นฤมิตไพรด์จัดงานใหญ่ เฉลิมฉลอง “สมรสเท่าเทียม”

(23 ม.ค. 68) นฤมิตไพรด์ และภาคี ร่วมกับ สำนักนายกรัฐมนตรี และกรุงเทพมหานคร จัดงาน “สมรสเท่าเทียม” จดทะเบียนสมรสคู่รัก LGBTQ+ วันแรก ที่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อเฉลิมฉลอง พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียมได้บังคับใช้ เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ความเท่าเทียมของความหลากหลายทางเพศ คู่รักความหลากหลายทางเพศสามารถจดทะเบียนสมรส ได้รับรองสิทธิตามกฎหมายตั้งแต่วันนี้วันแรกเป็นต้นไป

สำหรับกิจกรรม มีขบวนแห่ขันหมาก นำคู่รักความหลากหลายทางเพศ ประมาณ 70 คู่เดินผ่านพรมสีรุ้ง นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จากนั้นได้มีกิจกรรมบนเวที การแสดง และการเชิญคู่รักขึ้นเวทีและคล้องพวงมาลัยมงคลเพื่อร่วมฉลองมงคลสมรส

จากนั้น ทางสำนักงานเขตปทุมวัน ได้จัดเจ้าหน้าที่บริการจดทะเบียนสมรสให้กับคู่รักที่เดินทางมาร่วมกิจกรรม ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก มีคู่รักกลากหลายทางเพศเดินทางมาจดทะเบียนสมรสตั้งแต่ 08.00-18.00 น. โดยทางกรุงเทพมหานครคาดการณ์ว่า จะมีคู่รักมาจดทะเบียนที่สยามพารากอน ซึ่งยังไม่รวม 50 เขตในกรุงเทพมหานครประมาณ 500 คู่ และคาดว่าภาพรวมทั่วประเทศมีมากกว่า 1,448 คู่

ด้านนาย เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เป็นผู้ที่ผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียม เป็นอีกวันหนึ่งที่ประวัติศาสตร์ของประเทศไทยต้องจารึกไว้ ว่าการเดินทางอันยาวนานกว่า 20 ปีได้เดินทางมาถึงจุดที่ทุกคนได้สามารถแสดงออกได้ถึงความรักที่มีต่อกันโดยไม่จำกัดเพศสภาพ สามารถเชิดหน้าชูตาในสังคมได้อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมและพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญมาโดยตลอด ชื่อของมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว สมรสเท่าเทียม ผมขอเน้นไปที่คำว่า เท่าเทียม เราเรียกร้องสิทธิให้มีความเท่าเทียม ไม่ใช่สิทธิที่เหนือกว่าคนอื่น ผมเชื่อว่าเหตุผลที่ใช้เวลานานขนาดนี้เพราะว่ามีกาาบิดเบือน มีความไม่เข้าใจ คิดว่าเราเรียกสิทธิที่เหนือกว่าคนอื่น ความเท่าเทียมที่สิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนไม่ว่าเพศสภาพสมควรมีและได้รับ เรื่องการให้ความสำคัญกับความเท่าเทียม ให้ความเคารพกับทุกเพศสภาพ

ผมให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้มาก่อนที่ผมจะเริ่มต้นเส้นทางทางการเมืองเสียอีก ในตอนที่เดินทางเข้าสู่ถนนสายการเมืองเต็มตัว ผมไม่ปฏิเสธว่าผมอยู่พรรคเพื่อไทย เหตุผลหลักเหตุผลหนึ่งเลยไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญ แต่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับ สมรสเท่าเทียม เช่นเดียวกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องนี้พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญ ใส่ใจมาโดยตลอดแย่างต่อเนื่อง 

นายเศรษฐา ยังกล่าวอีกด้วยว่า ไม่อยากจะมา “ชุบมือเปิบ” ที่ความสำเร็จที่พี่น้องประชาชนได้ร่วมเดินทางกันมา มีหลายพรรคการเมือง หลายรัฐบาล ก็มีความพยายามช่วยกันผลักดันเรื่องเหล่านี้ให้เกิดขึ้นได้ ความรักที่เรามีต่อกันไม่จำเป็นจะต้องแอบอยู่ข้างหลังอีกแล้ว เราสามารถเชิดหน้าชูตา เป็นอย่างที่เราอยากจะเป็น อยู่อย่างที่เราอยากจะอยู่ แสดงออกอย่างที่เราอยากจะแสดงออก

นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังกล่าว แสดงความยนดีและขอโทษในเวลาเดียวกันว่า Better late than never = “มาสาย ยังดีกว่าไม่มาเลย” ต้องขอพูดเรื่องผลกระทบการมีสมรสเท่าเทียมเป็นชาติแรกๆในเอเชีย เป็น Word Class Destination สำหรับการท่องเที่ยว จะทำให้ชาว LGBTQ+ จากทั่วโลกก็สามารถเข้ามา สร่างเศรษฐกิจสีรุ้งให้กับประเทศไทย สร้างความอุดมสมบูรณ์ ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน 

ด้านนางจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในฐานะรัฐบาล ขอความยินดีกับขอเน้นย้ำถึงความตั้งใจตั้งแต่ในสมัยรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เดินหน้าผลักดันให้เกิดความเท่าเทียมในสังคม ครั้งแรกที่เปิดทำเนียบต้อนรับเชิญชวนทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมหารือ พูดคุยทั้งตัวแทนจากภาคประชาชน งผลักดันกฎหมายนี้ให้สำเร็จ ความสำเร็จของกฎหมายฉบับประวัติศาสตร์นี้ นอกจากความมุ่งมั่นแล้ว ยังได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน 

นอกจากนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียม ไม่ใช่ให้สิทธิเพียงแค่การจดทะเบียนสมรสแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังได้รับสิทธิที่กฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกด้วย เช่น การทำพินัยกรรม การรับมรดก การเข้ารับสิทธ์สวัสดิการทางสังคม 

สำหรับกิจกรรม สมรมเท่าเทียม ทาง กทม. ได้มอบให้สำนักงานเขต ปทุมวัน มาตั้งบูธรับจดทะเบียน ณ ศูนย์การค้าพารากอน จนถึงเวลาประมาณ 18.00 น. ส่วนหากหากคู่รักความหลากหลายทางเพศรายใดมีความประสงค์จดทะเบียน สามารถติดต่อไปยังเขตให้บริการทั้ง 50 เขตทั่วกรุงเทพนคร ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนต่างจังหวัดสามารถติดต่อที่ว่าการอำเภอได้ทุกที่ใกล้บ้าน โดยสามารถจดทะเบียนสมรสได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป