกลุ่มรถยนต์ลักษณะคล้ายรถแต่งซิ่ง ขับแข่งกันบนถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ด้วยความเร็วสูง และประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกัน จำนวน 13 คัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและมีทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย ซึ่งปรากฏภาพเคลื่อนไหว และภาพนิ่งเป็นข่าวเผยแพร่โดยทั่วไปเป็นวงกว้าง ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของท้องที่เกิดเหตุและความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนในลักษณะอุกอาจ ไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ก่อความเสียหายให้เกิดความหวาดกลัวแก่ประชาชนในวงกว้าง นั้น
สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 91+700 (มุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร) ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2568 เวลาประมาณ 02.20 น.
พนักงานสอบสวน ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. ได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วได้ความว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมด 12 ราย ได้รวมกลุ่มขับรถยนต์เข้าสู่ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) ซึ่งเป็นถนนสาธารณะ ทิศทางจากด่านเก็บเงินหนองขาม (กม.100) มุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขับขี่รถมาด้วยความคึกคะนอง และด้วยความเร็วสูงประมาณ 130-180 กม./ชม. ในลักษณะฉวัดเฉวียน แซงซ้ายขวา เปลี่ยนช่องเดินรถตลอดเวลา ขับกระจายกันเต็มพื้นที่ผิวถนนทุกช่องเดินรถ บ้างประกบซ้ายขวาของรถยนต์คันอื่นที่แล่นมาตามปกติ และแซงขึ้นหน้าในระยะและทิศทางที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
อันเป็นการขับรถโดยประมาทและน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน และเป็นการขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น และไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น ย่อมทำให้ผู้ใช้ถนนร่วมกับกลุ่มผู้ก่อเหตุเกรงกลัวต่อความปลอดภัย เป็นระยะทางต่อเนื่องกันไปกว่า 10 กิโลเมตร เมื่อถึงบริเวณที่เกิดเหตุรถของผู้ก่อเหตุ 1 ราย ได้เฉี่ยวชนกับผู้ใช้ทางอื่นเสียหลักและหมุนไม่เป็นทิศทางขวางช่องเดินรถ และผู้ก่อเหตุรายอื่นซึ่งแล่นรถมาด้วยความเร็วสูงไม่สามารถหลบหลีกได้ทัน เป็นเหตุให้รถทั้งหมด 13 คัน เฉี่ยวชนกันได้รับความเสียหาย และเศษชิ้นส่วนรถยนต์กระเด็นแตกกระจายไปทั่วทิศทางของถนนแทบไม่เหลือช่องเดินรถ อันเป็นการขับรถในลักษณะรวมกลุ่มแข่งรถกันในทาง โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงาน อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

การรถไฟฯ แจงเหตุรถกระบะชนกับขบวนรถเร็ว ระหว่างสถานีกันตัง - ตรัง มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ยืนยันจุดตัดมีสัญญาณเตือน

วุ่น! ป้าหัวร้อนขับฟอร์จูนเนอร์ไล่ชนดะ ผู้เสียหายนับ 10 ราย เดือดแห่แจ้งความ ตร.หิ้วตัวสอบ ไร้คำขอโทษจากเจ้าตัว
