“เศรษฐา ทวีสิน” จากเจ้าพ่ออสังหาฯ สู่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30

“เศรษฐา ทวีสิน” จากเจ้าพ่ออสังหาฯ สู่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30

17723 เม.ย. 67 18:36   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

เส้นทางชีวิต “เศรษฐา ทวีสิน” จากเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์หมื่นล้าน สู่ นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย พบประวัติไม่ธรรมดา เครือญาติฝั่งแม่เป็นมหาเศรษฐี 5 ตระกูลใหญ่ “ยิบอินซอย-จักกะพาก-จูตระกูล-ล่ำซำ-บุรณศิริ”

“เศรษฐา ทวีสิน” มีชื่อเล่นว่า “นิด” เขาเกิดเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2505 เป็นบุตรชายของ ร.อ.อำนวย ทวีสิน และนางชดช้อย ทวีสิน(นามสกุลเดิม “จูตระกูล”) สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาเศรษฐศาสตร์ University of Massachusetts และปริญญาโท สาขาการเงิน จาก Claremont Graduate University


หลังจบการศึกษาในปี พ.ศ.2529 เศรษฐาเดินทางกลับประเทศไทย และเข้าทำงานที่ บ.พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล บริษัทข้ามชาติผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ เป็นเวลา 4 ปี ก่อนที่จะออกมาร่วมลงทุนกับ อภิชาติ จูตระกูล และวันจักร์ บุรณศิริ ลูกพี่ลูกน้องจากตระกูลเครือญาติฝั่งแม่ ก่อตั้ง บริษัท แสนสำราญโฮลดิ้ง จำกัด ที่ต่อมามีการขยายกิจการ และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) อาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ระดับหมื่นล้านที่คนไทยรู้จักกันดี


ในด้านธุรกิจนั้น เศรษฐา ถือว่าเป็นคนหนึ่งที่มีปูมหลังไม่ธรรมดา เมื่อนับสายเลือดทางคุณแม่ ตัวเขาเป็นทายาทรุ่นที่ 4 ของเจ้าสัวเลนำคิน ต้นตระกูลลายเลิศ เป็นชาวจีนฮากกา ที่เข้ามาทำการค้าในประเทศไทยตั้งแต่สมัยปลายรัชกาลที่ 5



โดยคุณยายของเศรษฐา คือ มีเสียน ลายเลิศ ลูกสาวของเจ้าสัวเลนำคิน แต่งงานกับนายชู จูตระกูล มีบุตร-ธิดารวม 5 คน เป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล และได้ดองกับตระกูลใหญ่ตระกูลอื่น ทั้งจักกะพาก, ล่ำซำ, บุรณศิริ, รวมถึงตระกูลทวีสิน ที่ก็มีประวัติเป็นตระกูลใหญ่พ่อค้าคนกลางชาวจีนเช่นกัน


ทำให้เศรษฐาเป็นลูกพี่ลูกน้องร่วมสายตระกูลกับ นายปิ่น จักกะพาก อดีตพ่อมดการเงินของไทย, นายอภิรักษ์ จูตระกูล, นายอภิชาติ จูตระกูล, และนายวันจักร์ บุรณศิริ ซึ่ง 2 คนหลังนี้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ “แสนสิริ” มาด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีสายสัมพันธ์กับตระกูลยิบ ของเจ้าสัวยิบอินซอย ผ่านทาง มีเซียม ลายเลิศ พี่สาวแท้ๆ ของคุณยายมีเสียน อีกด้วย


สำหรับชีวิตส่วนตัว เศรษฐา สมรสกับ พญ.พักตร์วิไล ทวีสิน(นามสกุลเดิม “ปลัดรักษา”) หรือคุณหมออ้อม แพทย์ประจำศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีบุตร-ธิดารวม 3 คน คือ ณภัทร ทวีสิน(น้อบ), วรัตม์ ทวีสิน(แน้บ), และ ชนัญดา ทวีสิน(นุ้บ)


เศรษฐา เริ่มแสดงออกทางการเมืองอย่างชัดเจนในช่วงปี 2556-2557 ในสมัยรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย โดยเขาออกมาต่อต้านการเคลื่อนไหวของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) และเมื่อเกิดการรัฐประหารขึ้นในวันที่ 22 พ.ค. 2557 เศรษฐาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติซึ่งนำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกให้เข้ารายงานตัวที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์



หลังจากนั้นเขากลับมาอยู่ในสปอตไลต์การเมืองอีกครั้ง ในช่วงปี 2563-2564 ระหว่างที่มีการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ที่นำโดยคนหนุ่มสาว เพื่อขับไล่รัฐบาบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเศรษฐาได้ออกมาแสดงความเห็นสนับสนุนการประท้วงหลายครั้ง นอกจากนี้ยังมีการทำหนังสือทวงถามไปยังสำนักงาน UNICEF ประจำประเทศไทย ให้ออกมาเคลื่อนไหว หลังมีกรณีการใช้ความรุนแรงโดยเจ้าหน้าที่รัฐของไทย ในการจับกุมเด็กนักเรียนระดับมัธยมที่มีการรวมตัวประท้วงและปราศรัยเรียกร้องทางการเมือง


จากนั้นในวันที่ 27 ก.พ. 2566 พรรคเพื่อไทยได้แต่งตั้งให้เศรษฐาเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยมีหน้าที่ให้คำปรึกษาหรือดำเนินการตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยมอบหมาย


วันที่ 8 มี.ค. 2566 เศรษฐาได้โอนหุ้นทั้งหมดในแสนสิริ คิดเป็นสัดส่วน 4.4% ของทุนจดทะเบียนบริษัทให้กับ น.ส.ชนัญดา ทวีสิน โดยตำแหน่งสุดท้ายของเศรษฐาที่ บ.แสนสิริ คือ ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ก่อนที่วันที่ 5 เม.ย. 2566 พรรคเพื่อไทยจะเปิดตัวเศรษฐาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค เคียงบ่าเคียงไหล่กับ แพทองธาร และ ศ.(พิเศษ)ชัยเกษม นิติสิริ เป็นการก้าวเข้าสู่สังเวียนการเมืองในฐานะผู้เล่นเต็มตัวเป็นครั้งแรกของเศรษฐา



หลังผ่านการเลือกตั้งทั่วไปปี 2566 พรรคเพื่อไทยได้ที่นั่ง สส.มาเป็นอันดับ 2 แต่เนื่องจากพรรคก้าวไกลที่ได้ที่นั่ง สส. มาเป็นอันดับที่ 1 ติดปัญหาเรื่องจุดยืนทางการเมือง และการชูนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ พรรคเพื่อไทยได้เสนอชื่อเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี และได้รับเสียงสนับสนุน 482 เสียง จากที่ประชุมร่วมรัฐสภา ทำให้เขาก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยได้สำเร็จในที่สุด




ที่มา:

https://asia.nikkei.com/Politics/Thai-election/Thai-property-tycoon-Srettha-eyes-promotion-to-prime-minister

https://www.bangkokpost.com/thailand/politics/2633974/srettha-an-unlikely-pm

https://www.thaipbs.or.th/news/content/325408

https://www.thansettakij.com/politics/571133

https://www.blockdit.com/posts/643ac5ccd231d81e7fc90b9c

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง