สุดเศร้า! เพลิงไหม้บ้านยาย 81 หนีไม่ทัน เสียชีวิตพร้อมสุนัข 2 ตัว

สุดเศร้า! เพลิงไหม้บ้านยาย 81 หนีไม่ทัน เสียชีวิตพร้อมสุนัข 2 ตัว

44313 ก.ย. 67 11:02   |     ่joe

ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง เจ้าหน้าที่กู้ภัยห่อร่างคุณยายวัย 81 ปี ออกจากกองเถ้าถ่าน พร้อมสุนัขคู่ใจอีก 2 ตัว หลังเพลิงไหม้บ้านนานกว่า 2 ชั่วโมง

เมื่อเวลา 21.35 น. วันที่ 12 ก.ย. 67 พ.ต.ท.เฉลิมยศ พรมสุวรรณ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยในซอยชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี มีหญิงชราติดในบ้านยังไม่สามารถออกมาได้ หลังรับแจ้งจึงประสานดับเพลิงเทศบาลนครอุบลราชธานี องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี พร้อม พล.ต.ต.ประสงค์ เรืองเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี นางสาวพิศทยา ไชยสงคราม นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี ลงพื้นที่อำนวยการเหตุการณ์


ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นยกสูง เพลิงลุกโหมบ้านทั้งหลังจนเป็นกองเพลิงขนาดใหญ่ สูงกว่า 10 เมตร ทำให้การสกัดเพลิงค่อนข้างลำบาก จึงต้องขอรถน้ำจากเทศบาลเมืองแจระแม เทศบาลตำบลอุบล และทีมดับเพลิงจากหน่วยกู้ภัยศิษย์พระจี้กง กู้ภัยจีตัมเกาะ เข้าสนับสนุน ขณะที่พลเมืองดีแจ้งว่าภายในบ้านน่าจะมีหญิงชราติดอยู่ภายในบ้าน พร้อมกับสุนัขอีก 2 ตัว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องเร่งระดมฉีดน้ำเพื่อเข้าค้นหาหญิงดังกล่าว


จนกระทั่งเวลา 23.30 น. เพลิงสงบ เจ้าหน้าที่พยายามรื้อสังกะสีและกองถ่านจนถึงหลังบ้าน เจ้าหน้าที่พบร่างของนางวิชัย (ยายติ๋ว) อายุ 81 ปี ถูกเพลิงไหม้กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และบนห้องน้ำชั้น 2 ของบ้านพบซากสุนัข 1 ตัว ด้านล่างบ้านพบซากสุนัขที่เลี้ยงไว้อีก 1 ตัว เจ้าหน้าที่จึงได้นำร่างของนางวิชัยออกมาให้แพทย์นิติเวชทำการชันสูตรเบื้องต้น ก่อนจะส่งนำไปเก็บรักษาที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี และส่งชันสูตรอัตลักษณ์บุคคลอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลตำรวจ


สอบถามนายปรมัตถ์ อายุ 32 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า บ้านหลังเกิดเหตุมีคุณยายอยู่กับลูกชาย สุนัข 2 ตัว ตอนเกิดเหตุตนนอนอยู่ในหอพักตรงข้าม มีเสียงคล้ายไฟช็อต 2 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้สนใจ พอครั้งที่ 3 จึงได้ออกมาดู พบว่าเพลิงกำลังไหม้บ้านของยายติ๋ว ตอนนั้นเพลิงได้ลุกโหมแรงมาก ตนจึงได้โทรแจ้ง 191 เพื่อขอความช่วยเหลือ ขณะที่เพลิงกำลังโหมแรงขึ้น ตนก็เห็นลักษณะเหมือนคุณยายล้มลงอยู่แถวประตูชั้น 2 จากนั้นก็ไม่เห็นคุณยายอีก


นายธวัชชัย อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิศิษย์พระจี้กง ซึ่งมาถึงชุดแรก เล่าว่า เมื่อมาถึงพบว่าเพลิงกำลังลุกโหมประตูด้านหน้ามีกุญแจคล้องไว้ เมื่อเปิดเข้าไปตนได้ยินเสียงคนแก่ร้องว่าร้อน และมีเสียงสุนัขเห่า แต่ตอนนั้นเพลิงลุกสูงมาก จนทำให้ไม่เห็นคุณยาย และรถน้ำก็ยังมาไม่ถึง จึงไม่สามารถเข้าไปช่วยคุณยายได้


นายสัญชัย อายุ 55 ปี ลูกชายนางวิชัย บอกว่า ปกติบ้านหลังนี้จะมีตนและคุณแม่อยู่ประจำ 2 คน คุณแม่เลี้ยงสุนัขหลังอานไว้เป็นเพื่อนอีก 2 ตัว ส่วนตนก็จะออกไปทำงานกลับค่ำเกือบทุกวัน บางวันไปนอนพักบ้านภรรยาที่อำเภอเดชอุดม ก่อนเกิดเหตุตนทำงานอยู่สำนักงานแถวถนนคลังอาวุธ มีเพื่อนบ้านโทรไปบอกว่ามีไฟไหม้อยู่ซอยชยางกูร จึงได้รีบกลับมาเพราะคิดว่าต้องเป็นบ้านของตน เมื่อมาถึงตนรู้สึกสิ้นหวังเพราะเพลิงเผาทุกอย่างจนวอดหมด ส่วนแม่คาดว่าจะอยู่ในกองเพลิง เพราะโทรหาไม่ติด และไม่มีใครมารับคุณแม่ไปไหน


นายสัญชัย ยังเล่าอีกว่า คุณแม่เป็นคนชอบทำอาหารให้กับสุนัข ตนพยายามห้ามหลายครั้งให้ใช้เตาไฟฟ้า แต่คุณแม่ก็ไม่ทำตามเพราะท่านเป็นอัลไซเมอร์ ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าอาจจะเกิดจากที่คุณแม่ทำอาหารให้สุนัขที่ท่านเลี้ยงไว้ เพราะตนเองเพิ่งเปลี่ยนสายไฟไปไม่นาน และตนเป็นคนทำเองกับมือ จึงไม่น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร


เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของเพลิงไหม้ได้ในตอนนี้ เนื่องจากต้องรอผลจากพิสูจน์หลักฐาน และสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนร่างของนางวิชัยจะส่งไปตรวจชันสูตรและตรวจอัตลักษณ์ที่โรงพยาบาลตำรวจต่อไป

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง