หมุดไม่ตรงเป็นเหตุ ไรเดอร์โร่ขึ้นโรงพักแจ้งความลูกค้า

หมุดไม่ตรงเป็นเหตุ ไรเดอร์โร่ขึ้นโรงพักแจ้งความลูกค้า

371417 ม.ค. 68 14:14   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

สาเหตุจากหมุดไม่ตรง ไรเดอร์โร่ขึ้นโรงพักแจ้งความลูกค้า ทำเรื่องขอคืนเงินจากระบบทั้งๆ ที่ได้รับอาหารแล้ว ฝั่งลูกค้าชี้แจงเป็นเรื่องเข้าใจผิด ไรเดอร์เอาอาหารไปส่งร้านข้างๆ ไม่ใช่ที่ปักหมุดไว้ ตอนขอเงินคืนยังไม่เจอข้าวที่มาส่ง ไม่คิดไรเดอร์ถูกหักเงิน ยืนยันไม่ได้เหลี่ยมและพร้อมไกล่เกลี่ยชดใช้

(17 ม.ค. 68) ที่ สภ.เมืองขอนแก่น นายศักดิ์ชาย อายุ 51 ปี ไรเดอร์รับ-ส่งอาหารเดลิเวอรี่ นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดภายในศูนย์บริการรถยนต์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ในจ.ขอนแก่น และคลิปจากโทรศัพท์มือถือที่นายศักดิ์ชายเป็นคนถ่ายเอาไว้ มาแจ้งความ หลังลูกค้าที่ใช้บริการสั่งอาหารเดลิเวอรี่กับตน


โดยนายศักดิ์ชายเล่าว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.00 น. มีลูกค้าสั่งอาหารผ่านระบบ โดยเป็นการสั่งแบบตัดเงินเลย และในระบบแจ้งว่าลูกค้าปักหมุดไว้ที่ศูนย์บริการรถยนต์แห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น เมื่อตนรับอาหาร และขี่รถมาถึงตามหมุดแล้วก็โทรถามลูกค้าว่าให้เอาอาหารไว้ที่ใด ลูกค้าบอกให้เอาอาหารไว้ที่เคาน์เตอร์ ตนจึงฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ของศูนย์บริการฯ ดังกล่าว แล้วจบงานไป


สักพักใหญ่ลูกค้าคนดังกล่าวได้โทรกลับมาถามตนว่าเอาอาหารไปวางไว้ที่ไหน ตนก็ตอบตามความจริงว่าที่เคาน์เตอร์ของศูนย์บริการรถยนต์ แล้วก็วางสายไป ตนคิดว่าจะจบเรื่อง แต่ปรากฏว่าวันที่ 14 ม.ค. ระบบแจ้งมาที่ตนเองว่า ลูกค้าร้องเรียนว่าไม่ได้รับอาหารพร้อมกับหักเงินในบัญชีตนเองไปจำนวน 458.05 บาท ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น



เช้าวันต่อมา(15 ม.ค.) ตนจึงเข้าไปสอบถามที่ศูนย์บริการรถยนต์ที่ไปส่งอาหาร ซึ่งแม่บ้านบอกว่าเจ้าของร้านข้างๆ ที่เป็นผู้หญิงเป็นคนมาหยิบเอาไป ตนเองจึงนำเป็นหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดภายในศูนย์บริการรถยนต์ ทั้งตอนที่ตนมาส่งอาหาร และตอนที่ลูกค้ามารับอาหาร พร้อมคลิปที่ตนถามทางแม่บ้านย์ของศูนย์ฯ มาแจ้งความในวันนี้


นายศักดิ์ชาย ไรเดอร์รับส่งอาหารบอกอีกว่า หลังจากที่เข้าไปศูนย์บริหารรถยนต์สอบถามรายละเอียดก็กลับมาที่บ้านและโทรศัพท์ไปที่ร้านของลูกค้า แต่เจ้าของร้านไม่คุยให้ลูกน้องคุยแทนและลูกน้องบอกไม่รู้รายละเอียด ตนเองจึงไม่ทราบว่าได้รับอาหารไปแล้วหรือไม่ แต่ทางศูนย์บริการรถยนต์ยืนยันว่ารับไปแล้ว ตนจึงมาแจ้งความเพราะมองว่าเป็นความตั้งใจแจ้งเข้าระบบว่าไม่ได้รับสินค้าทั้งที่รับสินค้าไปแล้ว และกรณีนี้ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน



ตนเองไม่อยากพูดว่าลูกค้าโกง ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจในการดำเนินการ ตนเองตั้งใจให้กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่าง เพราะที่ผ่านมามีไรเดอร์โดนเหตุการณ์เช่นนี้หลายคนแม้ไม่ใช่กับลูกค้ารายนี้ ทั้งสั่งของเอาไปแล้วไม่จ่ายเงิน แจ้งระบบให้ดึงเงินของไรเดอร์ไปชดใช้คืน แต่ไม่มีใครกล้ามาแจ้งความ ตนก็อยากให้เรื่องนี้เป็นตัวอย่างว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร ยืนยันไม่ไกล่เกลี่ยและดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดตามขั้นตอน


พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับ นายภัทรพงศ์ อายุ 36 ปี ลูกค้าที่สั่งออเดอร์ดังกล่าว ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนเองได้ไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ที่ สภ.เมืองขอนแก่น เพราะต้องการพูดคุยกับคู่กรณี


เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการเข้าใจผิดและไม่ได้มีเจตนาจะโกง โดยตอนที่ไรเดอร์คู่กรณีโทรมาครั้งแรก ตนเข้าใจว่าไรเดอร์มาถึงร้านของตนแล้ว จึงแจ้งให้เอาอาหารวางที่เคาน์เตอร์ของร้านได้เลย ปรากฏว่าเวลาผ่านไปสักพัก พนักงานที่ร้านของตนเองโทรมาแจ้งว่ายังไม่ได้รับอาหารที่สั่ง ตนเองจึงทักไปในศูนย์ช่วยเหลือของแอปพลเคชันสั่งอาหารดังกล่าว สอบถามว่าไปส่งของที่ไหน เพราะว่ายังไม่ได้อาหาร ทางระบบจึงตอบกลับมาว่าไปส่งที่ศูนย์บริการรถยนต์แห่งหนึ่งที่ อยู่ใกล้ๆ กันประมาณ 20 เมตร



ตนเองจึงบอกว่าปักหมุดไว้ที่ร้านตนเองทำไมไปส่งทั่นั่น ทางคนส่งอาหารจึงบอกว่ามีโน๊ตไว้ให้ไปส่งที่ศูนย์บริการ ซึ่งในความเป็นจริงโน๊ตไม่ได้บอกให้ไปส่งที่ศูนย์บริการเลย จากนั้นพนักงานที่ร้านตนเองเดินไปเจออาหารวางอยู่ในศูนย์บริการรถยนต์ตอนเกือบ 16.00 น. ซึ่งตอนนั้นเวลาผ่านไปแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งก่อนที่จะเจอกล่องอาหาร ตนได้ได้ทำเรื่องเคลมกับทางระบบไปแล้ว โดยที่ไม่ทราบว่าระบบจะไปหักเงินของไรเดอร์คนดังกล่าวมาคืนให้ตน


หลังจากได้ของแล้วตนไม่ทราบว่าจะต้องติดต่อกับทางไรเดอร์หรือต้องแก้ไขเรื่องร้องเรียนในระบบอย่างไร จนเกิดเป็นเรื่องเข้าใจผิดขึ้นมา ตนยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะไปโกงหรือไม่หวังดีใดๆ และความตั้งใจของตนเองที่ไปลงบันทึกประจำวันไว้ เพราะอยากพูดคุยไกล่เกลี่ย ถ้ามาไกล่เกลี่ยตนพร้อมจ่ายเงินชดเชยจำนวนเงินที่โดนหักไป เพราะไม่อยากมีปัญหา และเข้าใจคนส่งอาหารเพราะตนเองก็เปิดร้านเหมือนกัน ยินดีที่จะพูดคุยอยากให้ติดต่อเข้ามาคุยกันเพราะเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ




TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง