โรคใคร่เด็ก(Pedophilia) ความผิดปกติทางจิตไม่ใช่รสนิยม
โรคใคร่เด็ก(Pedophilia) ความผิดปกติทางจิตไม่ใช่รสนิยม

ไม่ใช่แค่รักแต่เป็นความใคร่ รู้จัก “โรคใคร่เด็ก” ความผิดปกติทางจิตที่อาจนำไปสู่อาชญากรรมร้ายแรง
(เรียบเรียงโดย อพัชชา ทองสนิท และ กัญญาณัฐ อาศัย)
โรคใคร่เด็ก (Pedophilia) ซึ่งหลายคนเรียกสั้น ๆ ว่า “เปโด” เป็นอาการทางจิตที่ผิดปกติที่แสดงออกว่าชอบหรือรักเด็ก แต่เป็นความรักที่เกินขอบเขต รักแบบคลั่งไคล้ ต้องการให้เด็กเป็นของตัวเอง จนนำไปสู่การนำเด็กมาเป็นเหยื่อบำบัดความใคร่ทางเพศ
คู่มือวินิจฉัยอาการผิดปกติทางจิตฉบับที่ 5(DSM-5) ระบุลักษณะของผู้ที่เข้าข่าย “โรคใคร่เด็ก” เอาไว้ว่าต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยอายุมากกว่าเด็กที่เป็นเหยื่ออย่างน้อย 5 ปี และมีพฤติกรรมใคร่เด็กต่อเนื่องนานกว่า 6 เดือน มีความสนใจ ชอบจินตนาการเกี่ยวกับเรื่องเพศ หรือมีความต้องการทางเพศกับเด็กที่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี เช่น ทารก เด็กอนุบาล และเด็กประถม
สาเหตุของโรคใคร่เด็ก
สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เหล่านี้ประกอบกัน ดังนี้
- พันธุกรรม หากคนในครอบครัวมีประวัติของ Pedophilia หรือความผิดปกติทางจิตอื่น ๆ อาจมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมเปโดได้
- ความผิดปกติของสมองบางส่วน เช่น สมองส่วนหน้า (Frontal Lobe) สมองกลีบขมับ (Temporal Lobe) และเนื้อเยื่อสมอง ซึ่งส่งผลต่อความสนใจและอารมณ์ทางเพศ โดยอาจเกิดจากเนื้องอกหรือมะเร็งสมอง และสมองได้รับการกระทบกระเทือน
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น แอนโดรเจน (Androgen) และเทสโทสเทอโรน ซึ่งเป็นกลุ่มฮอร์โมนเพศชาย
- พัฒนาการทางสมองที่ผิดปกติ เช่น ผู้มี IQ ต่ำกว่าเกณฑ์ ผู้เป็นโรคสมาธิสั้น และออทิสติก
- การถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือเป็นเหยื่อของการถ่ายสื่อลามกในวัยเด็ก
- เป็นผู้ที่มีบุคลิกภาพต่อต้านสังคม (Antisocial Personality Disorder)
ลักษณะผู้ป่วยโรคใคร่เด็ก
- ในระยะแรกอาจไม่ยอมรับ รู้สึกวิตกกังวล และรู้สึกผิดเมื่อมีอาการใคร่เด็ก
- ไม่ค่อยมีความสุขกับคู่ครองวัยเดียวกัน
- ชอบดูและมีอารมณ์ทางเพศเมื่อดูสื่อลามกอนาจารเด็ก
- พยายามเข้าใกล้เด็กด้วยวิธีการตีสนิท หลอกล่อ ให้รางวัล ให้ขนม ให้เงิน เพื่อให้เด็กเชื่อใจ
- มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศเด็ก โดยอาจใช้สายตา คำพูดแทะโลม สัมผัสร่างกาย เช่น หน้าอกและอวัยวะเพศ ไปจนถึงการข่มขืนกระทำชำเรา
รูปแบบการกระทำทางเพศกับเด็ก
1.ไม่มีการสัมผัสร่างกาย
• แอบดูเด็กอาบน้ำ
• พูดจาลวนลาม
• เปลือยกาย/ให้เด็กดูอวัยวะเพศ
• ดูภาพ/คลิปลามก เพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ
2.สัมผัสร่างกายแต่ไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศ
• กอดจูบ ลูบคลำอวัยวะเพศเด็ก
• ให้เด็กจับอวัยวะเพศ เพื่อสําเร็จความใคร่
3.ล่วงละเมิดทางเพศ
• บังคับ/ข่มขู่ให้เด็กเก็บเป็นความลับ
• กระทำชำเราซ้ำๆ
• ทําร้ายร่างกาย/ฆ่า
การเตรียมเด็กให้พร้อมรับการทารุณกรรมทางเพศ (Child Grooming)
หนึ่งในสิ่งที่มักจะพบพร้อมการก่ออาชญากรรมของผู้ที่มีอาการโรคใครjเด็ก ก็คือ Child Grooming หรือการเตรียมเด็กให้มีความพร้อมสำหรับการถูกกระทำทารุณกรรมทางเพศ โดยผู้กระทำจะเข้าหาเด็กเพื่อให้เด็กเชื่อใจและไว้ใจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก ไม่ว่าจะเพื่อความต้องการทางเพศของตนเอง ล่อลวงเด็กเข้าสู่กระบวนการค้ามนุษย์ และเข้าสู่วงจรธุรกิจทางเพศ หรือการทำสื่อลามกอนาจารก็ตาม ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวจะตรงกับการ “เลี้ยงต้อย” เลี้ยงดูเด็กหญิงหรือชาย เพื่อเตรียมให้เป็นคนรักของตนเองเมื่อโตขึ้นด้วย
โรคใคร่เด็ก / การมีเพศสัมพันธ์กับเด็กก่อนอายุที่กฎหมายกำหนด / รักต่างวัย(Age Gap)
โรคใคร่เด็ก, การมีเพศสัมพันธ์กับเด็กก่อนอายุที่กฎหมายกำหนด, และ รักต่างวัย(Age Gap) 3 หัวข้อนี้มักถูกนำมาพูดถึงในลักษณะปะปนและสับสนอยู่บ่อยครั้ง ในความเป็นจริงแล้วทั้ง 3 เรื่องนี้มีจุดที่แตกต่างกันอยู่
โรคใคร่เด็กเป็นอาการทางจิตเวช ที่มีการระบุลักษณะและปัจจัยอย่างชัดเจนใน DSM-5 ขณะที่การมีเพศสัมพันธ์กับเด็กก่อนอายุที่กฎหมายกำหนด เป็นประเด็นทางกฎหมาย ซึ่งขึ้นอยู่กับกฎหมายในแต่ละประเทศหรือรัฐ ว่ากำหนดอายุขั้นต่ำของการมีเพศสัมพันธ์ไว้ที่ใด แต่ถึงแม้อายุของผู้เยาว์ที่มีความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่อาจจะสูงเกินกว่า 13 ปี ซึ่งเป็นเส้นกำหนดของโรคใคร่เด็ก แต่การมีเพศสัมพันธ์กับเด็กก่อนอายุที่กฎหมายกำหนด ก็ยังคงนับเป็นอาชญากรรมที่มีความร้ายแรงเช่นเดียวกัน
ขณะที่ความสัมพันธ์แบบรักต่างวัย เป็นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่มีช่วงอายุห่างกันมาก โดยทั่วไปแล้วหมายถึงคู่รักที่มีอายุต่างกันอย่างน้อย 10 ปี เป็นผู้ใหญ่กันแล้วทั้งคู่ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต้องมีความยินยอมและความพอใจในการสร้างและดำเนินความสัมพันธ์ร่วมกัน การมีความสัมพันธ์แบบนี้ไม่ได้ผิดกฎหมายตราบเท่าที่ทั้งสองฝ่ายมีความยินยอม และมีอายุที่สามารถตกลงในเรื่องเพศได้อย่างเต็มใจ
บทลงโทษตามกฎหมายไทย
ในประเทศไทยไม่มีกฎหมายเอาผิดหรือบังคับผู้ป่วยโรคใคร่เด็กเข้ารับการบำบัด แต่สำหรับผู้ก่ออาชญากรรมทางเพศกับเด็กแล้วมีโทษอาญาหนักถึงขั้นจำคุก ทั้งในกรณีการกระทำอนาจาร การข่มขืนกระทำชำเรา และกรณีของสื่อลามกเด็ก
กรณีกระทำอนาจาร
- เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี เด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โทษจําคุก 1 – 10 ปี หรือ ปรับ 20,000-200,000 บาท หรือ ทั้งจําทั้งปรับ
- เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โทษจําคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับ 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กรณีกระทำชำเรา
- เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี เด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โทษจําคุก 7 - 20 ปี และปรับ 140,000-400,000 บาท หรือ จําคุกตลอดชีวิต
- เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โทษจําคุก 5 - 20 ปีและปรับ 100,000-400,000 บาท
สื่อลามกอนาจารเด็ก
- ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก เช่น คลิปวิดีโอ รูปถ่าย วัตถุหรือสิ่งอื่นที่แสดงให้รู้/เห็นการกระทำทางเพศของเด็กหรือกับเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี โดยรูป/เรื่อง/ลักษณะลามกอนาจาร และที่จัดเก็บในระบบคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
- ส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็ก มีโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- แจกจ่าย ค้า หรือเผยแพร่สื่อลามกเด็ก โทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดโทษที่คำนึงถึงความผิดปกติทางจิตของผู้ป่วยโรคใคร่เด็ก และอาจไม่ได้ถูกพิจารณาว่าเป็นผู้ป่วยทางจิตเวช ดังนั้น ผู้กระทำความผิดจึงได้รับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา
ผู้ใดพบเห็นอาชญากรรมทางเพศต่อเด็ก สามารถแจ้งเหตุได้ที่มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก 0-2412-1196 ในเวลาราชการ หรือ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง
อ้างอิง: สำนักงานกิจการยุติธรรม, Pobpad, กรมกิจการเด็กและเยาวชน
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
