"iLaw"เปิดภาพพฤติกรรมแปลก"อลงกต"ในวันเลือก สว.67
"iLaw"เปิดภาพพฤติกรรมแปลก"อลงกต"ในวันเลือก สว.67

"iLaw"เปิดภาพพฤติกรรมแปลก"อลงกต"ในวันเลือก สว.67 พร้อมเส้นทางก่อนได้ตำแหน่ง สว.
(7พ.ค.68) เฟซบุ๊ก iLaw โพสต์ข้อความระบุว่า 6 พฤษภาคม 2568 ท่ามกลางกระแสข่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กำลังจะตั้งข้อหาดำเนินคดีเอาผิดกับสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 60 คน ในคดีว่าด้วยวิธีการเลือกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อลงกต วรกี หนึ่งในสว. กล่าวตอบโต้ เชิงท้าทายดีเอสไอว่า ถ้ามีหนังสือเชิญมาก็เป็นสิทธิที่ว่าตนจะไปหรือไม่ไป แต่กล้ามีหมายจับ มีหมายขัง มีหมายค้นหรือไม่
อลงกตยังกล่าวด้วยว่า “ขอเรียนตามตรงว่าดีเอสไอเป็นแค่หน่วยงาน ที่ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ แต่ผมเป็นวุฒิสมาชิกปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญถ้าพูดตามตรงผมศักดิ์สูงกว่า ผมสูงไม่มายุ่งกับข้างล่าง”
และต่อไปนี้คือสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับเส้นทางที่มาของอลงกต วรกี
1.อลงกต วรกี เป็นสว. ที่สมัครมาจากจังหวัดอุทัยธานี สมัครที่อำเภอเมือง กลุ่ม 20 อาชีพอื่น ๆ ในการเลือกระดับประเทศ อลงกตได้คะแนนจากรอบเลือกกันเอง 43 คะแนน สูงเป็นอันดับที่ห้าของประเทศ และได้คะแนนรอบเลือกไขว้ 67 คะแนน สูงเป็นอันดับที่ 14 ของประเทศ ซึ่งเป็นคะแนน “เกาะกลุ่ม” ของกลุ่มที่คะแนนลอยโดดเป็นพิเศษ มีผู้ได้คะแนนระหว่าง 63 - 68 คะแนน ถึง 26 คน ขณะที่คะแนนเฉลี่ยของรอบเลือกไขว้อยู่ที่ 16.78 คะแนนเท่านั้น
2.จังหวัดอุทัยธานีมี สว.5 คน โดย 4 คนของจังหวัดนี้เป็นประเภทได้คะแนน “ล้นกระดาน” คือ ได้คะแนนเยอะมาก จนมากกว่าช่องขีดคะแนนที่กกต. เตรียมไว้จนต้องนำกระดานแผ่นที่สองมาต่อเพื่อนับคะแนนให้เสร็จสิ้น ผู้สมัครจากจังหวัดอุทัยธานีที่เข้าสู่ระดับประเทศ จากจำนวนทั้งหมด 40 คน มีถึง 18 คนที่ไม่มีคะแนนเลยในรอบ “เลือกกันเอง” ซึ่งชัดเจนว่าเป็นผู้สมัครที่มา “พลีชีพ” ลงคะแนนให้คนอื่นแล้วยอมตกรอบกลับบ้านโดยไม่แม้แต่จะลงคะแนนให้ตัวเอง อุทัยธานียังทำสถิติเป็นจังหวัดที่มีผู้พลีชีพมากเป็นอันดับสองของประเทศ ขณะที่ผู้สมัครจากอุทัยธานีที่เข้าสู่รอบเลือกไขว้ 22 คน นอกจากนี้จังหวัดอุทัยธานียังมี สส.ทั้งสองคนมาจากพรรคภูมิใจไทย
3.อลงกต อายุ 60 ปี ในวันที่มาสมัครสว. ลาออกจากราชการในวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 หรือลาออกมาเพื่อลงสมัครเป็นสว. ทันที ตำแหน่งสุดท้ายเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และเคยเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี โดยมีหลักฐานจากเฟซบุ๊กของอลงกตเองว่า เคยทำงานร่วมกับชาดา ไทยเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยจากพรรคภูมิใจไทย และสส. จังหวัดอุทัยธานีจากพรรคภูมิใจไทย
4.ในเอกสารแนะนำตัว สว.3 เขียนอาชีพว่า บำนาญ , ผู้สูงวัย , นักดนตรี , อาจารย์ , นักวิชาการ , ที่ปรึกษา ในประวัติการทำงานอลงกตยังแนะนำตัวว่า เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ ดร. ปลัดอำเภอบ้านหมี่ ลพบุรี นายอำเภอ ร่องคำ กาฬสินธุ์ อำเภอจังหาร ร้อยเอ็ด อำเภอวารินชำราบ อุบลราชธานี อำเภอลานสัก อุทัยธานี ปลัดจังหวัดขอนแก่น รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย อาจารย์ นักวิจัย นักวิชาการ นักทำโพล นักการตลาด มหาวิทยาลัย วิทยาลัย สถาบันการศึกษา สถาบันวิชาการ ภาคเอกชน/รัฐ สื่อมวลชน ที่ปรึกษา มูลนิธิ สมาคม องค์กรสาธารณกุศล สาธารณประโยชน์ กรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา นักดนตรีไทย ระนาดทุ้ม ชมรมสะแกกรังบรรเลง ซึ่งหากเป็นความจริงทั้งหมดก็หมายความว่า อลงกตจะลงสมัครในกลุ่ม 1 ข้าราชการก็ได้ กลุ่ม 3 การศึกษาก็ได้ กลุ่ม 14 ผู้สูงอายุก็ได้ กลุ่ม 16 ศิลปวัฒนธรรม ดนตรี ก็ได้ กลุ่ม 17 ภาคประชาสังคมก็ได้ กลุ่ม 18 สื่อมวลชนก็ได้ แต่อลงกตเลือกสมัครใน กลุ่ม 20 ซึ่งเป็นกลุ่มที่เปิดกว้างให้ใครที่ทำอาชีพอื่น ๆ หรือไม่มีอาชีพ ซึ่งไม่เข้าข่ายที่จะสมัครในกลุ่มใดได้มาสมัครในกลุ่มนี้ กลุ่ม 20 ยังเปิดกว้างให้คนที่ทำอาชีพที่สมัครในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ ก็ยังมาสมัครในกลุ่มนี้ได้ จึงเรียกได้ว่าเป็นกลุ่ม “แกงโฮะ” ที่ไม่ว่าใครจะเคยทำอาชีพอะไรมาก็ชักชวนเพื่อนกันมาสมัครในกลุ่มนี้เพื่อลงคะแนนเลือกกันเองได้
5.ในวันเลือกระดับประเทศที่อิมแพ็คฟอรัม เมืองทองธานี อลงกต ได้หมายเลข 144 ใส่เสื้อเชิ้ตผ้าไทยแขนสั้นสีสันสดใสและโดดเด่น ใส่ริสต์แบนด์สีชมพูฟ้า ผู้สังเกตการณ์ในวันเลือกระดับประเทศจึงสังเกตเห็นอลงกตได้ง่าย และพบว่าผู้สมัครคนนี้มีพฤติกรรมแปลก ๆ และบันทึกพฤติกรรมของผู้สมัครคนนี้ไว้ ดังนี้
๐ เวลา 20:47 น. ผู้สังเกตการณ์คนที่ 1 รายงานว่า “ผู้สมัครกลุ่ม 20 เบอร์ 144 เข้ามาเป็นอันดับสองด้วยคะแนน 43 คะแนนยืนคุมเชิงตลอดไม่ยอมนั่งที่ตัวเองเลย” ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวพิธีกรยังไม่ได้ประกาศว่า การลงคะแนนเสร็จสิ้นแล้ว และเวลา 21:38 น. สาย ก. จึงเริ่มนับคะแนน
๐ ในการเลือกระดับประเทศ ผู้สมัครทุกคนจะมีเก้าอี้นั่งเป็นของตัวเอง และมีหมายเลขติดไว้ที่เก้าอี้ ระหว่างการลงคะแนนเจ้าหน้าที่จะเรียกให้ผู้สมัครลุกขึ้นตามลำดับและเดินไปลงคะแนนในคูหา จากนั้นผู้สมัครส่วนใหญ่เมื่อลงคะแนนเสร็จก็จะเดินกลับมานั่งที่นั่งของตัวเอง เพราะผู้สมัครส่วนใหญ่ไม่รู้จักกันและเจ้าหน้าที่กกต. ก็แจ้งกับผู้สมัครเป็นระยะว่าไม่ให้ผู้สมัครพูดคุยกัน จึงไม่มีการแวะทักทายพูดคุยกันเองระหว่างการเดินไปลงคะแนนและการเดินกลับมานั่ง
๐ ผู้สังเกตการณ์คนที่ 1 อธิบายว่า ระหว่างการลงคะแนนรอบไขว้กำลังดำเนินไป อลงกตไม่ได้นั่งอยู่กับที่ของตัวเอง แต่เดินไปคุยกับผู้สมัครคนอื่น โดยระหว่างเดินก็ใช้สายตามองไปรอบ ๆ ทั่ว ๆ คล้ายการตรวจดูความเรียบร้อยของภาพรวมในการลงคะแนน รวมทั้งไปยืนอยู่บริเวณหน้าหีบหย่อนบัตร หน้าโต๊ะเจ้าหน้าที่กรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งผู้สมัครไม่ควรไปยืนอยู่ตรงนี้ หรือลุกจากเก้าอี้ไปยืนเอาหลังพิงพาร์ทิชันแล้วใช้สายตามองไปรอบ ๆ ห้อง คล้ายเป็นผู้มาสังเกตการณ์กระบวนการเลือก
๐ เวลา 21.34 เป็นเวลาที่พิธีกรกลางประกาศว่า “การลงคะแนนเสร็จสิ้นแล้ว ทุกสายจะนำหีบมานับทีละหีบ” จากนั้นจึงเริ่มต้นการนับคะแนนในรอบเลือกไขว้ เวลา 21.35 ผู้สังเกตการณ์คนที่ 2 บันทึกคลิปวิดีโอไว้ได้ว่า ระหว่างที่ผู้สมัครส่วนใหญ่ยังนั่งอยู่กับที่นั่งของตัวเองอลงกตเดินออกมาบริเวณทางเดินตรงกลาง รวมทั้งพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ กกต. ซึ่งใส่เสื้อสีเหลืองและเสื้อกั๊ก และยังเดินไปคุยกับผู้สมัครที่อยู่สายอื่นด้วย
ข่าวเวิร์คพอยท์23
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แม่แจ้งข่าวเศร้า “น้องการ์ตูน” เหยื่อกระบะพุ่งชนร้านสเต็ก จากไปอย่างสงบแล้ว หลังต่อสู้มานานกว่า 11 ปี
