รู้ทัน ‘ยาเสียสาว’ ก่อนจะต้องเสียน้ำตา

รู้ทัน ‘ยาเสียสาว’ ก่อนจะต้องเสียน้ำตา

95510 มิ.ย. 68 14:03   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

รู้ทัน “ยาเสียสาว” ที่ไม่ได้มีแค่ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อ จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรให้ปลอดภัย พร้อมคำแนะนำหากสงสัยว่าตัวเองกำลังถูกมอมยา!

ในสังคมปัจจุบันที่หน้าสื่อเต็มไปด้วยข่าวความรุนแรงทางเพศ “ยาเสียสาว” เป็นอีกภัยร้ายที่คุกความความปลอดภัย โดยเฉพาะกับผู้หญิง บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ “ยาเสียสาว” ผลกระทบที่เกิดขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ “วิธีป้องกันตัวเอง” เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของคนร้าย


“ยาเสียสาว” เป็นคำเรียกโดยรวมของยาหรือสารเคมีหลายชนิดที่เมื่อถูกนำไปผสมในเครื่องดื่มหรืออาหารของเหยื่อ จะออกฤทธิ์กดประสาท ทำให้เหยื่อมึนงง สับสน ง่วงซึม หมดสติ หรือสูญเสียความทรงจำชั่วคราว ทำให้ไม่สามารถขัดขืนหรือจดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้


คนร้ายมักจะใช้วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท กลุ่มยานอนหลับ หรือยาระงับประสาท เช่น ยามิดาโซแลม (Midazolam) ยาอัลปราโซแลม (Alprazolam) ยาฟลูไนตราซีแปม (Flunitrazepam) รวมถึงสาร GHB (gamma-hydroxybutyrate) และ ยาเค หรือ เคตามีน (Ketamine) เป็นเครื่องมือในการก่ออาชญากรรม โดยเหยื่อไม่ได้จำกัดวงเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายเองก็สามารถตกเป็นเหยื่อได้เช่นกัน


ยาเสียสาวเหล่านี้ส่วนใหญ่จะ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส เมื่อผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงยากที่จะสังเกตเห็น และออกฤทธิ์รวดเร็ว ทำให้เหยื่อไม่ทันได้ตั้งตัว ที่สำคัญยาเหล่านี้หากใช้ในปริมาณมาก และใช้ร่วมกับแอลกอฮอล์อาจทำให้เกิดการกดการทำงานของหัวใจ กดการหายใจ ชักหมดสติและเสียชีวิตได้


สัญญาณอันตราย: เมื่อร่างกายส่งสัญญาณเตือน

หากคุณหรือคนรู้จักมีอาการเหล่านี้หลังจากดื่มเครื่องดื่มเพียงเล็กน้อย หรือในปริมาณที่ไม่น่าจะทำให้เกิดอาการรุนแรงได้ ให้สงสัยว่าอาจถูกมอมยาเสียสาว

  • รู้สึกมึนงง เวียนหัวผิดปกติอย่างรวดเร็ว
  • ง่วงซึมอย่างกะทันหัน หรือหมดสติไปง่ายๆ
  • พูดจาสับสน ไม่ชัด หรือตอบสนองช้า
  • คลื่นไส้ อาเจียน โดยไม่มีสาเหตุ
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือรู้สึกควบคุมร่างกายไม่ได้
  • ตื่นขึ้นมาแล้วจำเหตุการณ์บางช่วงไม่ได้ (โดยเฉพาะหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่ไม่ควรทำให้ความจำหายไป)


วิธีป้องกันตัว: อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นเหยื่อ!

การป้องกันที่ดีที่สุดคือการสร้างความตระหนักและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

  • ไม่ปล่อยแก้วเครื่องดื่มทิ้งไว้โดยไม่มีใครดูแล ไม่ว่าจะไปเข้าห้องน้ำ คุยโทรศัพท์ หรือลุกไปไหนก็ตาม ควรนำแก้วเครื่องดื่มติดตัวไปด้วยเสมอ หรือขอให้เพื่อนที่ไว้ใจช่วยเฝ้าให้
  • ไม่รับเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้าหรือคนที่ไม่สนิท รวมถึงขนม อาหาร หรือบุหรี่ด้วย
  • เปิดขวดหรือแก้วเครื่องดื่มเอง หากเป็นไปได้ ให้เลือกสั่งเครื่องดื่มที่มาในรูปแบบขวดหรือกระป๋อง และเปิดเองกับมือ
  • สังเกตเครื่องดื่ม อย่าดื่มเร็วเกินไป หากเครื่องดื่มมีฟองอากาศมากผิดปกติ มีตะกอน มีกลิ่นแปลกๆ หรือรสชาติเปลี่ยนไปจากปกติ อย่าดื่ม!
  • ไปกับเพื่อนที่ไว้ใจได้ เวลาไปเที่ยวหรือร่วมกิจกรรมกับเพื่อนสนิทที่สามารถดูแลซึ่งกันและกันได้ และตกลงกันไว้ล่วงหน้าว่าจะไม่ทิ้งกัน
  • จำกัดปริมาณแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปทำให้ขาดสติและตกเป็นเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
  • สังเกตคนรอบข้าง ระมัดระวังบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย หรือคนที่พยายามเข้ามาตีสนิทหรือชวนดื่มมากเกินไป
  • เชื่อสัญชาตญาณ หากรู้สึกไม่ปลอดภัย หรือมีลางสังหรณ์แปลกๆ ให้รีบออกจากสถานการณ์นั้นทันที


หากสงสัยว่าถูกมอมยา...ต้องทำอย่างไร?

  1. ขอความช่วยเหลือทันที บอกเพื่อนที่ไว้ใจที่สุด หรือพนักงานในร้าน (ถ้ามี) หรือขอความช่วยเหลือจากคนที่ดูน่าเชื่อถือ อย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่คนเดียว
  2. อย่ากลับบ้านกับคนแปลกหน้า ห้ามไปไหนกับคนที่คุณไม่รู้จักหรือคนที่คุณสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการมอมยาเด็ดขาด
  3. ไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด แจ้งแพทย์ว่าสงสัยว่าถูกมอมยา เพื่อให้แพทย์ตรวจหาสารในร่างกาย (สารเหล่านี้จะสลายไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นยิ่งไปเร็ว ยิ่งมีโอกาสเจอ) และตรวจร่างกายเพื่อหาหลักฐานอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม
  4. แจ้งความ การแจ้งความเพื่อดำเนินคดีเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สืบสวนและป้องกันไม่ให้คนร้ายไปก่อเหตุซ้ำกับผู้อื่น
  5. หาแหล่งสนับสนุนทางอารมณ์ การเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้เป็นเรื่องที่กระทบจิตใจอย่างรุนแรง ควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา หรือกลุ่มสนับสนุน


“ยาเสียสาว” คืออาวุธที่มองไม่เห็น แต่ผลกระทบนั้นร้ายแรงและอาจฝากรอยแผลไว้ในใจไปตลอดชีวิต การตระหนักรู้ การรู้จักป้องกันตัวเอง และการขอความช่วยเหลือเมื่อเผชิญเหตุ คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณปลอดภัยจากภัยร้ายนี้ อย่ามองข้ามความปลอดภัยของตัวเอง จงระมัดระวังและดูแลตัวเองให้ดีในทุกย่างก้าวของชีวิต



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง