ชาวบ้านท่าเสาทนใช้ถนนลูกรังสุดลำบาก ร้องขอทางการมา 25 ปี ยังไร้วี่แวว

ชาวบ้านท่าเสาทนใช้ถนนลูกรังสุดลำบาก ร้องขอทางการมา 25 ปี ยังไร้วี่แวว

69616 มี.ค. 68 12:06   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ชาวบ้านท่าเสาทนใช้ถนนลูกรังสุดลำบาก ร้องขอทางการมา 25 ปี ยังไร้วี่แวว ล่าสุดรวมตัวยื่นเรื่องรองผู้ว่าฯ ขณะลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน

(16มี.ค.68) ที่ จ.พิจิตร นายฐิติพล ยอดสี ตัวแทนชาวบ้าน นำชาวบ้านหมู่ที่ 2 บ้านหนองดง และชาวบ้านหมู่ที่ 8 บ้านหนองลี ต.ท่าเสา อ.โพทะเล จ.พิจิตร และชาวบ้านพื้นที่ใกล้เคียงหลายสิบคน ยื่นหนังสือปัญหาความเดือดร้อนจากถนนเข้าหมู่บ้าน ถึงนายไพบูลย์ ณะบุตรจอม สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดพิจิตร และนายธนิต ภูมิถาวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ขณะลงพื้นที่พบปะชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนดังกล่าว 


นายฐิติพล ยอดสี ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนถนนสาย พจ.ถ 494-017 ชื่อเดิม พจ.3038 บ้านสวนมะม่วง - บ้านหนองขอน เปรียบเสมือนเป็นถนนสายหลักของชาวบ้าน เส้นทางหนึ่งในการใช้เส้นทางสัญจรเพื่อการติดต่อค้าขาย เพื่อการขนถ่ายสินค้าทางการเกษตร (ข้าว) ไปขาย และการเดินทางในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นประจำ ทุกวันของชาวบ้าน 


นายฐิติพล กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันทางองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเสามาดูแลความเดือดร้อนของชาวบ้านตลอดมา โดยนำลูกรังหรือหินคลุกมาเทเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านทุกปี แต่ก็ไม่สามารถ ดูแลได้ทั้งหมดของถนน เนื่องจากงบประมาณมีจำนวนจำกัด และต้องดูแลหมู่บ้านทั้ง 4 หมู่บ้าน ซึ่งมีเนื้อที่ที่ต้องรับผิดชอบประมาณ 47 ตารางกิโลเมตร ชาวบ้านยังได้รับความเดือดร้อนอยู่ทุกปี 


นายฐิติพล กล่าวอีกว่า ตำบลท่าเสา อำเภอโพทะเล อยู่ห่างไกลจากตัวจังหวัดพิจิตร เป็นระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร เปรียบเสมือนเป็นตำบลชายขอบของจังหวัดพิจิตร ซึ่งตำบลท่าเสาอยู่ติดกับจังหวัดนครสวรรค์ ถ้าถนนสาย พจ.ถ 494-17(ชื่อเดิม พจ.3038) (บ้านสวนมะม่วง-บ้านหนองขอน) ได้รับ งบประมาณการยกระดับให้สูงขึ้นเป็นถนนคอนกรีต (คสล) จะสามารถเป็นถนนไร้ฝุ่นและสามารถเป็น ผนังป้องกันน้ำท่วมถนนและไม่ท่วมเข้าพื้นที่ทางการเกษตร (นาข้าว) ของชาวบ้านได้ การสัญจรของ ชาวบ้านก็จะสะดวกสบาย เป็นการช่วยลดปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน 


นายฐิติพล กล่าวต่อไปอีกว่า และเป็นการลดรายจ่ายของรัฐบาลที่จะต้องให้ชดเชยค่าเสียหายกรณีจากน้ำท่วมนาข้าวของชาวบ้านได้อีกทางหนึ่งด้วย และจะเป็นเส้นทางนำความเจริญมาสู่หมู่บ้าน ชุมชน และตำบล ทำให้เศรษฐกิจของชาวบ้านดีขึ้น เป็นเส้นทางคมนาคมที่ดีให้กับชาวบ้านเด็กนักเรียน ชาวบ้านภายในตำบลท่าเสาและชาวบ้านใกล้เคียงที่ใช้เส้นทางสัญจรไปมา ชาวบ้านที่อาศัยอยู่สองข้างทางต่างก็มีสุขภาพที่ดีขึ้น การจราจรก็จะปลอดภัยจากอุบัติเหตุ ทางรถได้ หลุมบ่อ และฝุ่นละอองก็จะหมดไป ชาวบ้านก็จะอยู่อย่างมีความสุขมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น  


นายฐิติพล บอกด้วยว่า ชาวบ้านต้องทนใช้กับถนนเส้นดังกล่าวมาระยะเวลาประมาณ 40 - 50 ปีแล้ว และที่ผ่านมาชาวบ้านได้ เรียกร้องขอความช่วยเหลือมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 จนถึงปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจึงขอให้ทางรัฐบาลหรือกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นแต่อย่างใด จัดงบประมาณมาช่วยชาวบ้านด้วยครับ โดยชาวบ้านลำบากมาก และชาวบ้านต้องการอยากเห็นถนนเส้น ดังกล่าวเป็นถนนยกระดับคอนกรีต (คสล) มากเหลือเกิน 


"มีคนรุ่นเก่าที่ยังมีชีวิตอยู่อายุประมาณ 80 - 90 ปี ที่สายตายังมองเห็นอยู่ อยากเห็นถนนเส้นดังกล่าวเป็นถนนที่ดีก่อนที่เขาจะหมดลมหายใจ ชาวบ้านบอกว่าน้ำท่วมบ้านยังไม่เดือดร้อนสักเท่าไร แต่ถ้าไม่มีถนนในการเดินทาง สัญจรชั่งลำบากมากที่สุด น้ำท่วมบ้านแต่ถ้ายังมีถนนให้ได้อาศัยหลับนอนก็ถือว่าโชคดีมาก" นายฐิติพล กล่าว


นายฐิติพล ระบุด้วยว่า ถนนคือหัวใจสำคัญของชาวบ้านมากที่สุดซึ่งได้รับความเดือดร้อนหมู่บ้านหนองดง หมู่บ้านหนองลี และชาวบ้านจาก ตำบลใกล้เคียงตำบลท่าเสา อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร จึงมาขอความช่วยเหลือจากนายไพบูลย์ ณะบุตรจอม สมาชิกวุฒิสภาผู้แทนราษฎร ช่วยประสานของบประมาณจากทางรัฐบาล หรืองบประมาณจากกรมการปกครองท้องถิ่น มาช่วยก่อสร้างถนนเส้นดังกล่าว 


ด้านนายไพบูลย์ ณะบุตรจอม สมาชิกวุฒิสภา ได้รับหนังสือร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อนจากชาวบ้าน พร้อมจะนำปัญหาดังกล่าวประสานงานให้ผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน  


ข่าวเวิร์คพอยท์23

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง