“กัน จอมพลัง” บุก อว. จี้คดีรุ่นพี่กระทืบ 2 พ่อ-ลูก

“กัน จอมพลัง” บุก อว. จี้คดีรุ่นพี่กระทืบ 2 พ่อ-ลูก

51419 ส.ค. 67 14:18   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

“กัน จอมพลัง” บุกกระทรวงอุดมศึกษาฯ จี้คดีรุ่นพี่ มทร.สุวรรณภูมิรุมกระทืบ 2 พ่อลูกเจ็บหนัก ขอความชัดเจนจากมหาวิทยาลัยว่าจะมีมาตราการเยียวยาช่วยเหลือและป้องกันเหตุในอนาคตอย่างไร - ฝั่งมหาวิทยาลัยแจงตรวจสอบแล้วไล่ออกแน่นอน

(19 ส.ค. 67) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้เดินทางไปที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี 2 พ่อลูกถูกทำร้ายร่างกายในพื้นที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ หลังมีปัญหากันกับรุ่นพี่กลุ่มหนึ่งจากเรื่องรับน้องโหด และครอบครัวของนักศึกษารุ่นน้องที่ถูกทำร้ายได้พาลูกไปลาออกจากมหาวิทยาลัย


โดยอยากได้ความชัดเจนจากมหาวิทยาลัย ว่าจะมีมาตราการเยียวยาช่วยเหลือและป้องกันเหตุในอนาคตอย่างไร เพราะมีองค์กรเถื่อนไปชักชวนเด็กถึงในรั้วสถานศึกษา พร้อมกับให้ตรวจสอบว่าเด็กที่ก่อเหตุ เป็นนักเรียนในสถาบันอยู่หรือไม่ หากผลออกมาว่าไม่ใช่นักเรียนทางโรงเรียนจะแจ้งความหรือไม่ และให้ช่วยตรวจสอบว่ามีครูรู้เห็นเป็นใจกับองค์กรนี้หรือไม่ 


กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ในวันนี้อยากจะให้ทาง น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ประสานไปยังมหาวิทยาลัยที่เกิดเหตุ และหลังจากนี้จะรอดูคำตอบจากทางมหาวิทยาลัยก่อน แต่ยืนยันว่าทุกคำถามที่ฝากถามไปนั้นตนมีหลักฐานอยู่ในมือทั้งหมด


เรื่องนี้อย่ามองว่าเป็นเรื่องนอกสถาบัน เพราะผู้ปกครองของน้องวัย 20 ก็ถูกทำร้าย ภายในรั้วสถาบัน รวมถึงข่าวนี้ได้รับความสนใจไปถึงชาวเน็ตประเทศจีนที่มีการพูดถึงกันในโลกโซเชียล ซึ่งสร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศชาติ  พร้อมบอกว่าคนภายกลุ่มผู้ก่อเหตุ เพื่อนร่วมสถาบัน กลุ่มรุ่นพี่ และศิษย์เก่า ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่รุนแรงเช่นนี้ได้ออกมาให้ข้อมูลกับ กัน จอมพลังเป็นที่เรียบร้อยจนตอนนี้ทำให้ทราบแล้วว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นใคร รวมถึงมีข้อมูลส่วนตัวแล้วทั้งหมด เพราะฉะนั้นอยากฝากไปถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุว่า “ไม่ควรปากดี พอถึงเวลาก็วิ่งหนีห่างจุกตูด” 


นอกจากนี้กัน จอมพลัง ยังเปิดเผยว่าภายในสถาบันกลุ่มรุ่นพี่จะมีการบังคับให้รุ่นน้องซื้อดอกบัวมาไหว้ โดยมีหลักฐานเป็นรูปกระถางดอกบัวที่จะต้องเปลี่ยนทุกวัน หากใครไม่ทำตามก็จะถูกลงโทษ โดยอ้างว่าที่ต้องทำแบบนี้เป็นการรักสถาบัน ทั้งนี้ยังได้ข้อมูลมาอีกว่าทางกลุ่มรุ่นพี่จะมีการให้ท่องบทกลอนที่มีการสืบทอดกันมาแล้วหลายรุ่น มีการปลูกฝังให้สังหารคนอื่น รวมถึงมีการสอนให้ทำร้ายร่างกายครู


หลังจากประชุมร่วมกันประมาณ 1 ชั่วโมง น.ส.สุชาดา เลขานุการ รมว.อว. เปิดเผยว่า ทางกระทรวงฯ ได้สั่งการ ให้มหาวิทยาลัยดำเนินการและตรวจสอบ 4 ประเด็น คือ 


1.ตามภาพที่ปรากฏในสื่อ ที่มีความรุนแรงในมหาวิทยาลัย ทางกระทรวงมีความเห็นว่าผู้ที่กระทำผิดอย่างชัดเจนมีโทษ “ไล่ออก” ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ตรวจสอบรายชื่อแล้ว ว่าเป็นชื่อใครบ้าง โดยให้ออกจากการศึกษาวันนี้


2.ส่วนที่ ได้รับรายงานเพิ่มเติม จาก กัน จอมพลัง ถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น ผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่า ได้ไปชกต่อยในสถานศึกษา ทางกระทรวงฯ ได้กำชับทางมหาวิทยาลัยโดยให้เวลาสองวันในการตรวจสอบว่ามีใครก่อเหตุขึ้นอีก มหาวิทยาลัย  มีบทลงโทษ “ไล่ออก” เช่นเดียวกัน


3.ส่วนที่เข้าไปก่อเหตุมี 4 คน ส่วนอีก 4 คนอยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อขยายผลถึงระบบการรับน้อง ซึ่งทางผู้เสียหายบอกว่ามีผู้เข้าร่วม 40-50 คน ทางมหาวิทยาลัยอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีใครอีกบ้าง ซึ่งต้องได้รับผลของการกระทำนอกจากระเบียบของวิทยาลัยแล้ว มีโทษ “ไล่ออก” เช่นกัน


4.หลังได้รับรายงานจาก กัน จอมพลัง ถึงระบบการใช้ความรุนแรงในมหาวิทยาลัยและบ่มเพาะความเชื่อในที่ไม่ดี ขัดต่อจริยธรรมและสิ่งที่เป็นไปในสังคม ทางมหาวิทยาลัยอยู่ระหว่างตรวจสอบ พร้อมกับให้รายงานกระทรวงกลับมาไม่เกินภายในเดือนสิงหาคมนี้


ทางด้าน ผศ.พัชระ กัญจนกาญจน์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ระบุว่า ตั้งแต่เกิดเหตุมหาวิทยาลัยและผู้บริหารไม่ได้นิ่งนอนใจ ทำงานหนักมาตลอดเวลา พร้อมได้เข้าไปเยี่ยมและให้กำลังใจผู้เสียหาย ช่วยค่ารักษาพยาบาล รวมถึงหาข้อมูลและตั้งคณะกรรมการสอบทั้งหมด 


กรณีทำร้ายร่างกายที่เกิดขึ้นแยกเป็นสองประเด็นคือ ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดสามตัว ยืนยันว่า มี 8 คนในเหตุการณ์ มี 4 คน เข้าไปทำร้ายร่างกาย ทางมหาวิทยาลัย ยืนยันว่า “ไล่ออก” เพราะผิดกฎมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว ส่วนอีก 4 คนยังไม่ชัดเจนว่าเข้าทำร้ายร่างกาย เพียงแต่อยู่ในเหตุการณ์ ต้องมีการสอบสวนว่าเกี่ยวข้องกับการทำกิจกรรมที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ หากพบว่ามีก็จะลงโทษเคร่งครัดและเด็ดขาดคือ “ไล่ออก” เช่นเดียวกัน โดยทั้ง 8 คนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยทั้งหมด ไม่มีคนนอกในเหตุการณ์


ขณะเดียวกันได้ทราบข้อมูลจาก กัน จอมพลัง ที่  ทำให้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมขึ้น ซึ่งทางวิทยาลัยไม่สนับสนุนให้ดำเนินการอยู่แล้ว


ขณะที่ นายสัญญา คำจริง รองอธิการบดี มทร.สุวรรณภูมิ ระบุว่า ทางมหาวิทยาลัย มี 4 มาตรการ และ 1 นโยบาย คือ


1.เรื่องการเข้าออกพื้นที่มหาวิทยาลัย ให้มีการคัดกรองนักศึกษาและบุคคลภายนอก โดยนักศึกษาต้องแสดงบัตร ทั้งบัตรประจำตัวนักศึกษาและบัตรประจำตัวนักศึกษาอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ที่ไม่มีบัตรนักศึกษาให้แลกบัตรประชาชนหรือบัตรทางราชการ ผู้ที่ไม่มีบัตรประชาชนยืนยัน ทางมหาวิทยาลัยไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่


2.ห้ามทำกิจกรรมเกินเวลา 18:00 น. หากเกินเวลาต้องทำเรื่องขออนุญาตทางมหาวิทยาลัยหรือคณะที่ปรึกษาต้นสังกัด  


3.กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินหรือพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยง และส่งผลต่อมหาวิทยาลัยโดยนักศึกษา ให้บุคลากรทางมหาวิทยาลัยหรือผู้บังคับบัญชารายงานตามลำดับขั้น  


4.ต้องกำชับ หากมหาวิทยาลัยพบว่าบุคคลใดรับทราบ รู้เห็นเป็นใจ ส่งเสริม หรือมีส่วนร่วมให้เกิดเหตุอันไม่พึงประสงค์ภายในหรือนอกมหาวิทยาลัย ทางมหาวิทยาลัยจะสอบสวนหาข้อเท็จจริงและดำเนินการลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงต่อบุคลากรท่านนั้น


ส่วนนโยบายที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ ได้ประสานกับทาง สำนักวิจัยและพัฒนาอาชีวศึกษา(สวส.) และทำงานร่วมกัน โดยการสร้างระบบสแกนเข้าออกหรือโดยใช้เอไอ(ai) เพื่อตรวจสอบคนเข้าพื้นที่



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง