ดับฝันคู่รัก หาเงินจัดงานวิวาห์ ลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์

(31 มี.ค.67) จากการสืบสวนทราบว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ เพื่อป้องกันการสืบสวนจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ต้องหาจะใช้เฟสบุ๊กอวตารปิดบังชื่อที่แท้จริง เป็นช่องทางในการจำหน่าย โดยใช้วิธีการส่งพัสดุให้กับลูกค้าที่อยู่ในต่างจังหวัดหรือไม่สะดวกมารับบุหรี่ไฟฟ้าด้วยตนเอง ส่วนลูกค้าที่เป็นแฟนประจำมารับสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าที่บ้านผู้ต้องหา ก็จะใช้วิธีการจำหน่ายโดยให้ลูกค้าที่สั่งของโอนเงินค่าสินค้ามาก่อน จากนั้นผู้ต้องหาจะนำบุหรี่ไฟฟ้า ไปวางไว้ที่กล่องรับพัสดุหน้าบ้านผู้ต้องหา ป้องกันการล่อซื้อของตำรวจ

จากการสืบสวนมาได้สักระยะหนึ่งจึงทราบชื่อที่อยู่หมายเลขบัญชีและเฟสบุ๊กอวตารซึ่งเป็นช่องทางในการจำหน่ายโดยพบว่าผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าวนั้น อยู่ในช่วงเก็บเงินเพื่อจะเข้าพิธีวิวาห์กลางเดือนพ.ค.ที่จะถึงนี้ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3, พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม รอง ผบก.น.3, พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี, พ.ต.ท.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รอง ผกก.สน.มีนบุรี สั่งการให้ พ.ต.ท.ชนันท์ธัช แก้วทอง, พ.ต.ต.ประจักษ์ กุลนาพันธ์ สว.สส.สน.มีนบุรี พร้อมฝ่ายสืบสวน วางแผนโดยวิธีการล่อซื้อ และขอหมายค้น เข้าไปทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวหลังจากทำการล่อซื้อสำเร็จ เมื่อสายลับติดต่อขอซื้อบุหรี่ไฟฟ้า จากนั้นผู้ต้องหาจะนัดให้ไปรับบุหรี่ไฟฟ้าที่ตู้ไปรษณีย์หน้าบ้านในเวลากลางคืน เมื่อทำการล่อซื้อได้สำเร็จ แต่เนื่องด้วยเป็นยามวิกาลจึงไม่สามารถเข้าไปทำการตรวจค้นได้

ต่อมาวันที่ 30 มี.ค. 67 พ.ต.ท.ชนันท์ธัช แก้วทอง และ พ.ต.ต.ประจักษ์ กุลนาพันธ์ สว.สส.สน.มีนบุรี พร้อมกำลังเจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี นำหมายค้นของศาลอาญามีนบุรี ที่ ค.185/2567 ลงวันที่ 29 มี.ค.67 เข้าทำการตรวจค้นบ้านพักดังกล่าว พบ ผู้ต้องหาทั้งสองคนแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน จึงนำเจ้าพนักงานตำรวจเข้าตรวจค้น พบบุหรี่ไฟฟ้า, น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า, ป้ายบอกราคา, ป้าย QR CODE แสดงหมายเลขบัญชี เพื่อส่งให้ลูกค้าทราบรายการและราคาของบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาเติมสำหรับบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมกับบัญชีในการรับโอนเงินค่าสินค้าตามที่ลูกค้าสั่ง พบกล่องบรรจุอาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ GLOCK 19, ซองกระสุนปืน สำหรับอาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ GLOCK 19 จำนวน 1 ซอง, ไฟฉายติดอาวุธปืนพกสั้น จำนวน 1 อัน และกล่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม.(ไม่มีลูกกระสุน) จำนวน 1 กล่อง ซึ่งน.ส.เกษรับว่าเป็นของตนเอง ซึ่งลุงเป็นผู้ซื้อให้ ต่อมาแม่เดินทางไปต่างจังหวัด จึงให้แม่นำอาวุธปืนติดตัวไปเพื่อป้องกันตัวระหว่างเดินทาง จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลางส่ง พ.ต.ต.ชัยวุฒิ อรุณปรีด์ พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 กล่าวว่าการที่ผู้ต้องหาทั้งสองคนช่วยกันวางแผนเก็บเงินเพื่อนำไปสร้างครอบครัว เพื่อนำจัดงานแต่งงาน เป็นเรื่องดี ที่น่ายกย่อง แต่การเก็บเงินเก็บทองที่ได้มาโดยไม่ชอบ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง "อย่าได้หาทำ"