"กฤษอนงค์"ปฏิเสธรีดเงิน"บอสพอล" 10 ล. เตรียมยื่นฟ้องทนาย

"กฤษอนงค์"ปฏิเสธรีดเงิน"บอสพอล" 10 ล. เตรียมยื่นฟ้องทนาย

25222 ต.ค. 67 18:51   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ "พัช" ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย - ออนไลน์ เปิดใจหลังออกรายการดัง ปัดรีดเงิน"บอสพอล" 10 ล. เตรียมยื่นฟ้องทนาย

(22ต.ค.67) ที่ อาคารมาลีนนท์ ตึกช่อง 3 ถนนพระราม 4 น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ "พัช" ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย - ออนไลน์ กล่าวภายหลังจบรายการโหนกระแส โดยบอกว่าตนได้ชี้แจงไปหมดแล้วไม่ได้มีอะไรปิดบัง วันนี้ก็ต้องยอมรับว่าเป็นความประมาทและความไว้ใจของตนเองที่หลังจากนี้จะต้องนำไปปรับปรุง 


น.ส.กฤษอนงค์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่บอสพอล มีการนำเครื่องดักฟังไปไว้ตามจุดต่าง ๆ ซึ่งตนมองว่าประเด็นนี้อยู่เหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก ตนเจตนาที่จะช่วยทั้งผู้เสียหาย และฝ่ายดิไอคอนกรุ๊ปก็อยากให้ได้รับบทเรียน อาจจะผิดที่เราช่วยผิดคน หากให้อภัยได้ ก็จะให้อภัยเพราะตอนนี้เขาติดคุก 


"เรารู้ว่าเจตนาเราพูดอะไร จึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับสิ่งที่เขานำมาเปิดเผย ตนเป็นที่ปรึกษาทั้งฝั่งผู้เสียหาย เราทำงานช่วยเหลือมา 19 ปี ไปถามดูก็ได้ไม่เคยเรียกรับเงินกับผู้เสียหายเลย สำหรับประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นมันถือเป็นเรื่องที่ซับซ้อนกันอย่างมาก" น.ส.กฤษอนงค์ กล่าว 


สำหรับประเด็นที่สังคมมองว่า ตนเองมีแต่ได้กับได้ ได้ทั้ง 2 ทางนั้น ตนอยากให้มองในภาพรวม ทำไมถึงไม่มองว่าตนเสียอะไรไปบ้าง ตนเสียสละอะไรลงไปบ้าง หากตนไม่ได้ช่วยใครก็ไม่ต้องถูกให้ใครมาด่า ไม่ต้องมารับกระสุนแบบนี้ก็ได้ ตนอยู่ใน safe zone ของตนก็ได้ ทำดีก็ถูกด่าไม่ทำเลยจะดีกว่าไหม 


"ยืนต่อสู้เรื่องนี้มานานกว่า 19 ปี บาดแผลรอบนี้เยอะที่สุด หลังจากนี้ก็อาจจะมีการทบทวนบทบาทของตนเอง หากคนยังมองว่าตนทำในสิ่งไม่ถูกต้อง ซึ่งไม่ได้โทษใคร โทษตนเองมากกว่า เราเพียงต้องการปกป้องอาชีพขายตรงของตน" น.ส.กฤษอนงค์ กล่าว


กรณีที่มีการบอกว่าตนหัก 20% ของเงินผู้เสียหายนั้น น.ส.กฤษอนงค์ บอกว่า ตนได้ยืนยันชัดเจนไปแล้ว ว่าไม่เป็นความจริง และกรณีที่มีผู้เสียหายเขาโอนเข้ามา 30,000 บาท ตนยังไม่รู้เลย ตนช่วยเหลือทั้งกำลังใจและข้าว ช่วยเหลือผู้เสียหายทั้ง 89 คน คือคนในประวัติศาสตร์ ได้รับเงินคืนจากบาดแผลที่ตนได้รับในวันนี้ จงอยากช่วยทุกฝ่ายไม่ได้อยากช่วยเพียงเพราะผู้เสียหายอย่าง 


"ทั้งหมดนี้มันคือปัญหาที่ปลายเหตุ ทำไมต้องให้เลือกฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ทำไมไม่มองที่ฝั่งความถูกต้องตรงกลาง ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนของตน การช่วยคนเป็นเรื่องที่ดี เราจะช่วยคนต่อไปอย่างไรถือเป็นเรื่องความละเอียดอ่อนที่ต้องคิดต่อไป" น.ส.กฤษอนงค์  


นอกจากนี้ น.ส.กฤษอนงค์ ยังกล่าวถึงกรณีคลิปปริศนานาย ส. โดยยืนยันว่า 99.99% ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็น เสียงของนาย ส. ตามที่มีการกล่าวอ้าง เพราะเป็นเสียงที่คุ้นเคยรู้จักเคยร่วมงานกัน และทำให้ทุกวันนี้ตนเองนั้นมีแผล หรือ ชนักติดหลัง ทำให้วงการขายตรงบอบช้ำเป็นอย่างมาก 


ส่วนตัวกับ นาย ส. นั้น น.ส.กฤษอนงค์ บอกว่า เคยทำงานร่วมกันในองค์กรเดียวกันจริง แต่ต้องแยกคนละประเด็น หลังจากที่เขาได้รับตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ตนและนาย ส. นั้นก็แทบจะไม่ได้คุยกันเลย  


ส่วนถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการข้อมูล น.ส.กฤษอนงค์ บอกว่า ตนยินดีพร้อมที่จะให้ข้อมูล หากข้อมูลที่ตนมี มีประโยชน์ต่อรูปคดี หรือ ช่วยในทางสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ก็ยินดีไปเป็นพยานให้  


ทั้งนี้ น.ส.กฤษอนงค์ ยังบอกด้วยว่าโดยหลังจากนี้ ตนเตรียมหลักฐานเดินหน้าฟ้องร้องทนายความ คนที่ออกมาเปิดเผยว่าตนเรียกตบทรัพย์ผู้เสียหาย 10 ล้านบาท


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง