ผัวเข็นเมียป่วยลมชัก เก็บขยะขายได้วันละ 4 บาท

ผัวเข็นเมียป่วยลมชัก เก็บขยะขายได้วันละ 4 บาท

26519 มี.ค. 68 11:35   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ผัวเข็นเมียป่วยลมชัก เดินไกลเป็น 10 กิโลเมตร หาขวด-ขยะรีไซเคิลขายได้เฉลี่ยวันละ 4 บาท บอกจะปล่อยให้อยู่บ้านลำพังก็เป็นห่วง เมื่อรักแล้วก็ตัดสินใจจะดูแลตลอดไป แม้ลำบากไม่ทอดทิ้งกัน

(19 มี.ค. 68) ผู้สื่อข่าวชลบุรีพบคู่รักตกทุกข์ได้ยาก ต้องเข็นรถสามล้อเดินหาขวดน้ำ-ขยะรีไซเคิลขาย ได้เงินแค่วันละ 4 บาท อยู่ในพื้นที่ชุมชนย่านหนองจับเต่า ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี


โดยสามีภรรยาคู่นี้ ฝ่ายชายชื่อ นายธนวัฒน์ อายุ 35 ปี พื้นเพเดิมเป็นชาวขอนแก่น ส่วนฝ่ายหญิงชื่อ น.ส.สุภาพร อายุ 30 ปี ผู้ป่วยโรคลมชัก มีบัตรประจำตัวผู้พิการ


นายธนวัฒน์ กล่าวว่า ในอดีตตนเคยยึดอาชีพเป็นช่างก่อสร้าง และรับจ้างทั่วไป กระทั่งได้มาพบรักกับ น.ส.สุภาพร จนตกลงปลงใจอยู่กินฉันสามีภรรยามานานร่วม 10 ปี ตนรู้แต่แรกแล้วว่า ภรรยามีโรคประจำตัว (โรคลมชัก) แต่ก็รู้สึกรัก ห่วง และผูกพัน เวลาออกไปทำงาน ภรรยาก็จะอยู่บ้านเพียงลำพัง ด้วยความเป็นห่วงเกรงหากวันใดไม่อยู่บ้านแล้ว โรคลมชักเกิดกำเริบ ภรรยาอาจจะได้รับอันตรายได้ จึงตัดสินใจผันชีวิตจากคนงานก่อสร้างมาเป็นคนเก็บขยะ โดยจะพาภรรยาออกไปช่วยกันเข็นรถหาเก็บขยะขาย ดังที่ปรากฏให้เห็น จนบัดนี้ก็ล่วงเลยมานานกว่า 1 ปีแล้ว



รายได้จากการเก็บขยะขาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นขวดพลาสติก ในแต่ละวันต้องใช้ระยะเวลาเดินนานหลายชั่วโมง เป็นระยะทางเกือบ 10 กม. ขยะรีไซเคิลที่ได้มาก็จะรวบรวมเก็บไว้ที่บ้าน และจะขายในช่วงทุกสิ้นเดือน โดยจะได้รายได้จากการขาย เดือนละประมาณ 100-120 บาท หากคิดเป็นวันแล้วก็ตกวันละ 4 บาท


นอกจากนี้ ภรรยายังได้เบี้ยจากคนพิการเดือนละ 800 บาท รวมรายได้ตกเดือนละประมาณกว่า 900 บาท ซึ่งจะแบ่งกันใช้คนละครึ่ง แต่ก็ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต โดยได้รับการช่วยเหลือจากชาวบ้าน และผู้ใจบุญ แบ่งปันอาหาร และเงินทองให้ใช้เป็นครั้งคราว 



นายธนวัฒน์ยอมรับว่า เหน็ดเหนื่อยอย่างมาก ในแต่ละวันที่ต้องออกมาตากแดดเดินเก็บขวดขาย แต่ก็จะขอต่อสู้จนสุดแรงกำลัง เพื่อให้มีชีวิตก้าวเดินต่อไป และจะครองรักไม่ทอดทิ้งกันจนวันสุดท้ายของชีวิต


นางนิยาภร อายุ 59 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เผยว่า ทั้งคู่เป็นคู่รักที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน บนความยากลำบาก ในแต่ละวันก็จะเห็นออกมาเดินเข็นเก็บขวดขาย ชาวบ้านที่เห็นก็ต่างเวทนาสงสาร ก็จะคอยแบ่งปันช่วยเหลือ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทั้งสอง ได้ก้าวเดินบนโลกใบนี้ต่อไปอย่างมีความสุข



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง