โรคพิษสุนัขบ้าคร่าชีวิตได้! แนะประชาชนป้องกันฉีดวัคซีนก่อนเกิดเหตุที่ไม่คาดคิด

(เรียบเรียงโดย กัญญาณัฐ อาศัย)

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดขอนแก่น มีวัวตัวหนึ่งถูกสุนัขกัด จนเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ทำให้กลายเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความกังวลให้กับชาวบ้านในพื้นที่ เหตุเพราะโรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคแพร่ระบาด ที่สามารถติดต่อจากสัตว์สู่สัตว์ และสัตว์สู่คนได้ โดยโรคพิษสุนัขบ้านั้นถือเป็นโรคร้ายแรงที่หากไม่ป้องกันหรือรับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เสียชีวิตได้

โรคพิษสุนัขบ้า หรือที่เรียกกันว่า โรคกลัวน้ำ เป็นโรคร้ายแรงที่ยังไม่มียารักษาในปัจจุบัน ผู้ที่ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าและไม่ได้รับการป้องกันหรือรักษาอย่างทันเวลา มักเสียชีวิตเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ โรคพิษสุนัขบ้าเกิดจากเชื้อไวรัสที่สามารถติดต่อจากสัตว์สู่สัตว์ และสัตว์สู่คน โดยผู้ป่วยมักได้รับเชื้อผ่านทางน้ำลายของสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น สุนัข แมว หรือสัตว์ป่า ซึ่งน้ำลายจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางการกัด การข่วน หรือบาดแผล แม้การสัมผัสกับเยื่อเมือกของสัตว์ติดเชื้อ เช่น ปากหรือดวงตา ก็อาจนำไปสู่การติดเชื้อได้

อาการของโรคพิษสุนัขบ้า

ผู้ป่วยจะแสดงอาการป่วยโดยเฉลี่ยประมาณ 3 สัปดาห์ ถึง 3 เดือน ในบางรายอาจใช้เวลานานหลายปี โดยอาการของโรคพิษสุนัขบ้าจะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ

• ระยะที่ 1 ผู้ป่วยจะมีอาการ เช่น ไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามตัว หนาวสั่น คลื่นไส้อาเจียน กระวนกระวายนอนไม่หลับ ในบางรายอาจมีอาการเจ็บ เสียวแปล๊บคล้ายเข็มทิ่ม หรือคันอย่างมากบริเวณที่ถูกกัด ซึ่งเป็นลักษณะที่จำเพาะของโรค ระยะนี้มีเวลาประมาณ 2-10 วัน
• ระยะที่ 2 ผู้ป่วยจะมีอาการสับสน วุ่นวาย กระสับกระส่าย อยู่ไม่นิ่ง กลืนลำบาก รวมถึงกลัวน้ำ อาการจะมากขึ้นหากมีเสียง ดัง หรือถูกสัมผัสเนื้อตัว จากนั้นผู้ป่วยอาจมีอาการชักและเป็นอัมพาต ระยะนี้มีอาการประมาณ 2-7 วัน
• ระยะที่ 3 ผู้ป่วยอาจมีภาวะหายใจล้มเหลว หัวใจหยุดเต้น โคม่า และเสียชีวิตในเวลาอันสั้น

เมื่อแสดงอาการดังกล่าว โรคจะรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วและมักนำไปสู่การเสียชีวิตในที่สุด

การป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

แม้โรคพิษสุนัขบ้าจะไม่มีวิธีรักษาหากแสดงอาการแล้ว แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า โดยสิ่งสำคัญที่ควรปฏิบัติเพื่อป้องกันโรค ได้แก่

1. การฉีดวัคซีนป้องกันในสัตว์เลี้ยง เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรพาสัตว์ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างสม่ำเสมอ
2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์จรจัดหรือสัตว์ที่มีอาการผิดปกติ เช่น น้ำลายฟูมปาก หรือแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว
3. หากถูกกัดหรือข่วน ควรล้างแผลทันที ด้วยน้ำสะอาดและสบู่ และรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกัน
4. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกอย่างถูกวิธี ไม่รับประทานอาหารดิบสด

ดังนั้นการป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทั้งการฉีดวัคซีนให้สัตว์เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ การหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรืออยู่ใกล้สัตว์ที่มีอาการผิดปกติ รวมถึงการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากเนื้อสัตว์ เพื่อความปลอดภัยของตนเองและคนรอบข้าง อย่าลืมให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคนี้ในทุก ๆ ด้าน และหากพบเห็นสัตว์ที่มีอาการผิดปกติ ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อร่วมกันสร้างความปลอดภัยและลดการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า

แหล่งที่มา

โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

ข่าวเพจเฟซบุ๊ก : ขอนแก่นลิงก์ Khon Kaen Link

วันที่ 30 ม.ค. 2568

ข่าวเวิร์คพอยท์23

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ขอนแก่นเจอวัวติดพิษสุนัขบ้า เตือนงดกินเนื้อ-เลือดวัวดิบ
• วัวติดเชื้อพิษสุนัขบ้าพ่นพิษ! ร้านลาบก้อยที่ขอนแก่นยอดขายลด เงียบเหงากว่า 2 สัปดาห์แล้ว