"กรมปศุสัตว์" แถลงบุกช่องดัง ส่งหนังสือเชิญผู้บริหารและผู้จัดซีรีส์ชี้แจงกรณีวางยาแมวในกองถ่าย
"กรมปศุสัตว์" แถลงบุกช่องดัง ส่งหนังสือเชิญผู้บริหารและผู้จัดซีรีส์ชี้แจงกรณีวางยาแมวในกองถ่าย
"กรมปศุสัตว์" แถลงบุกช่องดัง ส่งหนังสือเชิญผู้บริหารและผู้จัดซีรีส์ชี้แจงกรณีวางยาแมวในกองถ่าย ชี้ยังไม่มีประกาศบังคับใช้เป็นความผิด เตรียมตั้งคณะทำงานศึกษาเป็นกรณีตัวอย่าง
(11 พ.ย.67) นายสัตวแพทย์บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ แถลงข่าวกรณีตามที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งได้เผยแพร่ซีรี่ออกอากาศ ซึ่งอาจกระทำการที่เข้าข่าย ความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้มีการประชุมร่วมกันของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ช่องวัน"ร่อนแถลงฉากแมวดำซีรีส์ “แม่หยัว” รับเสียใจ พร้อมขอโทษ
มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ จ่อแจ้งความทีมสร้างละครดัง ปมวางยาสลบแมว
"เอ็กแซ็กท์ ซีเนริโอ" แจง นักแสดงแม่หยัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องการนำแมวเข้าฉาก
กรมปศุสัตว์ได้อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ฯ มาตรา 25 (1) (4) เพื่อเชิญให้ผู้เกี่ยวข้อง ทั้ง ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง ONE 31 รวมถึงผู้จัด และทีมงานที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ พร้อมนำหลักฐานต่างๆ มาแสดงให้ทราบเพื่อรวบรวมข้อมูล จากนั้นจะประสานกับสัตวแพทยสภา เพราะหากมีข้อมูลเชื่อมโยงว่าการวางยาสัตว์กระทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่เป็นสัตวแพทย์ ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณของความเป็นแพทย์หรือไม่โดยจะต้องพิจารณาระเบียบสัตวแพทยสภาประกอบ
ส่วนการนำสัตว์มาใช้ในการแสดงมีข้อกฎหมายบังคับใช้หรือไม่ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ระบุว่า โดยตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ฯ มาตรา 24 มีเรื่องการขนส่งสัตว์ และข้อกำหนดเรื่องการนำสัตว์ไปใช้งาน ซึ่งต้องออกเป็นประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ปัจจุบันมีเฉพาะประกาศเกี่ยวกับการขนส่งสัตว์เท่านั้นที่ทำแล้วเสร็จ ขณะที่ในมาตรา 22 เป็นเรื่องของการจัดสวัสดิภาพสัตว์ ได้มีการเตรียมประกาศไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เป็นภาพกว้าง ทำให้การบังคับใช้ต้องตีความกฎหมายมากขึ้นอย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมปศุสัตว์มีฐานะเป็นประธานและเลขานุการของคณะกรรมการคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ จึงต้องมีการรวบรวมข้อมูลและนำเสนอให้กับคณะกรรมการได้ประชุม ก่อนลงมติว่าจะให้มีการตั้งคณะทำงานมาเพื่อศึกษาว่าต้องจัดทำประกาศอย่างไรเพื่อให้ครอบคลุมเรื่องการนำสัตว์มาใช้งาน เพราะปัจจุบันก็เริ่มมีการนำสัตว์ไปใช้งานในรูปแบบต่างๆ เช่น คาเฟ่แมว หรือสุนัข ซึ่งอาจมีการกระทำที่ยังไม่ได้ชี้ชัด เพื่อให้สามารถวางกรอบในการปฏิบัติและให้เกิดความปลอดภัยแก่สัตว์
หลังจากนี้ จะมอบหมายให้ นายฉัตรชัย ประทุมมาลย์ ผู้อำนวยการกลุ่มคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ กองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการ และเจ้าหน้าที่นำหนังสือจากกรมปศุสัตว์ไปยื่นต่อสถานีโทรทัศน์ เพื่อให้ได้รับทราบและเตรียมข้อมูลมาชี้แจง
ส่วนที่ทีมงานผู้จัด ได้ออกมาชี้แจงว่า แมวสีดำตัวที่อยู่ในละครมีสุขภาพดี และระหว่างถ่ายทำมีผู้เชี่ยวชาญดูแลอยู่ด้วยนั้น นายสัตวแพทย์บุญญกฤช กล่าวว่า ต้องระบุว่าผู้เชี่ยวชาญนั้นคือใคร ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นสัตวแพทย์ หรือเจ้าของแมว หรือเป็นผู้ได้รับการอบรมมาอย่างไร แต่ในเรื่องของการกระทำต่อสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางยาสลบ ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ ซึ่งอาจเกี่ยวเนื่องกับทางสัตวแพทยสภา และต้องให้ทางผู้จัดทำซีรีส์นำแมวมาตรวจสอบสภาพร่างกายด้วยว่าปกติจริงหรือไม่
ขณะที่มีข้อสงสัยว่า เป็นแมวตัวเดียวกันกับตัวที่ถูกวางยาสลบในการถ่ายทำหรือไม่ ต้องตรวจสอบว่าเป็นแมวตัวเดียวกันจริง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายทั้งผู้ถูกกล่าวหา และทั้งกระแสสังคม โดยขอให้ผู้จัดจัดเตรียมหลักฐาน และตัวแมวมาชี้แจงกับทางปศุสัตว์
แต่หากในกรณีที่กองถ่ายวางยาสัตว์โดยไม่มีสัตวแพทย์นั้น อย่างน้อยในทางกฎหมายถือว่าเป็นการทารุณกรรมแน่นอน เพราะมีกฎหมายกำหนดว่าต้องให้สัตวแพทย์ดำเนินการ หากไม่ได้ทำตามขั้นตอนทำให้สัตว์แสดงอาการทุรนทุราย จะเข้าข่าย พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ฯ มาตรา 20 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ชัดเจน ทำให้ยังไม่มีข้อกฎหมายหลักที่จะบังคับใช้ เวลานี้จึงยังไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจนว่าถือเป็นความผิดหรือไม่ ต้องขอดูในรายละเอียดที่แท้จริงก่อน จึงจะสามารถตอบได้
"วันนี้อาจจะเป็นคดีตัวอย่างให้ผู้ที่ดำเนินการต่อไปได้พึงระลึกและสังวรไว้ว่า จะทำอะไรต่อตัวสัตว์ จำเป็นต้องคำนึงในทุกๆ ด้าน และอาจทำให้ในอนาคตมีการใช้เทคโนโลยีต่างๆ มาช่วย เพื่อให้ฉากมีความสมจริง โดยไม่ต้องนำตัวสัตว์มาแสดง" รองอธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าว
ทั้งนี้ เบื้องต้นได้กำหนดให้ผู้ชี้แจงมาให้ถ้อยคำในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ แต่หากผู้ชี้แจงมีความพร้อมก็สามารถเข้ามาให้ถ้อยคำก่อนกำหนดได้