คุม"ช่างสันต์"มือยิงตำรวจสายไหม"ทำแผน "พร้อมฝากขังค้านประกัน
คุม"ช่างสันต์"มือยิงตำรวจสายไหม"ทำแผน "พร้อมฝากขังค้านประกัน
ตร.คุมตัว"ช่างสันต์"มือยิงตำรวจสายไหม ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว
(4ม.ค.68) เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม คุมตัวช่างสันต์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ ก่อนจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญามีนบุรีในข้อหา “ฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ , ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต , และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะและยิงปืนในที่สาธารณะ” พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นเหตุอุกฉกรรจ์และมีอัตราโทษสูง โดยระหว่างถูกคุมตัวไปทำแผน ช่างสันต์บอกว่าขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ ส่วนเรื่องราวเกิดขึ้นได้อย่างไรนั้นช่างสันต์ไม่เปิดปากพูดแต่อย่างใด
ในขณะที่เจ้าที่ตำรวจคุมตัวผู้ก่อเหตุทำแผนระหว่างนั้นญาติผู้ตายได้มาดูการทำแผนและมีการด่าทอผู้ก่อเหตุ โดยญาติผู้ตาย เผยว่า ผู้ตายมักมานั่งกินข้าวแถวนี้เป็นประจำ ไม่ใช่เป็นคนชอบดื่มเหล้า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่ได้ทราบข้อมูลอะไรมากนัก เป็นคนชอบช่วยเหลือ แต่โดยปกติน้องชายจะเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น เป็นคนดีกับทุกคน ใครลำบากน้องชายก็ช่วยเหลือ
"โดยอีกไม่กี่ปีข้างหน้า หลังจากน้องชายจะเกษียณราชการได้มีการวางแผนจะกลับไปทำงานที่บ้าน แต่ก็ต้องมาจบชีวิตลงด้วยเรื่องแบบนี้ ทั้งนี้ ตนอยากให้ผู้ก่อเหตุถึงขั้นถูกประหารชีวิต ไม่ใช่แค่ถูกคุมขัง" ญาติ ระบุ
ขณะที่ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ “ลุงอ๊อด” อายุ 50 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองอยู่ในบ้านกับครอบครัว จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดจึงได้ออกมาดูที่หน้าบ้าน จนเกือบถูกลูกหลงจากปืนที่กราดยิงมาถึง 3 นัด จากนั้นตนเองก็เห็นร่างของ "หมวดบรรรัง" หรือ ร.ต.ท.บรรรัง นอนจมกองเลือด ซึ่งจากการพูดคุยกับชาวบ้านด้วยกันทราบว่า ช่างสันต์ทะเลาะวิวาทกับชาวเมียนมา และชาวเมียนมาได้ข้ามถนนมาขอความช่วยเหลือหมวดบรรรัง หมวดบรรรังจึงห้ามปรามไม่อยากให้ทะเลาะกัน พร้อมแสดงตัวว่าเป็นตำรวจ ทำให้ช่างสันต์ไม่พอใจกลับไปที่บ้านนำปืนมายิงหมวดบรรรัง
ทั้งนี้ “ลุงอ๊อด” บอกด้วยว่า ช่างสันต์ผู้ก่อเหตุ อยู่ที่ร้านซ่อมรถฝั่งตรงข้าม ไม่ค่อยมีชาวบ้านไปสุงสิงด้วย เพราะเวลาที่ช่างสันต์ดื่มสุรา ก็มักจะเมาอาละวาดโวยวาย ตะโกนด่าทอ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นทำร้ายร่างกาย หรือเอาปืนมายิงใคร
เบื้องต้นมีรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาช่างสันต์อยู่ในอาการมึนเมา ทำให้ตำรวจสอบปากคำไม่ได้ และต้องมาสอบปากคำเพิ่มเติมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวก็ให้การรับสารภาพ ส่วนการสอบปากคำภรรยาช่างสันต์ บอกว่า กลัวว่าสามีจะเอาปืนไปยิงคนอื่นอีก จึงได้เก็บอาวุธปืนไว้ให้ที่บ้าน แต่ตำรวจบอกว่าตอนแรกภรรยาไม่ยอมบอกว่าเก็บปืนไว้ที่ไหน รวมถึงมีหลักฐานชัดเจนว่าช่วยเหลือกัน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตำรวจก็ได้เข้าตรวจค้นบ้านของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นร้านซ่อมรถ เพื่อหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ จนพบของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อ STEYR MANNLICHER มีทะเบียน 1 กระบอก พร้อมแม็กกาซีนที่บรรจุกระสุนอยู่ 1 นัด และแม็กกาซีนอีกอันที่บรรจุกระสุน 10 นัด ซุกซ่อนอยู่ใต้ชั้นวางเครื่องมือซ่อมรถในโรงจอดรถข้างบ้าน ซึ่งในส่วนนี้จะมีการดำเนินคดีกับภรรยาที่ด้วย
อย่างไรก็ดีช่วงบ่ายของวันนี้ทางครอบครัวของร.ต.ท.บรรรัง จะเดินทางไปรับศพที่นิติเวชโรงพยาบาลภูมิพล เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ที่วัดสายไหมโดยมีผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นประธานรดน้ำศพ และสวดอภิธรรมศพ
ในขณะที่ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ได้เตรียมดูเรื่องเกี่ยวกับสวัสดิการให้เกี่ยวกับการปูนบำเหน็จให้ ร.ต.ท.บรรรัง เกษาพร รองสว.สน.สายไหม 7 ชั้นยศ เนื่องจากเสียชีวิตปฏิบัติหน้าที่
ข่าวเวิร์คพอยท์23
ข่าวที่เกี่ยวข้อง