รวบหนุ่มลวงเด็ก 14 ผ่านเฟซบุ๊กขยี้กาม ก่อนหนีกบดานเมียนมา สุดท้ายไม่รอด

(19 เม.ย.68) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล สว. กก.3 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ.ร่วมกันจับกุม นายณัฐนนท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี บริเวณจุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามแม่น้ำสาย แห่งที่ 1 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.379/2567 ลงวันที่ 3 ก.ค.67 ในความผิดฐาน 

1. พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดา มารดา เพื่อการอนาจารฯ 
2. พาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม 
3. กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม 
4. กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 14 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน

สืบเนื่องจาก ในปี 2567 ก่อนเกิดเหตุ นายณัฐนนท์ ผู้ต้องหา ได้รู้จักกับผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เด็ก อายุไม่เกิน 15 ปี ผ่านทางเฟซบุ๊ก จึงได้มีการพูดคุยกันเรื่อยมา กระทั่งนายณัฐนนท์ ได้ชักชวนผู้เสียหายให้มีเพศสัมพันธ์ที่ห้องน้ำบริเวณใกล้บ้านผู้เสียหาย เมื่อผู้ปกครองของผู้เสียหายทราบเรื่อง จึงได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ต่อพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้หลบหนีออกจากพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามตัวเรื่อยมา

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ รวมถึงความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทั่วไป และบุคคลตามหมายจับทั่วประเทศ เมื่อทำการสืบสวนจึงทราบว่านายณัฐนนท์ ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้หลบหนีไปยังประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นการข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย จึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.เชียงราย เพื่อให้ประสานงานกับตรวจคนเข้าเมืองท่าขี้เหล็ก เมียนมา ซึ่งจะมีการส่งตัวผู้ต้องหา ที่ได้กระทำความผิดกฎหมายหลบหนีไปอยู่ในประเทศเมียนมากลับประเทศไทย 

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้เดินทางไปรับตัวนายณัฐนนท์ ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามแม่น้ำสาย แห่งที่ 1 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายจับ ให้นายณัฐนนท์ตรวจสอบ และผู้ต้องหายอมรับว่า ตนเป็นบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าชุดจับกุม จึงได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหา และนำผู้ต้องหาส่ง สน.ประเวศ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบี้องต้น รับสารภาพตามข้อกล่าวหา

โอกาสนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง ฝากประชาสัมพันธ์เตือนภัย ปัจจุบันโซเชียลมีเดีย มีอิทธิพลในหมู่เยาวชนเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีหรืออาชญกรรมในรูปแบบต่างๆแฝงมาด้วย ทำให้วัยรุ่นหรือเยาวชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจตกเป็นเหยื่อของบุคคลผู้ไม่หวังดีกลุ่มนี้ได้ ดังนั้น บิดา มารดา หรือผู้ปกครอง ควรเอาใส่ใจและคอยสังเกตลูกหลานในการเล่นโซเชียลมีเดีย และสอนวิธีการใช้อย่างถูกต้อง และปลอดภัยให้กับลูกหรือบุตรหลานอยู่เสมอ - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน