หนุ่มถามคิดเห็นยังไง? วัดดังขอเก็บค่าบำรุงวัด คนละ 20 บาท
หนุ่มถามคิดเห็นยังไง? วัดดังขอเก็บค่าบำรุงวัด คนละ 20 บาท
หนุ่มถามคิดเห็นยังไง? วัดดังกาญจนบุรีจ่อขอเก็บค่าบำรุงวัด คนละ 20 บาท ด้านเจ้าอาวาสปรี๊ดแตก บอกรัฐบาลโปรโมทให้คนมาเที่ยวที่วัด แต่ไม่เคยสนับสนุนให้เงินวัด ทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายเยอะ บอกอยากปิดวัดไม่รับใคร อยากเป็นพระปกติ ไม่อยากเป็นเจ้าอาวาส
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความในกลุ่ม คนเมืองกาญจน์2(รีเทิร์น) พร้อมกับระบุข้อความว่า "มาถามใจคนกาญบ้านเราดีกว่า ว่าคิดเห็นอย่างไงกับเรื่องนี้"
นอกจากนี้ยังแนบรูปภาพ ที่ระบุข้อความว่า เนื่องจากทางวัดมีค่าใช้จ่ายในการดูแลทำนุบำรุงวัดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้ง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าดูแลรักษาค่าทำความสะอาด ค่าแรงงาน ค่าซ่อมแซมต่อเติม แก้ไข วัตถุต่างๆภายในวัด ฯลฯ ทางวัดถ้ำเสือ จึงขอเก็บค่าบำรุงวัด ท่านละ 20 บาท ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2567 นี้เป็นต้นไป
หมายเหตุ : เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปไม่เก็บ
(15 พ.ย.67) (15 พ.ย.67) เจ้าอาวาสวัดถ้ำเสือ ได้อธิบายว่า ที่ตนติดป้ายประกาศดังกล่าว ก็เพื่อต้องการเก็บเงินค่าบำรุงวัด มาเป็นเงินสำหรับค่าใช้จ่ายภายในวัด เนื่องจากทุกวันนี้วัดมีค่าใช้จ่ายมาก ทั้งเรื่องของการซ่อมแซมรถกระเช้าไฟฟ้า พี่ใช้รับส่งนักท่องเที่ยวขึ้นไปด้านบนของวัด ใช้เงินมากกว่า 10 ล้านบาท รวมถึงเงินค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างคนงานภายในวัดทำความสะอาดซึ่งมีมากกว่า 30 คน หากจะหวังรอเพียงเงินทำบุญของผู้ที่มาทำบุญภายในวัดก็ไม่เพียงพอ รวมถึงยังฝากคำถามไปยังรัฐมนตรีและหน่วยงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
ที่นำรูปภาพของวัดไปโปรโมทเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวที่วัดจำนวนมาก แต่กลับไม่เคยให้เงินสนับสนุน หรือเงินค่าใช้จ่ายใดๆกับทางวัด ทำให้ทางวัดต้องแบกรับค่าใช้จ่าย เป็นจำนวนมาก บางเดือนก็แทบจะขาดทุน รวมถึงบรรดาไกด์นำเที่ยว ที่พานักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวที่วัด เข้ามาถ่ายรูป มาเดินเที่ยว มาเข้าห้องน้ำ
แต่กลับไปบอกนักท่องเที่ยวไม่ให้ทำบุญกับทางวัด ส่วนทางภาครัฐควรจะเรียกเก็บเงินจากไกด์นำเที่ยวพวกนี้รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วเอามาให้วัดเป็นค่าใช้จ่าย กลายเป็นว่าทุกวันนี้ ตนเองซึ่งเป็นเจ้าอาวาสต้องคอยดูแลทุกอย่างเพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้ามาเหยียบย่ำวัด โดยที่วัดไม่ได้อะไรเลย
ในระหว่างที่พูดคุยกันอยู่ ได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกาญจนบุรี เดินทางเข้ามาพบกับเจ้าอาวาสของวัดถ้ำเสือเพื่อพูดคุยถึงประเด็นที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ในขณะนี้ แต่ก็ได้รับคำตอบเช่นเดิม โดยทางเจ้าอาวาสยืนยันว่าคนที่ไปโพสต์โจมตีในอินเตอร์เน็ตไม่ได้เป็นคนที่เข้ามาเที่ยวที่วัด อีกทั้งคนที่มาเที่ยวที่วัดทุกวันนี้ ก็แทบจะไม่เคยทำบุญกับทางวัดเพียงแต่มาเดินเที่ยวมาถ่ายรูปแล้วก็กลับไป ทางเจ้าอาวาสวัดถ้ำเสือ ยังได้กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ตน อยากจะปิดวัดไปเลยไม่อยากต้อนรับนักท่องเที่ยว อยากจะไปเป็นพระธรรมดาไม่ได้อยากเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดแห่งนี้แล้ว
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวภายในวัด โดยนักท่องเที่ยวรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนเองไปวัดมาทั่วประเทศก็ไม่เคยเห็นว่าวัดจะมีการเรียกเก็บ ค่าบำรุงวัดรายละ 20 บาทอย่างเช่นที่วัดถ้ำเสือกำลังจะทำนี้ ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม การทำบุญควรเป็นเรื่องตามจิตศรัทธาของผู้ที่มาทำบุญไม่ใช่มากำหนดกฎเกณฑ์เช่นนี้ แล้วการที่บอกว่าวัดวัดหนึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยอะแต่ไม่ค่อยมีคนทำบุญทำให้วัดขาดทุน มันไม่น่าจะเป็นไปได้
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ พระครูกาญจนสุตาคม เจ้าคณะอำเภอท่าม่วง เจ้าอาวาสวัดวังขนายทายิการาม เพื่อสอบถามถึง ประเด็นดังกล่าว โดยเจ้าคณะอำเภอท่าม่วงกล่าวว่า ได้ทราบเรื่องดังกล่าว จากลูกศิษย์นำมาให้ดูแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่ตนเองซึ่งเป็นเจ้าคณะอำเภอท่าม่วงไม่สามารถเข้าไปกำหนดกฎเกณฑ์ใดๆกับทางวัดถ้ำเสือได้ แต่หากมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยถึงเรื่องดังกล่าวก็ควรจะทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี หรือเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อให้พิจารณาดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป.
สำหรับ วัดถ้ำเสือ ก่อตั้งในปี พ.ศ.2514 โดยพระครูสิทธิวิมล ภายในวัดมีพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่บนเนินเขา พร้อมพระอุโบสถอัฏฐมุขทรงไทยประดับลวดลายสวยงามและเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาทสูง 69 เมตร กว้าง 29 เมตร โดยจากเนินเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลสาบและเขื่อนวชิราลงกรณ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงยกช่อฟ้าเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2526 การขึ้นเนินเขานอกจากมีบันไดแล้วยังมีรถรางไฟฟ้าบริการ
วัดถ้ำเสือ เปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนเยี่ยมชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกวัน (วันจันทร์-วันศุกร์ระหว่างเวลา 07.30 - 16.30 น.) (วันเสาร์-วันอาทิตย์ระหว่างเวลา 07.00 - 17.30 น.) ค่าบริการรถรางไฟฟ้า ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 20 บาท สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 034-655383