พ่อค้าซาลาเปาช็อกจู่ ๆ มีชื่อเป็น ปธ.บริษัท โดนธนาคารทวงหนี้ 2.5 ล้าน

พ่อค้าซาลาเปาช็อกจู่ ๆ มีชื่อเป็น ปธ.บริษัท โดนธนาคารทวงหนี้ 2.5 ล้าน

143219 ก.ย. 67 19:43   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

พ่อค้าซาลาเปาช็อกจู่ ๆ มีชื่อเป็น ปธ.บริษัท โดนธนาคารทวงหนี้ 2.5 ล้าน ซ้ำถูกดีเอสไอเรียกสอบ

(19ก.ย.67) เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านจังหวัดระยอง ประกอบอาชีพขับรถซาพ่วงข้างขายซาลาเปาในพื้นที่ ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง จู่ ๆ มีจดหมายทวงหนี้ยอดเงิน 2 ล้านกว่าบาท จากธนาคารแห่งหนึ่ง ทีมข่าวลงพื้นที่เพื่อพบกับ นายชุมพล อินต๊ะปัญญา อายุ 60 ปี พ่อค้าขายซาลาเปาเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น


นายชุมพล เล่าว่า ปัจจุบันตนเองมีอาชีพเร่ขายซาลาเปาโดยใช้รถสามล้อคู่ใจในการเดินทาง ขายเพียงลูกละ 5 บาท 10 บาท จู่ ๆ เดือนกรกฎาคม 2566 มีจดหมายจากธนาคารมาถึงบ้านว่าเป็นหนี้ 2,559,041.16 บาท ตอนแรกตนเองตกใจมากคิดเพียงว่ามันเกิดเรื่องขึ้นได้อย่างไร จนสืบไปสืบมาจับต้นชนปลายจนรู้ความจริงว่า เรื่องที่เกิดขึ้น น้องชายแท้ ๆ ของตนเองได้มายืมบัตรประชาชนไปทำเรื่องซื้ออะไหล่รถแต่สุดท้ายเขาเอาชื่อตนเอง ปลอมลายมือชื่อ ไปเปิดบริษัทแล้วไปทำเรื่องกู้เงิน แล้วไม่ใช้หนี้ธนาคารจนทางธนาคารมาทวงหนี้กับตน


นายชุมพล บอกอีกว่า ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับน้องชายไว้ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. 67 ณ ปัจจุบันคดีก็ยังไม่คืบหน้าทางธนาคารก็ยังทวงหนี้มาอยู่


นายชุมพล ยังเล่าเพิ่มเติมว่า ตนเองยังถูก DSI เรียกไปสอบปากคำเพราะ DSI ตรวจพบความผิดปกติทางการเงินของบริษัทที่น้องชายเอาชื่อตนเองไปเปิด ตนเองได้ไปพบ DSI มาแล้ว และบอกว่าตนเองมีอาชีพขายซาลาเปา ไม่ได้เปิดบริษัท ซึ่งตอนนี้ DSI กำลังสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่


นายชุมพลกล่าวทิ้งท้ายว่า สงสัยการปล่อยสินเชื่อของธนาคารว่าปล่อยให้กู้เงินไปได้อย่างไรยอดเงินเยอะขนาดนี้จะไม่ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อมูลเลยหรือว่าชื่อคนกู้กับอาชีพที่ทำอยู่ตรงกันหรือเปล่าเพราะตนเองเชื่อว่า อาชีพขายซาลาเปาไม่มีทางกู้เงินได้ขนาดนี้แน่นอน


สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น นายชุมพล ขอเพียงได้รับความเป็นธรรมว่าตนเองไม่ได้เป็นคนกู้เงิน ไม่ได้มีส่วนรู้เห็น ที่มีชื่อไปปรากฏเป็นประธานบริษัท จึงอยากขอวิงวอนให้ทางธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง