‘แสตมป์’ ขอโทษที่พูดไม่ครบกระทบวงกว้าง-ยันเจอขู่จริง
‘แสตมป์’ ขอโทษที่พูดไม่ครบกระทบวงกว้าง-ยันเจอขู่จริง
‘แสตมป์’ แถลงขอโทษ ยอมรับพูดไม่ครบจนกระทบศิลปินคนอื่น บอกเป็นความผิดพลาดที่สุดที่เว้นประเด็นนอกใจ - ยืนยันถูกข่มขู่ยัดคดีการเมืองจริง
(20 ม.ค. 68) กลายเป็นดราม่าใหญ่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเมื่อวันที่ 15 ม.ค. นักร้องดัง แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ได้บอกเล่าบนเวทีคอนเสิร์ตว่าตนและภรรยาถูกคุกคามโดยหญิงสาวรายหนึ่ง และแฟนของหญิงคนดังกล่าวที่ทำงานกับวงดนตรีวงหนึ่ง โดยมีการระบุว่าหญิงคนดังกล่าวได้ติดตาม ดักรอตนเองมานานเป็น 10 ปี และเมื่อมีการฟ้องร้องกัน ก็ถูกคุณพ่อของหญิงคนดังกล่าวที่มียศเป็นนายพลมาข่มขู่ว่าจะยัดข้อหาในคดีการเมืองให้
ทำให้ชาวเน็ตพากันสืบเสาะว่าหญิงสาวและแฟนของเธอที่มาคุกคาม แสตมป์และภรรยาคือใคร ก่อนที่จะมีการออกมาแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงในส่วนของวงดนตรีชื่อดัง “ทิลลี่ เบิร์ด” ว่าคู่กรณีของ แสตมป์ เป็นซาวด์เอนจิเนียของวงจริง แต่ที่ไม่ไล่ออกเนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ข้อมูลที่ทางวงได้รับมาจากแสตมป์และจากคู่กรณี เป็นเรื่องคดีชู้สาวเท่านั้น ส่วนเรื่องการคุกคามอื่นยังไม่มีหลักฐานชัดเจน
หลังแถลงการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป กระแสสังคมก็แตกออกเป็นหลายส่วน ทั้งที่เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องชู้สาว ส่วนที่มองว่าทิลลี่เบิร์ดไม่ควรเอาเรื่องชู้สาวมาพูด และส่วนที่มองว่าถ้าเป็นเรื่องชู้สาวจริงฝั่งแสตมป์ควรออกมาพูดให้ชัด เพราะมันจะทำให้สถานการณ์ที่เล่ามาก่อนหน้านี้เปลี่ยนไป ก่อนที่จะมีการเปิดเผยเอกสารการฟ้องร้องในคดีชู้สาว จากฝั่งของคู่กรณีของแสตมป์ และภาพข้อความแชตที่แสตมป์ส่งให้เพื่อน ยิ่งกระพือความรุนแรงของดราม่านี้
ล่าสุดเช้านี้ แสตมป์ อภิวัชร์ เคลื่อนไหวแล้ว โดยได้ออกมาขอโทษประเด็นต่างๆ ผ่านทางเพจ Stamp โดยเจ้าตัวระบุว่า “ผมขอโทษทุกคนด้วยความเสียใจอย่างที่สุด ที่ผมพูดบนเวทีในวันที่ 15 มกราคม ไม่ครบทุกประเด็น ทำให้เกิดความเสียหายออกไปในวงกว้าง ทั้งกับตัวบุคคลและวงดนตรีต่างๆ มากมาย
เป็นความผิดพลาดที่สุดของผม ที่ผมเลือกเว้นประเด็นที่เป็นสาเหตุตั้งต้นที่แท้จริงของปัญหาทั้งหมดที่หลายคนกำลังเดือดร้อนอยู่นี้ นั่นคือ การนอกใจภรรยาของผมเอง
ผมมีเจตนาที่จะใช้เวทีนั้นเป็นสื่อกลางส่งสารไปยังคนจำนวนหนึ่ง เพื่อแจ้งให้เขาทราบว่า ภรรยาของผมเดือดร้อนและมีความกังวลจากเรื่องอะไรบ้าง และแจ้งให้คนจำนวนนึงทราบเกี่ยวกับผลของศาลที่แท้จริงที่เราเข้าใจว่าถูกบิดเบือนในสังคมอยู่ในขณะนั้น
จึงใช้วิธีการเล่าแบบไม่ได้ระบุชื่อตัวบุคคล หลีกเลี่ยงประเด็นที่เป็นสาเหตุแท้จริง
แต่สิ่งที่ผมคิดน้อยมากเกินไปและผิดพลาดที่สุดก็คือ ผมไม่ได้คิดไปถึงเลยว่าจะมีคนขุดคุ้ยมาเปิดเผยในที่สาธารณะ ว่าตัวละครที่ผมเล่าไปจะเป็นใครบ้างในชีวิตจริง จนมีคนเดือดร้อนกันเป็นวงกว้างได้ขนาดที่เป็นอยู่นี้
ผมขอโทษน้องๆวง Tilly birds เติร์ด บิลลี่ ไมโล และทีมงาน ที่ทำให้พวกเขาเดือดร้อนมาอย่างยาวนาน จากปัญหาที่ผมสร้างขึ้นมาเองในครอบครัว และทำให้พวกเขาถูกเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง ผมขอโทษน้องๆจริงๆครับ สิ่งที่เราสู้รบกันจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าผมซื่อสัตย์ต่อภรรยาผมตั้งแต่ต้น
ผมขอโทษ คุณโอม Cocktail ที่มีการพาดพิงถึงในเรื่องเล่าของผม จนพลาดวันสำคัญในชีวิตไป
ผมขอโทษนักร้องนักดนตรีทุกคน หรือใครก็ตาม ทีมงาน โบกี้ไลอ้อน วิว โทนี่ วง moving and cut วงมีน พี่จี๊บ LOVEiS
และทุกๆคนที่ติดร่างแหไปจากการเล่าเรื่องของผม
ผมขอโทษคู่กรณีของผมและภรรยา และครอบครัวของพวกเขา
ผมยอมรับว่าเคยมีความสัมพันธ์กับ จ.ในอดีตจริง และได้จบไปแล้ว และได้ละเว้นประเด็นนี้ไว้ในเรื่องเล่า จนคนเข้าใจผิด เอาใจช่วยผมไปในเรื่องที่ผมบิดเบือนว่า จ.เป็นเพียงแฟนคลับที่มาติดตาม
เรื่องของการคุกคามและข่มขู่ด้วยคดีทางการเมือง ผมยังยืนยันว่าเคยเกิดขึ้นจริง หากแต่ปัจจุบันได้หยุดลงไปแล้ว และผมได้เล่าเรื่องเหล่านี้เพื่อให้หน่วยงานต่างๆมาคุ้มครองดูแล
เรื่องของคดีความ ผมฟ้อง ก. กับ จ.ในคดีร่วมกันหมิ่นประมาท แยกเป็นแพ่งและอาญา รวม 3 คดี
ผมถอนฟ้องให้ทั้งหมดเนื่องจากถูกข่มขู่ด้วย ม.112 ซึ่งมีพยานวัตถุเป็นแชท
ส่วนภรรยาผมฟ้องคดีมือที่สาม และจบลงด้วยการได้รับค่าชดใช้หนึ่งล้านบาทจาก จ.
ผมขอโทษแฟนเพลงและทุกคนในสังคม ที่ผมได้มีการทำตัวในสิ่งที่ไม่เหมาะสมลงไป ผมขอสัญญาว่าต่อจากนี้จะใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทและครองสติอย่างดีที่สุด
ที่สำคัญที่สุด ผมขอโทษภรรยาของผมและครอบครัว และขอบคุณที่ยังให้โอกาสผมในการเริ่มต้นใหม่
ผมขอโทษทุกคนจริงๆครับ ผมขอน้อมรับทุกความผิดที่เกิดขึ้นครับ ขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อนครับ”