พบอีกอาคารร้าง สตง. ที่ลำปางสร้างไม่เสร็จถูกทิ้งงาน

พบอีกอาคารร้าง สตง. ที่ลำปางสร้างไม่เสร็จถูกทิ้งงาน

86704 เม.ย. 68 18:37   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ผู้ตรวจการ สตภ.9 ลำปาง แจงไม่ได้ปล่อยผู้รับเหมาทิ้งงาน ปรับรายวัน ยกเลิกสัญญาและอยู่ระหว่างหาผู้รับจ้างรายใหม่รอบที่ 2 ซึ่งหลังจากเลิกสัญญาจนถึงวันนี้เพียง 5 เดือน พร้อมขยายเวลาใช้เงินไปอีก 6 เดือน

(4 เม.ย.68) จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวการก่อสร้างอาคาร สตง. จ.พะเยา ด้วยงบประมาณ 73 ล้านบาท ถูกปล่อยทิ้งร้างมานานสองปี ซึ่งเป็นโครงการของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 9 ลำปาง เป็นผู้รับผิดชอบนั้น


นางรสสุคนธ์ เคนพะนาน ผู้ตรวจการแผ่นดินภูมิภาคที่ 9 ลำปาง พร้อมด้วย นายพิษณุวัชร์ วีระพงศ์เดช รองผู้ตรวจการแผ่นดินภูมิภาคที่ 9 ลำปาง เปิดเผยว่า ทางสำนักงานไม่ได้นิ่งนอนใจและไม่ได้ปล่อยให้ผู้รับจ้าง ทิ้งงานตามที่เป็นข่าว โดยระบุว่าตามโครงการสิ้นสุดสัญญา เดือน เม.ย.ปี 2566 ทางผู้รับจ้างได้สิทธิในการขยายเวลาในช่วงโควิดมาถึงเดือน ก.พ. 67 หลังจากกลับมาทำงานทาง พบว่างานล่าช้าส่งงานไม่ตรงงวดงาน จึงมีการปรับรายวันๆละ 68,000 บาท ต่อมาก็พบว่างานยังล่าช้าอีก และคาดว่าน่าจะไปต่อไม่ได้ จึงต้องบอกเลิกสัญญาในเดือน ต.ค. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นมีค่าปรับมากถึง 13 ล้านบาท ส่วนเงินงวดที่ผู้รับจ้างจะเบิกได้ตามงวดงานเพียง 12 ล้านบาท ซึ่งหลังจากเลิกสัญญา ได้มีการประสานยึดหลักประกันอีก 3.5 ล้านบาท และยังอยู่ระหว่างเรียกจากผู้รับเหมาอีกประมาณ 1 ล้านบาท


ส่วนงานก่อสร้างได้มีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานที่เนื้องานที่เหลือ เพื่อออกแบบใหม่ และได้เชิญชวนผู้รับจ้างรายใหม่มาประกวดราคาไปแล้ว1ครั้งแต่ไม่มีผู้สนใจ จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการทบทวนราคากลางใหม่เพื่อนำมาเชิญชวนผู้รับจ้างรายใหม่เข้าร่วมประกวดราคาในรอบที่ 2 ซึ่งหากดูตามเวลาในการยกเลิกสัญญามาถึงขณะนี้ก็เพียง 5 เดือนเท่านั้น ทั้งนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินภูมิภาคที่ 9 ลำปาง บอกอีกว่าแม้งานนี้จะเป็นงานที่ สตง.ทำ ต้องเดินตามกรอบระเบียบไม่มีอภิสิทธิ์ที่จะเดินออกนอกกรอบ หรือที่กฎหมายกำหนดไว้ 

 

ผู้ตรวจการแผ่นดินภูมิภาคที่ 9 ลำปาง ได้ให้ข้อมูลว่า สำหรับอาคารสำนักงานฯ ที่กำลังเป็นประเด็นนั้น ทางสตภ.9 ได้บอกยกเลิกสัญญากับผู้รับจ้างไปเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 จนถึงวันนี้ก็ประมาณ 5 เดือน หลังจากนั้นก็ได้มีการประกาศเชิญชวนให้ผู้รับจ้างรายใหม่เข้าร่วมประมูลราคาเพื่อเข้าทำงานต่อในส่วนที่เหลือ โดยได้มีการเชิญชวนผู้รับจ้างไปเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 68 และขอให้ผู้รับจ้างยื่นประกวดราคาภายในวันที่ 18 มี.ค.68 ที่ผ่านมาแต่ปรากฏว่าไม่มีผู้รับจ้างมายื่นซองประกวดราคาแม้แต่รายเดียว เนื่องจากราคากลางของงานที่เหลืออยู่สูงกว่างบประมาณที่เหลืออยู่ โดยไม่สามารถเพิ่มวงเงินได้


ทำให้ขณะนี้ สตภ.9 ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อทบทวนราคากลางใหม่ เพื่อนำไปหาผู้รับจ้างรายใหม่เข้าดำเนินการต่อ เนื่องจากงานที่ก่อสร้างได้ทำไปแล้ว 38% พร้อมกับการขอขยายเวลาในการดำเนินงานโครงการออกไปก่อนอีก 6 เดือน ซึ่งก็หวังว่าจะมีผู้รับจ้างรายใหม่เข้ามาดำเนินการต่อเร็วๆนี้


ส่วนที่บอกว่า สภต.9 ปล่อยให้ผู้รับเหมาทิ้งงานมา 2 ปีนั้น จริงแล้วตั้งแต่เริ่มประกวดราคา เป็นการประกวดราคาแบบอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อได้ผู้รับเหมาและเริ่มเข้าทำงาน สตภ.9 มีหน้าที่ในการตรวจรับงานแต่ละงวดและเบิกจ่ายเงินให้เท่านั้น ซึ่งหลังจากเริ่มดำเนินงานก็ไม่มีปัญหาได้มีการส่งมอบงานตามงวดและเบิกจ่ายเงินให้ตามงวดที่เสร็จ 


หลังจากสิ้นสุดสัญญา 10 เม.ย.66 ผู้รับเหมาได้รับการยกเว้นช่วงโควิดอีก 317 วันทำให้สัญญาขยายมาสัญญาสิ้นสุด 21 ก.พ.67 หลังจากกลับมาเริ่มทำงานใหม่ก็พบว่างานล่าช้า เนื่องจากทราบภายหลังว่าผู้รับจ้างรับงานหลายที่และน่าจะมีปัญหาสภาพคล่อง ทำให้งวดงานเสร็จไม่ตามสัญญา ซึ่งระหว่างนั้น ก็ได้มีการคิดค่าปรับล่าช้าวันละ 68,000 บาท ต่อมาพบว่างานสะดุดมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง ดูแล้วว่าค่าปรับกับระยะเวลาทำงานตามสัญญาและความคืบหน้าของงานไม่สอดคล้องกันน่าจะไปต่อไม่ได้ สภต.9 จึงแจ้งบอกเลิกสัญญากับผู้รับจ้าง วันที่ 15 ตุลาคม 2567 ซึ่งทำให้มีค่าปรับ ณ วันยกเลิกสัญญาประมาณ 13 ล้านบาท ซึ่งจำเป็นต้องเรียกจากผู้รับจ้างอีกประมาณกว่า1ล้านบาท พร้อมกับประสานหลักประกันคืนมาอีก 3.5 ล้านบาท 


หลังจากยกเลิกสัญญาช่วง พ.ย.- ธ.ค. สภต.9 ยังคงลงพื้นที่เพื่อตรวจหน้างานสรุปงานทั้งหมดและเพื่อให้ผู้รับเหมาขนย้ายอุปกรณ์ออกจากพื้นที่ พร้อมเริ่มเขียนแบบใหม่ต่อจากที่ทำค้างอยู่ เมื่อเรียบร้อยจึงแจ้งกระทรวงการคลังให้ผู้รับจ้างเป็นผู้ทิ้งงาน เมื่อวันที่ 4 ก.พ.68 หลังจากนั้นก็ได้ดำเนินการตามระเบียบ และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat