ตรวจ"ไร่เชิญตะวัน"ซ้ำอีกรอบ "ว.วชิรเมธี" ไร้กำหนดกลับ

ตรวจ"ไร่เชิญตะวัน"ซ้ำอีกรอบ "ว.วชิรเมธี" ไร้กำหนดกลับ

20822 ต.ค. 67 20:41   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

สนธิกำลังตรวจ"ไร่เชิญตะวัน"ซ้ำอีกรอบ ด้าน"ว.วชิรเมธี" ไร้กำหนดกลับไทย ขณะที่เสียงสะท้อนชาวบ้านสันป่าเหียงบอก"ไร่เชิญตะวัน"ทำให้เจริญขึ้น มีรายได้เพิ่ม

(22ต.ค.67) กรณีเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้และเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) นำกำลังเข้าทำการตรวจสอบบริเวณที่ดินของ"ไร่เชิญตะวัน" บ้านใหม่สันป่าเหียง ม.25 ต.ห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย ภายหลังได้รับการร้องเรียนว่าอาจมีการใช้ประโยชน์ในที่ดินเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต 



ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เวลา 10.00 น. นายประสิทธิ์ ท่าช้าง ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) ได้นำเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ ปทส. , ตำรวจสอบสวนกลาง และสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย เข้าทำการตรวจพื้นที่อีกรอบ โดยครั้งนี้ได้มีการเชิญทางกลุ่มผู้นำหมู่บ้าน , ผู้นำท้องถิ่น , นายกเทศมนตรี , ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านที่มีที่ดินทำกินอยู่บริเวณโดยรอบ"ไร่เชิญตะวัน"มาร่วมในการตรวจด้วย



นายประสิทธิ์ ได้ชี้แจงเจ้าหน้าที่ชุดตรวจว่า การดำเนินการวันนี้เป็นการตรวจตามหมุดหมายเดิมซ้ำทั้งหมด หลังจากวันก่อนหน้านี้มีการตรวจเพียงส่วนของเจ้าหน้าที่และของทางไร่ แต่เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงสมบูรณ์และรับรู้กันทุกฝ่ายจึงเชิญผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดมาร่วมกันตรวจสอบใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นการตรวจวัดตามแนวเขตที่ทางกรมป่าไม้ได้มีการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ โดยแต่ละแปลงจะมีการปักหมุดและขึ้นป้ายกำกับไว้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นการสำรวจอย่างละเอียดเพื่อนำข้อมูลไปประเมินผล ส่วนผลที่ได้จะออกมาอย่างไรนั้นจะมีการเสนอไปทางกรมป่าไม้ ให้รับทราบ ซึ่งทางอธิบดีจะชี้แจงให้ทราบต่อไป



นายชยานนท์ ปัญญาธีระพงษ์ จิตอาสามูลนิธิ"ไร่เชิญตะวัน" เผยว่า พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ท่านยังคงเป็นห่วงผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ จ.เชียงราย และได้สั่งกำชับให้ลูกศิษย์ จิตอาสา เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเฉพาะโรงเรียนในพื้นที่น้ำท่วม ที่ประสานขอความช่วยเหลือจากทางไร่เชิญตะวันเข้ามา ซึ่งบางโรงเรียนถูกน้ำท่วมห้องสมุด ไม่เหลืออะไรเลย 



นายชยานนท์ กล่าวต่อไปว่า ซึ่งในเรื่องนี้พระอาจารย์เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะที่ผ่านมาท่านให้ความสำคัญในด้านการศึกษามาโดยตลอด ล่าสุดท่านก็ได้ให้ทางคณะกรรมการมูลนิธิไร่เชิญตะวันได้ไปช่วยเหลือสร้างห้องสมุดให้กับโรงเรียนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.แม่สาย จำนวน 10 โรงเรียน โดยมีพระอาจารย์เป็นผู้ริเริ่มและได้รับแรงสนับสนุนจากบรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่ยังเคารพและศรัทธาในตัวท่านได้ช่วยกันสมทบทุนเข้ามา เพื่อจะสนับสนุนเด็กและเยาวชนที่ประสบภัยจะได้มีแสงสว่างทางปัญญา เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ 



"พระอาจารย์ได้เน้นย้ำกับลูกศิษย์ทุกคนว่าถึงพระอาจารย์จะไม่กลับมา ก็ต้องหมั่นลงพื้นที่ช่วยเหลือชุมชน และโรงเรียนต่าง ๆ" นายชยานนท์ กล่าว 



นายชยานนท์ กล่าวอีกด้วยว่า ที่ผ่านมาที่"ไร่เชิญตะวัน"ก็ได้นำถุงยังชีพไปแจกจ่ายผู้ประสบภัยน้ำท่วมมาโดยตลอด ตอนนี้ก็แจกจ่ายไปจนเกือบจะหมดแล้ว หลังจากนี้ก็จะเป็นการสร้างห้องสมุดให้กับโรงเรียนที่น้ำท่วม และไปสำรวจความเดือดร้อนในบ้านที่ประสบภัยใน อ.แม่สาย บ้านไหนที่เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า ได้รับความเสียหาย ก็จะรวบรวมปัจจัยเพื่อจะไปช่วยเหลือต่อไป 


ในส่วนของกำหนดการเดินทางกลับประเทศไทยของ พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี นายชยานนท์ บอกว่า ในตอนนี้ท่านพระอาจารย์ยังอยู่ในระหว่างการไปประกอบศาสนกิจ โดยเฉพาะการไปเผยแพร่หลักธรรมคำสอนตามหลักพระพุทธศาสนาที่เข้าใจง่ายให้กับญาติธรรมในต่างแดน และยังนำบทเรียนจากภัยพิบัติจากน้ำท่วมที่เกิดจากภาวะโลกร้อน โดยร่วมประชุมกลับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก 


"ท่านให้ความสำคัญกับการปลูกต้นไม้ และตั้งใจที่อยากจะให้มีพื้นที่สีเขียวให้มากที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่าน โดยพระอาจารย์ได้เดินทางไปตั้งแต่ก่อนช่วงเข้าพรรษา และจำพรรษาที่วัดไทยที่ท่านไปช่วยสร้างในประเทศญี่ปุ่น" นายชยานนท์ กล่าว


ขณะที่ นายวิรัตน์ คิดอ่าน อายุ 64 ปี ชาวบ้านสันป่าเหียง ม.25 ต.ห้วยสัก และนายวิศาสตร์ ตันแจ้ อายุ 57 ปี ชาวบ้านสันป่าเหียง ม.13 ต.ห้วยสัก กล่าวว่า ในอดีตพื้นที่บริเวณไร่เชิญตะวันเป็นที่ชาวบ้านใช้ทำกินและทำไร่ทำสวนมาก่อน กระทั่งต่อมาทางพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ได้มาขออนุญาตใช้พื้นที่ก็มีการเข้ามาปลูกป่าเอง ต่อมาก็มีการปรับเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม วิปัสสนา และกลายเป็นแหล่ง มีการทำถนนทางเข้า 



"จากที่นี่เมื่อก่อนเป็นที่รกร้างก็มีความเจริญมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว มาปฏิบัติธรรมและวิปัสสนาอย่างไม่ขาดสาย ถนนหนทางก็สะดวกสบาย การมีไร่เชิญตะวันถือว่าดีต่อพื้นที่มาก ๆ ไม่มีชาวบ้านคัดค้านไม่ให้เข้ามาอยู่ในพื้นที่" ชาวบ้านสันป่าเหียง ระบุ


ชาวบ้านสันป่าเหียง บอกอีกว่า ชาวบ้านได้ประโยชน์เพราะหากที่ไร่มีกิจกรรม ชาวบ้านก็ได้นำเอาผักผลไม้มาขายที่ด้านหน้าวัด สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน ถ้าไม่มีไร่เชิญตะวันที่นี่ก็คงยังไม่เจริญ ในส่วนที่ท่านไปเทศนาธรรมให้บริษัทขายตรงตามที่เป็นข่าว 


"คิดว่าเป็นการนิมนต์ไปศาสนกิจท่านก็คงจะไปตามปกติ ไม่ได้คิดอะไร ส่วนเรื่องไปเทศนาชักชวนร่วมธุรกิจนั้น พวกตนไม่รู้เรื่อง คิดว่าท่านคงพลั้งปากพูดไป ซึ่งพวกตนขอไม่ออกความเห็นในประเด็นดังกล่าว" ชาวบ้านสันป่าเหียง ระบุ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง