พ่อแม่ใจสลาย! ลูกสาววัย 3 ขวบ ติดเชื้อไวรัสในอากาศเสียชีวิต
พ่อแม่ใจสลาย! ลูกสาววัย 3 ขวบ ติดเชื้อไวรัสในอากาศเสียชีวิต
พ่อแม่ใจสลาย! ลูกสาววัย 3 ขวบ ติดเชื้อไวรัสในอากาศเสียชีวิต เผยน้องมีแค่ไข้ต่ำๆไม่มีอาการอะไรเลย เช็ดตัวกินยาหายแล้ว อยู่ๆ ชักเกร็ง ก่อนหามส่ง รพ. แพทย์ เผย เด็กเล็กเป็นกลุ่มเสี่ยง
(8 ม.ค.68) จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Aphichaya Thanasri ได้แชร์เรื่องราวสุดเศร้าหลังสูญเสียลูกสาววัย 3 ขวบ จากไวรัสในอากาศ โดยคุณแม่ระบุข้อความว่า ไวรัสอะไรมันใจร้ายกับลูกแม่จัง น้องมีแค่ไข้ต่ำๆ ไม่มีอาการอะไรเลย เช็ดตัวกินยา หายแล้ว อยู่ๆ ชักเกร็ง ไปโรงพยาบาลทันที ต้องปั๊มหัวใจ ใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ หมอช่วยชีวิตปั๊มหัวใจนานมาก แต่น้อง ไม่กลับมา
หมอให้สาเหตุว่า ติดเชื้อไวรัส แล้วมันไปที่หัวใจ เลยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน มันไวมากไม่มีสัญญาณอะไรก่อนหน้าเลย หมอบอกไวรัสอยู่ในอากาศ มันโหดร้ายเกินไปไหม
น้องไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์นะลูก ลูกโชคดีมาก บุญเยอะมาก ไม่ต้องอยู่บนโลกที่มันโหดร้ายแบบนี้ เชื้อโรคอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ไม่ต้องเจ็บต้องไข้นะลูก หลับให้สบายนะลูกรัก รักน้องที่สุด ดวงใจของครอบครัวเรา #ไดอาน่าทีวี
นอกจากนี้แม่ยังโพสต์ว่า ใจสลายไปหมดแล้ว ขอให้เป็นแค่ฝันได้ไหม แม่จะอยู่ยังไง น้องแค่หลับพักผ่อนใช่ไหม กลับมาเกิดเป็นลูกแม่อีกนะลูก สู่สุขตินะลูกแม่
ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อาคารบี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์แผนไทย เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว เกิดมาจากเด็กติดเชื้อหวัด ซึ่งเป็นไวรัสเดิมที่มีอยู่ทั่วไปในอากาศทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้ เกิดได้ตลอด ถ้าเป็นเด็กเล็ก การรักษาตามอาการ ผู้ปกครองควรให้เด็กหมั่นล้างมือ ใส่แมสเวลาออกไปข้างนอก เด็กเล็กหากมีไข้สูงเกิน2 วัน หายใจไม่ดี ควรรีบพบแพทย์ ส่วนเรื่องฝุ่น มีอยู่4-5 เรื่องที่จะมีเพิ่มเข้ามา ที่จะดำเนินการให้ความรู้ เช่น ห้องปลอดฝุ่น
ต่อมา รศ.พิเศษ พญ.วารุณี พรรณพานิช วานเดอพิทท์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เปิดเผยว่า ในกรณีเคสดังกล่าวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้แต่เกิดขึ้นได้ส่วนน้อย ประมาณ 1 ต่อล้าน ซึ่งในกรณีดังกล่าว เด็กมีการติดเชื้อจนนำไปสู่กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบแล้วเสียชีวิต ซึ่งสาเหตุหลักคือการติดเชื้อไวรัส ซึ่งไม่ใช่การระบาด แต่เคสนี้เป็นไปได้ว่า ความรุนแรงของโรคเกิดปฏิกิริยาเฉพาะระหว่างเชื้อกับปฏิกิริยาการตอบสนองของร่างกาย ซึ่งถ้าภูมิน้อยเกินไปก็อาจทำให้ไวรัสลุกลามได้เยอะหรือภูมิตอบสนองมากเกินไปก็เป็นไปได้ทั้งสองอย่าง
จึงอยากให้ผู้ปกครองได้รับทราบความเสี่ยงไว้จะได้ไม่รู้สึกกังวลใจ ซึ่งถ้าหากเป็นเด็กโตอายุ5 ปีขึ้นไปความเสี่ยงก็จะน้อยลง ช่วงที่ต้องระวังคือเด็กเล็กในวัยอนุบาล