ข้าวแกง 20 บาท เห็นด้วยค่าแรง 400 แต่หวั่นต้องขึ้นราคาขาย

(9 พ.ค. 67) จากกรณีกระทรวงแรงงานได้ออกมายืนยันจะมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำทุกอาชีพ 400 บาท พร้อมกันทั่วประเทศ โดยจะให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ต.ค.67 นี้ ท่ามกลางกระแสคัดค้านของ 76 หอการค้า และ 54 สมาคมการค้า

ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรม และย่านการค้าที่สำคัญของจังหวัด มีผู้ใช้แรงงานอยู่เป็นจำนวนมาก โดยได้พูดคุยกับ น.ส.ธญมน เจ้าของร้านข้าวแกง “นายโด่ง” ที่เปิดขายในราคาจานละ 20 บาท มานานกว่า 10 ปี ถึงประเด็นดังกล่าว ก่อนที่เปิดใจว่า ส่วนหนึ่งตนก็เห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท พร้อมกันทั่วประเทศ เพราะรู้สึกเห็นใจผู้ใช้แรงงานทุกคน ต่างก็มีภาระค่าใช้จ่ายต่อวันที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ในทางกลับกัน ยอมรับว่ารู้สึกกังวลกับผลกระทบที่อาจตามมา ในเรื่องของค่าครองชีพ รวมถึงราคาสินค้าอุปโภค - บริโภค ที่จะทยอยขึ้นเป็นเงาตามตัว

ในสถานการณ์ปัจจุบัน ทางร้านต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้จำนวนวัตถุดิบในปริมาณเท่าเดิม จากเคยถือเงินในมือ 3,000 บาทไปจ่ายตลาดกลายเป็น 4,500 บาท เนื่องจากวัตถุดิบเกือบทุกชนิดปรับขึ้นราคา ทั้งผัก เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ และเครื่องปรุง ยังไม่รวมถึงราคาค่าแก๊สหุงต้มที่ปรับขึ้นมาก่อนหน้านี้ ส่วนต่างของต้นทุนในแต่ละวัน แทนที่จะได้มาเป็นกำไร กลับต้องหายไป จนกำไรในแต่ละวันแทบไม่เหลือ จึงจำเป็นต้องปรับราคาข้าวแกงบางเมนูที่ต้นทุนสูงขึ้นเป็น 30 บาท อาทิ ผัดกะเพราเนื้อ และผัดเผ็ดปลาดุก  

ทั้งนี้ ถ้าช่วงปลายปีมีการปรับค่าแรง 400 บาท แล้วต้นทุนวัตถุดิบปรับขึ้นราคา ทางร้านคงจำเป็นจะต้องปรับราคาขายทุกเมนูขึ้นทั้งหมด เพราะคงจะแบกรับภาระต้นทุนไม่ไหวอีกแล้ว แต่หากต้นทุนไม่ขยับมากไปกว่านี้ ก็จะพยายามขายในราคา 20 บาทต่อไป เพราะสงสารลูกค้า อุดหนุนกันมานาน อะไรที่พอจะช่วยลดค่าใช้จ่ายกันได้ ก็ช่วยกันไป

อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากไปถึงรัฐบาลให้ควบคุมราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งถือเป็นต้นทุนหลักของภาคธุรกิจ รวมไปถึงราคาสินค้าอุปโภค - บริโภคในปัจจุบันและอนาคต ไม่ให้มีการปรับขึ้นไปมากกว่านี้ เพราะหากปรับขึ้นตามรายได้ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย