สาวโพสต์แวะทานอาหารร้านดัง พนักงานทำน้ำแกงหกใส่ลูกสาววัย 5 ขวบถูกได้รับบาดเจ็บ ไร้การเยียวยาและขอโทษจากทางร้าน

สาวโพสต์แวะทานอาหารร้านดัง พนักงานทำน้ำแกงหกใส่ลูกสาววัย 5 ขวบถูกได้รับบาดเจ็บ ไร้การเยียวยาและขอโทษจากทางร้าน

147430 ม.ค. 68 15:29   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

สาวโพสต์แวะทานอาหารร้านดัง พนักงานทำน้ำแกงหกใส่ลูกสาววัย 5 ขวบถูกได้รับบาดเจ็บ ไร้การเยียวยาและขอโทษจากทางร้าน ล่าสุดทางร้านออกมาขอโทษและแสดงความรับผิดชอบต่อลูกค้า วอนให้อภัยเนื่องจากพนักงานแจ้งเรื่อง ที่เกิดไม่ครบถ้วน

(30 ม.ค.68) จากกรณี Facebook ชื่อว่าThanwarin Som ได้โพสต์ข้อความว่า “ส้มขออธิบายรวมทางนี้ทีเดียวเลยนะคะ ส้มได้เดินทางไปไหว้พระหลังจากไหว้พระเสร็จแวะทานข้าวที่ #ร้านครัวปลาทูทิดอ้วน อยู่ชลบุรีค่ะ  


โต๊ะที่นั่ง ส้มจัดให้เด็กๆ ก็คือแสตมป์และคริสตัลนั่งมุมขวามือทั้งสองคนส่วนผู้ใหญ่ก็คือส้มกับพี่เต้ยนั่งทางซ้ายมือทั้งสองคนคือเราจะแยกเด็กกับผู้ใหญ่คนละฝั่งอยู่แล้วเพื่อที่จะให้กินอาหารได้ง่าย ระหว่างนั้นส้มก็สั่งอาหารค่ะ เด็กเสิร์ฟคนนี้ตั้งแต่เรียกสั่งอาหารก็ไม่สนใจมึนตั้งแต่แรกแล้ว พออาหารมาเสิร์ฟเขาเลือกที่จะเสิร์ฟทั้งด้านขวามือในครั้งแรกส้มเห็นละ พี่เต้ยก็เลยบอกให้ลูกเขยิบมาทางซ้าย เพื่อที่จะให้เขาเสิร์ฟแต่น้องไม่ทันได้มองว่าเขายังเสิร์ฟไม่เสร็จ มีเสิร์ฟต่อจึงทำให้อาหารในรอบที่สองในถาดแรก ก็คือเป็นพวกแกงหกใส่ตัวน้องครึ่งตัวทั้งซีกขวาทั้งหมดของตัวน้อง มีแต่น้ำแกง


ระหว่างนั้นน้องร้องดังมากกรี๊ดตัวสั่น ส้มก็คือยังนั่งอยู่กับที่ พ่อเขารีบลุกขึ้นมาเพื่อที่จะเอาน้องไปล้างเพราะว่าส้มจะต้องดูคริสตัลอีกคนนึงที่ยังนั่งอยู่ฝั่งโน้น และพ่อเขาจะทำอะไรได้คล่องตัวกว่าส้ม ระหว่างที่เขาทำหกใส่ลูกเราแล้ว เด็กเสิร์ฟไม่พูดอะไรขึ้นสักคำไม่มีคำขอโทษเลย และส่ายหัวอีกด้วยนะ เจ็บใจมากน้ำแกงหกใส่น้องไม่ได้ช่วยไม่พอแถมยังมาส่ายหัวใส่น้องแบนี้ 


เราก็เลือกที่จะไม่ว่าเขาในตอนแรกเราเลือกที่จะว่าลูกเรา ว่าหนูต้องระวังมากกว่านี้นะลูกหนูต้องเขยิบและก็ต้องระวังมากกว่านี้หนูต้องมองด้วยว่าเขายังเสิร์ฟไม่เสร็จ ถึงลูกเราจะเจ็บอยู่แต่เขาพูดคำว่าขอโทษออกมา แต่ที่มันโมโหคือในระหว่างที่พ่อเขาพาลูกไปล้างไม่มีใครสักคนนึงเดินไปช่วยเดินไปถามว่าต้องการอะไรเพิ่มไหม ให้ช่วยอะไรไหม! ไม่มีเลย จริงๆ


จนเราเอาลูกเรากลับมาที่โต๊ะแล้วนั่งดูแผลลูกตั้งนานสองนาน เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จอะไรเสร็จจนกินข้าวเสร็จไม่มีใครเดินมาที่โต๊ะสักคนไม่ว่าจะเป็นเจ้าของร้านหรือจะเป็นลูกน้องไม่มีเลย พอเช็กบิลเราก็เลยขอให้เจ้าของร้านออกมา เจ้าของร้านเดินมาพูดถามว่ามีอะไรครับเราบอกว่ามีอุบัติเหตุค่ะ พนักงานทำน้ำแกงหกใส่ลูกฉันค่ะ


คำตอบที่ได้คือเจ้าของร้านแจ้งว่าพนักงานได้บอกเรียบร้อยแล้ว ตอนนั้นก็เอะใจว่าถ้าบอกแล้วทำไมเจ้าของร้านไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรเลยตั้งแต่เกิดเรื่อง ทำไมต้องรอให้เรียก แต่ก็ไม่ได้พูดขึ้นก็ถามกลับต่อไปว่าแล้วพนักงานไม่คิดจะขอโทษเลยสักคำเหรอ เจ้าของร้านตอบกลับมาว่าพนักงานไม่รู้เรื่องเป็นเด็กต่างจังหวัดยังไม่รู้ต้องขอโทษยังไง !? เราถามย้ำว่าไม่รู้ว่าต้องขอโทษยังไงหมายความว่าอะไรเขาบอกว่าเป็นเด็กต่างด้าวเพิ่งจะมาทำงาน  


เราเลยถามกลับว่าแล้วเขาไม่รู้เหรอว่าพฤติกรรมแบบเนี่ย คือมันทำให้เจ็บตัวเด็กร้องขนาดเนี่ยทางร้านไม่มีใครเดินออกมาสักคนเนี่ย คือไม่รู้เลยเหรอคือไม่รู้เลยใช่ไหมว่า ต้องแสดงความรับผิดชอบยังไงผ้าเย็นซักผืนก็ไม่มี คำขอโทษสักคำก็ไม่มี ขนาดผ้าที่จะเช็ดโต๊ะ เพราะนํ้าแกงเลอะอยู่ ยังต้องเป็นคนขอเองเพราะไม่มีใครเดินมาสนใจทิชชูซักแผ่นยังไม่มีให้ เจ้าของได้แต่พูดว่าน้องมันไม่รู้เรื่อง มันไม่รู้ต้องขอโทษยังไงน้องเป็นเด็กต่างจังหวัดน้องเพิ่งเข้ามาทำงาน พูดอยู่แค่นี้  


เราพูดต่อทั้งนํ้าตาและความโมโหว่า คือมันเป็นจิตสำนึกของคนไงมันไม่เกี่ยวว่าอยู่ประเทศอะไร มันเกี่ยวที่ว่าคุณต้องรู้สิว่าแบบเนี่ยมันคือเด็กกำลังเจ็บตัวอยู่ คุณต้องแสดงความรับผิดชอบไม่ใช่เงิน ไม่ใช่คำขอโทษก็ได้ แต่คุณต้องเข้ามาดูว่าเขาต้องการอะไรเพิ่มเติมไหม คือมันไม่มีเลยสำหรับพนักงานของคุณและร้านคุณ และน่าจะเป็นลูกสาวเจ้าของร้านออกมาเขาขอแสดงความรับผิดชอบ โดยการจ่ายค่าอาหารแต่เราไม่ต้องการให้มาจ่ายค่าอาหารให้ เพราะกินไม่ลง 


เราก็พูดกับเขาไปแบบนี้เลยว่ากินไม่ลงแล้วก็ไม่ได้กินและไม่ต้องการให้มาแสดงความรับผิดชอบเรื่องอาหาร กูจ่ายเองได้ สิ่งที่ต้องการคือความระมัดระวังมากกว่านี้แล้วถ้ามันเป็นเด็กคนอื่น ถ้ามันเป็นเด็กเล็กล่ะ ถ้ามันเป็นบ้านอื่นนะเขาจะยอมไหม แทนที่จะสอนลูกน้องว่าให้ระวังกว่านี้ ไม่ใช่สักแต่ว่าหาพนักงานมาไว้เสิร์ฟแต่ต้องสอนให้เขารู้จักการบริการ ให้มองว่าเด็กอ่ะ 


ถ้านั่งอยู่ทางนี้ให้เสิร์ฟอีกทางหนึ่งคำเดียวที่เราพูดออกไปคือ ระวังปลาเน่าตัวเดียวระวังมันจะเหม็นทั้งบ่อนะ เจ้าของร้านและลูกสาวเจ้าของร้านขอโทษ และสั่งให้พนักงานขอโทษ แต่คือมันไม่ใช่ไงมันควรจะมีคำขอโทษตั้งแต่เกิดเหตุ ณ ตอนนั้นนี่เรานั่งป้อนข้าวลูกจนเสร็จจนเช็กบิลไม่มีใครเดินมาแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย ไม่มีเลยจริงๆ สำหรับร้านนี้เสียความรู้สึกมากที่เลือกกินอาหารร้านนี้ เพราะเดินทางไปไหว้พระที่ศาลเจ้านาจาเสร็จแล้วก็มุ่งไปร้านนี้เลย 


ตอนนี้ได้พาน้องไปหาหมอเรียบร้อยค่ะ หมอแจ้งว่าให้ระวังน้องจะติดเชื้อแล้วก็เดี๋ยวจะเดินทางพาน้องกลับไปที่ชลบุรีพรุ่งนี้ไปบันทึกประจำวันไว้ เพราะพนักงานคนที่ทำน้องเจ็บเป็นต่างด้าว เจ้าของร้านได้แจ้งไว้แบบนี้ แต่สิ่งที่มันยังคาใจอีกนิดนึงคือว่าเจ้าของร้านรู้ตั้งแต่แรกแล้ว พนักงานเดินไปบอกตั้งแต่แรกแต่ทำไมไม่เดินมาแสดงความรับผิดชอบตั้งแต่แรกหรือว่ายังไง ปกป้องกันปล่อยลูกค้าเจ็บไม่สนใจแม่งอย่างงี้เหรอโคตรแย่ว่ะ ห่วยแตก อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้อันนี้เราเข้าใจ แต่ไม่ใช่เฉยเมยแบบนี้ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ ไม่แม้แต่หันมามองขอบคุณทุกคนมากนะคะ ที่เป็นห่วงน้องแสตมป์ที่โทรมาที่ทักส่วนตัวและที่แสดงความคิดเห็นในทุกๆช่องทาง 


ต่อได้มีเพจ Facebook ชื่อว่า ครัวปลาทู คิดอ้วน ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ในโพสต์ดังกล่าวว่า “สวัสดีค่ะลูกค้า ครัวปลาทูนะคะอันดับแรกทางครัวปลาทูต้องขอโทษเป็นอย่างสูงกับเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อีกครั้งนะคะ


ทางครัวปลาทูเพิ่งได้รับทราบจากพนักงานว่าได้ทำแกงหกใส่ลูกค้า เมื่อตอนที่ลูกค้าเรียกพบเจ้าของร้านขณะชำระเงินค่ะ (พนักงานแจ้งว่าลูกค้าขอพบเจ้าของร้านเรื่องแกงหก) ทางร้านจึงได้เรียนแจ้งกับลูกค้าไปว่ารับทราบแล้วแบบนั้นค่ะ (ต้องขออภัยในความล่าช้าส่วนนี้ด้วยนะคะ) ทางร้านไม่ได้นิ่งนอนใจ และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ทำให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในครั้งนี้ 


ทางเราได้ตักเตือนและอบรมน้องพนักงานทั้งเรื่องมารยาทและการบริการ ให้มีความระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม ณ ขณะนี้ได้ย้ายตำแหน่งพนักงานไม่ให้เสิร์ฟและรับออเดอร์ เพื่ออบรม ปรับปรุงพฤติกรรมการเสิร์ฟและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ดีมากกว่าเดิมค่ะลูกค้าทางเราขอน้อมรับความผิดพลาดในครั้งนี้ และขอโทษลูกค้าเป็นอย่างสูงอีกครั้งนะคะ ครัวปลาทู ทิดอ้วนซึ่งเรื่องราวดังกล่าวหลังจากถูกโพสต์ลงบนโซเชียลบน Facebook ทำเอาชาวเน็ตที่เข้ามาอ่านตามพากันแชร์เรื่องราวและคอมเม้นต์เป็นห่วง เด็กหญิงวัยห้าขวบที่ถูกน้ำร้อนลวกเป็นจำนวนมาก


คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านร้านอาหารครัวปลาทูทิดอ้วน บริเวณหาดวอนนภา ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ได้พบกับ นางสาวระพีพรรณ อายุ 27 เจ้าของร้านดังกล่าว โดยแนะนำคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านมาให้กับผู้สื่อข่าวดู เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ โดยในภาพจะเห็นว่ามีครอบครัวพ่อแม่ลูกของเด็กหญิงวัยห้าขวบเข้ามาภายในร้าน และได้ไปนั่งอยู่บริเวณซุ้มไม้ จากนั้นก็ได้นั่งที่โต๊ะอาหารแล้วมีการสั่งเมนู และในภาพจะเห็นว่ามีพนักงานเดินมาเสิร์ฟอาหารเป็นชายสองคน 


โดยมีพนักงานอีกคนที่กำลังยื่นอาหารไปวางบนโต๊ะ จากนั้นได้ทำน้ำแกงหกรดแขนของเด็กหญิงวัยห้าขวบจนตกใจด้วยความเจ็บปวด และร้องไห้เสียงดัง จากนั้นได้มีพ่อของเด็กได้มาดูและรีบพาไปล้างน้ำที่ห้องน้ำ และในภาพก็จะเห็นว่าได้มีเจ้าของร้านเดินออกมาดูในเวลาต่อมา จากนั้นก็ได้เรียกพนักงานเสิร์ฟรายดังกล่าวเข้ามากับขอโทษต่อลูกค้า ก่อนจะมีการแยกย้ายกันไป 


จากการสอบถามนางสาวระพีพรรณ เจ้าของร้านอาหาร ได้เปิดเผยว่า เมื่อวานได้มีครอบครัวของเด็กหญิงและแม่ของเด็กที่เป็นเจ้าของโพสต์ดังกล่าวได้เข้ามารับประทานอาหารที่ร้าน จากนั้นระหว่างรออาหารที่โต๊ะปรากฏว่ามีพนักงานเสิร์ฟของทางร้าน ได้ทำน้ำแกงส้มหกใส่กับลูกสาวของลูกค้าวัยเพียงห้าขวบจนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลแดงที่แขนและลำตัว 


แต่ทางพนักงานไม่ได้มีการแจ้งว่าทำน้ำแกงหกใส่ลูกค้าภายในร้าน โดยพนักงานแจ้งเพียงแต่ว่าทำน้ำแกงหกเพียงเท่านั้น จึงทำให้ตนไม่รู้ว่าน้ำแกงที่หกนั้นไปโดนลูกค้าด้วย จนกระทั่งถึงเวลาคิดเงิน พนักงานได้มาเรียกว่าลูกค้าขอพบ ตนจึงออกไปดูจึงทราบเรื่องราวดังกล่าวที่เกิด เนื่องจากทางพนักงานไม่ได้แจ้งแต่ทีแรก และสาเหตุที่ไม่ได้ออกมาดูตอนที่เด็กร้องไห้ เพราะตนยืนยันว่าไม่ได้ยินเสียงเด็กร้อง เพราะตอนที่อยู่ในห้องเป็นห้องปิดมิดชิด และมีเสียงจากปล่องควันดูดอากาศที่เปิดตลอดเวลาทำให้เสียงข้างในอื้ออึ้ง 


ตนน้อมยอมรับผิดในตรงนี้ ถ้าลูกน้อง แจ้งว่าน้ำแกงหกโดนลูกค้าหรือเด็กตนก็จะรีบออกมาดูทันที เกิดความผิดพลาดในการสื่อสารระหว่างพนักงานเสิร์ฟ ที่ไม่ยอมแจ้งต้นตั้งแต่แรกจึงทำให้ลูกค้าอาจเข้าใจผิดในความช่วยเหลือในการเยียวยา เบื้องต้นตนก็ได้มีการคอมเมนต์ขอโทษลูกค้าด้วยความบริสุทธิ์ใจในโพสต์ของลูกค้าไปเรียบร้อยแล้ว  


ทางร้านมีความประสงค์ยินดีจะรับผิดชอบค่าเยียวยา จิตใจ ค่ารักษาพยาบาล ของน้องเนื่องจากน้องเป็นเด็กวัยเพียงห้าขวบเท่านั้น และตนก็เห็นว่าน้องมีบาดแผลแดงจากถูกน้ำร้อนลวกบริเวณแขนและลำตัวตนก็รู้สึกสงสาร และอยากขอโทษแม่ของน้องและน้องและครอบครัวของน้องที่มารับประทานอาหาร ทางร้านยืนยัน จะมีการติดต่อขอโทษและเยียวยาอย่างแน่นอน กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และตอนนี้ก็ได้มีการย้าย พนักงานดังกล่าวเข้ามาปรับปรุงอบรมพฤติกรรมการเสิร์ฟและรับออเดอร์จากลูกค้าจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำอีกแน่นอน  

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง