ถูกตีหัวตายริมถนน พบโพสต์ก่อนกลายเป็นศพ “จบสักทีนะปัญหาหมู่บ้าน”

ถูกตีหัวตายริมถนน พบโพสต์ก่อนกลายเป็นศพ “จบสักทีนะปัญหาหมู่บ้าน”

153522 มิ.ย. 68 14:27   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ถูกตีหัวดับริมถนน พบโพสต์ก่อนกลายเป็นศพ “จบสักทีนะปัญหาหมู่บ้าน” ล่าสุดตร.รวบมือฆ่าได้แล้ว อ้างผู้ตายเป็นคนเริ่มทำร้ายก่อน

(22 มิ.ย. 68) จากกรณีนายอ้วน หรือ ยี่ถุงซิ่ง อายุ 33 ปี ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตบริเวณริมถนนแคราย หมู่ที่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยสภาพผู้เสียชีวิตมีบาดแผลถูกของแข็งตีที่บริเวณศีรษะด้านซ้าย และมีขวดเบียร์ แตกกระตายเต็มพื้นที่ ส่วนฝั่งตรงข้ามพบ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นนูโวเอ็มเอ็กซ์ ตรวจสอบ เอกสารคู่มือประจำรถพบว่าเป็นของผู้เสียชีวิต จอดอยู่นั้น นอกจากนี้ก่อนที่นายอ้วนจะเสียชีวิต ยังพบว่ามีการโพสต์เฟสถ่ายภาพคู่กับชายวัยรุ่นคนหนึ่งด้วยนั้น 

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.ของวันที่ 22 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯ ได้ร่วมกันนำตัวนายธีทัต อายุ 32 ปี ผู้ต้องหามาทำการสอบปากคำที่ สภ.กระทุ่มแบน พร้อมกับอาวุธปืนขนาด 9 มม.และเครื่องกระสุนปืน ซึ่งในช่วงจังหวะที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหามาถึงหน้า สภ.กระทุ่มแบนนั้น ปรากฏว่ามีญาติๆ และเพื่อนๆของผู้เสียชีวิต มารอที่หน้าโรงพัก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าทุกคนอยู่ในอาการทั้งเศร้าและโมโห จึงได้บอกกล่าวให้ทุกคนใจเย็นๆ และขอให้รักษาความสงบเรียบร้อย ห้ามดำเนินการใดๆที่ฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือขัดขวางการปฏิบัติงานฯ โดยพยายามกันทุกคนให้อยู่ห่างจากผู้ต้องหามากที่สุด แต่ปรากฏว่าขณะที่ตำรวจกำลังนำตัวผู้ต้องหาลงจากรถเดินเข้าประตูโรงพักนั้น มีชายคนหนึ่งที่แอบซ่อนตัวอยู่ด้านในโรงพัก พุ่งเข้ามาพยายามที่จะทุบตีผู้ต้องหา ทางตำรวจจึงรีบควบคุมตัวออกไป แล้วรีบนำตัวผู้ต้องหาไปทำการสอบปากคำ

ทั้งนี้จากการสอบปากคำนายธีทัต นานเกือบ 1 ชั่วโมง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ทำให้นายอ้วน เสียชีวิตจริง โดยเมื่อคืนนี้ตนได้โทรเฟซคุยกับผู้ตายเพื่อเคลียร์ปัญหาที่มีต่อกันมานานแล้ว ซึ่งเป็นปัญหาระหว่างหมู่บ้านพอเจอหน้ากันก็มีการพูดแขวะกันบ่อยครั้ง กระทั่งก่อนเกิดเหตุตนออกมาข้างนอกก็มาเจอผู้เสียชีวิตและเพื่อนๆ ตรงที่เกิดเหตุโดยบังเอิญ ก็เลยมีการพูดคุยกันอีก จนเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นลง มีการถ่ายภาพคู่กันตามที่ผู้ตายโพสต์เฟซ เพื่อนๆ แยกย้ายกันกลับไป เหลือเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น 


แต่จังหวะที่กำลังจะแยกย้ายกันกลับ ก็ปรากฏว่ามีปัญหาเกิดขึ้นอีกและมีปากเสียงกัน ผู้ตายใช้ขวดเบียร์ตีตนก่อน ตนจึงเอาอาวุธปืนออกมาจากกระเป๋า เพื่อป้องกันผู้ตายเข้ามาทำร้ายตน แต่ผู้ตายกลับพยายามจับมือจะคว้าเอาปืนในมือของตนไป ตนก็เลยปัดมือออก ไม่รู้ว่าปืนลั่นไปถูกตรงไหนของผู้ตายจนเสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุตนก็ได้ขับรถกลับมาบ้าน แล้วก็มาถูกตำรวจตามมาจับกุมตัวไว้ได้

ด้าน พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร บอกว่า ปมปัญหาจากการสอบปากคำก็มาจากปัญหาระหว่างหมู่บ้านที่มีมานานแล้วและเคลียร์กันไม่ลงตัว ส่วนคำให้การของผู้ต้องหานั้น จะเป็นจริงมากน้อยเพียงใด ต้องรอการสอบปากคำผนวกกับพยานที่พบในที่เกิดเหตุ รวมถึงบาดแผลทั้งจากร่างกายของผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุด้วย ทั้งนี้หลังจากมีการสอบสวนเสร็จ ทางผู้บังคับการ ได้เดินเข้าไปพบกลุ่มเพื่อนผู้ตายพูดคุยทำความเข้าใจและ ให้แยกย้ายกันกลับบ้านไปก่อน  


สำหรับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดอย่างละเอียด เพื่อส่งสำนวนพร้อมผู้ต้องหาต่อศาลจังหวัดสมุทรสาคร ส่วนข้อกล่าวหาเบื้องต้นได้ตั้งไว้ว่า พาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ หมู่บ้าน หรือชุมชน โดยไม่ได้รับอนุญาต ,ครอบครองอาวุธและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและฆ่าผู้อื่น ส่วนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ทางผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพทั้งหมดและไม่ประสงค์จะทำแผนฯ จึงอาจจะไม่มีการนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ขณะที่นางสาวอำต้น 33 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิตเล่าว่า เมื่อเย็นวานนี้สามีบอกว่าจะออกไปหาเพื่อน ซึ่งก็ทำเป็นประจำในทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตนเองก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งมารู้ว่าสามีถูกฆ่าตาย ทั้งรู้สึกเสียใจและตกใจมาก เพราะสามีเป็นเสาหลักของครอบครัว ทั้งเรื่องการทำมาหากินที่ช่วยกันรับซื้อถุงเก่ามารีไซเคิ้ล และยังเป็นพ่อของลูกอีก 4 คน ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องลงมือฆ่ากันอย่างนี้ ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่รู้อะไร เพราะสามีไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง 


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat