[Exclusive] “บาเวต” ที่มั่นใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ชายแดนกัมพูชา-เวียดนาม
[Exclusive] “บาเวต” ที่มั่นใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ชายแดนกัมพูชา-เวียดนาม

ตอนที่ 2 ของซีรีส์ “แกะรอยแก๊งค้ามนุษย์ปอยเปต” ทีมข่าวโต๊ะรายงานพิเศษตามต่อ หลังเหยื่อข้ามไปถึงฝั่งปอยเปตแล้วจะถูกขายต่อไปยังแก๊งต่างๆ บางส่วนถูกส่งไปไกลถึง “บาเวต” อาญาจักรแก๊งสแกมเมอร์แห่งใหม่ริมชายแดนกัมพูชา-เวียดนาม ที่ห่างจากชายแดนไทยถึง 600 กิโลเมตร
คุณพรทิพย์ โม่งใหญ่ และทีมข่าวโต๊ะรายงานพิเศษ ข่าวเวิร์คพอยท์23 ลงพื้นที่แกะรอยแก๊งค้ามนุษย์ทุนจีน ที่มีฐานที่มั่นอยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา หลังเกิดกรณีของเด็กหญิงวัย 14 ปีถูกหลอกลวงไปจากบ้านใน จ.ระยอง และถูกขายทอดต่อไปให้กับแก๊งมิจฉาชีพที่อยู่ในพื้นที่ “บาเวต” เมืองเศรษฐกิจชายแดนกัมพูชา-เวียดนาม ฐานที่มั่นใหญ่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ทุนจีน
ระหว่างที่ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องราวของแก๊งค้ามนุษย์ดังกล่าว ทีมข่าวเวิร์คพอยท์23 ได้พบกับวัยรุ่นชายอายุ 19 ปี 2 คน และ 22 ปี 1 คน เหยื่อจากขบวนการค้ามนุษย์ที่ศูนยประสานงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดนสามารถช่วยเหลือเอาไว้ได้
โดยทั้ง 3 เล่าถึงที่มาที่ไปว่าทั้ง 3 ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่ถูกหลอกมาด้วยวิธีการที่คล้ายกัน คือ เหยื่อเข้าไปโพสต์ข้อความหางานในกลุ่มเฟซบุ๊กจังหวัดต่างๆ ก่อนที่จะมีนายหน้าทักข้อความมาชักชวนให้ไปทำงานที่ปอยเปต กัมพูชา เมื่อมีการตกลงกันแล้วก็จะนั่งรถโดยสารมาลงที่ จ.สระแก้ว จากนั้นจะมีการนัดแนะให้รถจักรยานยนต์ หรือรถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปรับเหยื่อจากจุดนัด ไปส่งที่ช่องทางธรรมชาติ ตลอดทั้งกระบวนการนี้เหยื่อจะไม่ได้พบตัวนายหน้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว
สำหรับคนที่ขี่รถจักรยานยนต์มารับเหยื่อนั้นจะเป็นชาวกัมพูชา ใช้รถจักรยานยนต์รุ่นสกู๊ปปี้ ติดแผ่นป้ายทะเบียนไทย ซึ่งทีมข่าวตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นกลุ่มคนกัมพูชาที่ข้ามมาทำงานขับรถแถวหน้าด่านคลองลึก โดยก่อนหน้านี้ทีมข่าวเคยถูกกลุ่มคนกัมพูชากลุ่มนี้ขี่รถตามรถข่าวขณะที่ปฏิบัติงาน จนทีมข่าวต้องเข้าไปสอบถามว่าติดตามเพื่ออะไร
สำหรับจุดช่องทางธรรมชาติที่ใช้ในแต่ละครั้งอาจต่างกันไป เยาวชนชายวัย 19 ปีรายหนึ่งเล่าว่าเขาถูกพาไปขึ้นแพ ล่องผ่านคลองน้ำเน่า ในช่วงที่ข้ามนั้นเหยื่อเห็นว่ามีการประสานงานกันระหว่างคนไทยและกัมพูชา โดยกลุ่มคนประสานงานพกอาวุธปืน ขณะที่เหยื่อวัย 19 ปีอีกรายเล่าว่าตนถูกพาไปข้ามชายแดนบริเวณจุดที่ดินเอกชนรายหนึ่ง
ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดข้ามแดนตามคำบอกเล่าของเหยื่อ โดยประสานงานกับกรมทหารพรานที่ 12 หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ พบลักษณะกายภาพพื้นที่ตรงคำบอกเล่าของเยาวชน ว่าเป็นเนินสูงทั้ง 2 ฝั่ง มีบ้านพักและฝั่งตรงข้ามจะมีเนินดินที่ทำคล้ายเนินขั้นบันได หลังจากล่องยืนบนแพไปถึงฝั่งกัมพูชา เดินขึ้นเนินไปแล้วปีนบันไดลิง ไปโผล่ที่ชั้น 2 ของหอพักแห่งหนึ่ง จากนั้นเมื่อเดินลงมาที่ถนนด้านล่างจะมีรถกัมพูชามารับ
ทีมข่าวสอบถามเรื่องช่องทางลักลอบข้ามแดนจุดดังกล่าวกับ พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 12 หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา ให้ข้อมูลว่า จุดแนวชายแดนที่มีคลองกั้น ส่วนใหญ่เป็นที่ดินเอกชน ซึ่งได้ขอความร่วมมือตามมาตรการสกัดกั้นตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
จากข้อมูลของเยาวชนที่เป็นเหยื่อเล่าตรงกันว่า เมื่อข้ามฝั่งไปยังปอยเปตแล้ว จะมีรถมารับไปยังอาคารหนึ่ง บางรายถูกส่งไปที่บ่อนที่มีชั้นใต้ดินหรือชั้นบนเป็นสำนักงานคล้ายออฟฟิศ จากนั้นเหยื่อจะถูกยึดโทรศัพท์ และถูกลบข้อมูลในโทรศัพท์ทั้งหมด
ทีมข่าวเวิร์คพอย์23 พบว่าลักษณะของขบวนการค้ามนุษย์ดังกล่าวมีการทำงานหลายชั้น แต่ละชั้นจะใช้กลุ่มคนทำงานแตกต่างกันไป ตามคำบอกเล่าของเหยื่อหลายคนเล่าว่าตลอดการเดินตั้งแต่ข้ามชายแดนมาถึงหน้าอาคารแห่งหนึ่งในปอยเปต คนนำพามาเป็นคนละคนกัน
เมื่อข้ามมาได้แล้วเหยื่อจะถูกคัดกรองตามความสามารถ บางคนถูกบังคับให้แสกนหน้าเพื่อยืนยันบัญชีธนาคาร เพื่อนำไปทำบัญชีม้า เหยื่อบางคนถูกกักขัง เพื่อนำตัวไปเปิดบัญชีม้าที่ธนาคาร และเหยื่อส่วนใหญ่จะถูกขายต่อให้กับบริษัทคอลเซ็นเตอร์ที่มีนายทุนจีน กระจายตัวเปิดบริษัทในหลายจุดของกัมพูชา
เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ทั้ง 2 คนที่ให้ข้อมูลกับทีมข่าวของเราเล่าว่าทั้งคู่ถูกติดต่อให้มาทำงานโดยนายหน้าหรือเอเจนซีคนละกลุ่มกัน แต่ทั้ง 2 ถูกขายต่อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เดียวกัน แก๊งดังกล่าวมีที่ตั้งสำนักงานอยู่ในพื้นที่ “บาเวต” เมืองชายแดนที่ต้องนั่งรถต่อไปจากปอยเปตอีกราว 8-9 ชั่วโมง
ที่ “บาเวต” เหยื่อเยาวชนถูกบังคับให้ทำงานเป็นโรแมนซ์แสกม ทางแก๊งได้จัดเตรียมทั้งรูปภาพ คลิป ประวัติ บุคคลที่จะสวมรอยแอบอ้าง โดยให้เหยื่อสร้างโพรไฟล์บนเครือข่ายโซเชียลมีเดีย แต่ละวันจะมีสคริปต์ให้เหยื่อทำงาน เช่น ใน 1-4 วันแรกให้ลงรูปชีวิตดูดี มีหน้าที่การงานดี ร่ำรวย พอมีผู้เสียหายติดหลุมพรางก็จะหลอกให้ร่วมลงทุน หากใครทำงานไม่ได้ หรือไม่ได้ยอดตามเป้าจะถูกทำร้ายร่างกาย ด้วยการทุบตี รองเท้าตบหน้า ช็อตไฟฟ้า และขังให้ห้องมืดให้อดข้าวอดน้ำ
เมื่อสอบถามถึงโครงสร้างการบริหารของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่บาเวต เหยื่อให้ข้อมูลตรงกันว่า ที่บาเวต จะมีบอสใหญ่เป็นคนจีน เพศชายอายุ ประมาณ 40 ปี ใส่แว่น รองลงมาเป็นบอส HR ซึ่งเป็นคนจีนเช่นกัน ทั้ง 2 คนพูดไทยไม่ได้ แต่มีคนไทยที่พูดภาษาจีนได้เป็นล่ามชื่อ อากัง ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา หัวหน้าออฟ หรือหน้าหน้าแต่ละสายซึ่งแบ่งเป็น เอ-ดี ที่ทำหน้าที่คุมพนักงานที่มีทั้งเหยื่อและคนที่สมัครใจทำงาน
คุณพรทิพย์ สอบถามต่อว่า ทำไมเหยื่อถึงไม่แจ้งเบาะแสหรือแจ้งขอความช่วยเหลือ เมื่อการทำงานอยู่กับอินเตอร์เน็ต เหยื่อเยาวชนเล่าว่า ที่บาเวต มีเหยื่อรายหนึ่งที่แอบแจ้งความจนมีข่าวออกไป บอสคนจีนได้ประกาศตามหาตัว หลังจากนั้นได้นำตัวเหยื่อที่แจ้งความไปขังในห้องมืด จนตอนนี้ไม่มีใครรู้ชะตากรรมของเหยื่อรายดังกล่าว
ส่วนเหยื่อคนอื่นที่แจ้งความประสงค์เลิกทำงาน จะถูกเรียกค่าไถ่คนละ 40,000-85,000 บาท โดยให้ติดต่อกับครอบครัว แต่หากครอบครัวไหนไม่มีเงิน จะถูกบังคับให้ทำงานให้ได้ยอดถ้าทำไม่ได้ จะถูกนำตัวไปขังในห้องมืด โดยเยาวชนคนหนึ่งเล่าว่าตนเองถูกขังในห้องมืด ถูกทุบตี ส่วนเพื่อนตนถูกช็อตไฟฟ้า ทำให้เหยื่ออีกหลายที่อยากกลับบ้านไม่กล้าที่จะแจ้งความเพราะกลัวถูกทรมานและสุดท้ายทุกคนรู้ว่า ไม่ได้กลับบ้าน แต่จะถูกขายต่อเป็นทอดๆ
จากการตรวจสอบพบว่า “บาเวต” เป็นพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศกัมพูชา อยู่ติดกับชายแดนประเทศเวียดนาม มีระยะห่างจากชายแดนเวียดนามเพียงประมาณ 10 กิโลเมตรเท่านั้น ขณะที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากชายแดนไทยราว 600 กิโลเมตร หากนั่งรถจากปอยเปตไปจะใช้เวลาเดินทางราว 8-10 ชั่วโมง
พื้นที่ “บาเวต” คืออาณาจักรคอลเซ็นเตอร์ที่มีขนาดใหญ่เท่าๆ กับเมืองหนึ่ง มีอาคารขนาดใหญ่หลังคาสีส้ม 12 อาคาร มีอาคารโรงเรือนขนาดเล็กลงมา 5-6 แห่ง และโดยรอบมีการก่อสร้างคล้ายตึกสูงโฮมออฟฟิศอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีสถานบันเทิงครบครัน ทั้ง KTV ผับและร้านอาหาร ที่นี่คืออาณาจักรแห่งใหม่และใหญ่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา และขณะนี้กำลังขยายการก่อสร้างออกไป
จากคำบอกเล่าของเหยื่อที่หนีรอดมาได้ ทราบว่าในจำนวนคนที่ทำงานอยู่ที่บาเวต มีคนไทยอยู่ราว 30% เหยื่ออายุน้อยที่สุดที่ถูกหลอกไป อายุเพียง 16 ปี และคนทำงานส่วนใหญ่จะเป็นชาวเวียดนาม
แกะรอยแก๊งค้ามนุษย์ปอยเปต ตอนที่1: [Exclusive]แกะรอยแก๊งค้ามนุษย์ปอยเปต สู่อาณาจักรสแกมเมอร์ประตูดำ-ประตูแดง
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
