บุกจับ "เต้ ดงกระเชา" เจ้าตัวขอเติมเฮโรอีนก่อนเข้าคุก

ที่ จ.สุพรรณบุรี วันที่ 1 ตุลาคม 2567 นายเชษฐา ขาวประเสริฐ ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ที่บ้านเลขที่ XX หมู่ที่ 6 ตำบลไร่รถ อำเภอดอนเจดีย์ มีการมั่วสุมลักลอบขายยาเสพติดให้กลุ่มวัยรุ่นมานาน จึงสั่งการให้ ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมอบหมายให้ นายธรรศ ศรีดุษฎี ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี ทำการตรวจสอบ ก่อนพบข้อมูลการร้องเรียนเป็นเรื่องจริง

จากนั้น เวลา 01.30 น. (01 ต.ค.67) จึงส่งสายสืบเข้าตรวจสอบ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการมั่วสุมกัน ก็พบว่ามีการมั่วสุมกันอยู่ จึงนำกำลังเดินเท้าฝ่าความมืด และสายฝนที่กำลังตกลงมาโปรยปราย ก่อนจะจู่โจมเข้าตรวจค้นที่เพิงพักหน้าบ้าน ซึ่งมีซาแลนปิดล้อม

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าจู่โจม วัยรุ่นที่อยู่ในเพิงพักได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่วิ่งเข้ามา จึงวิ่งหนีออกทางหลังบ้านเข้าป่าหนามพุงดอ แบบไม่คิดชีวิต เจ้าหน้าที่ไล่ติดตามเข้าดงหนามไป และจับกุมตัวไว้ได้อย่างทุลักทุเล ในสภาพเนื้อตัวเปรอะเปื้อนดินโคลน รวบตัวได้ 2 คน คุมตัวมาสอบถามที่เพิงพัก และอีก 2 รายขณะกำลังตั้งวงเตรียมเสพเฮโรอีน แต่ถูกเจ้าหน้าที่บุก จึงทิ้งของกลางมีทั้งซองใส่เฮโรอีนและผงเฮโรอีน อุปกรณ์การเสพ กระจายเกลื่อนพื้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

การจู่โจมจับกุมครั้งนี้ ได้ผู้ต้องหาเป็นวัยรุ่นชาย 4 คนประกอบด้วย

1. นายสหชาติ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี หรือฉายา "เต้ ดงกระเชา" เจ้าของบ้าน
2. นายณรงค์ศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี
3. นายธีรพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี
4. นายณัฐวุฒิ หรือ มิกซ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี

พร้อมของกลางประกอบด้วย 1) ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เฮโรอีน) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีใส จำนวน 4 ถุง 

• ถุงที่ 1 น้ำหนัก 0.64 กรัม 
• ถุงที่ 2 น้ำหนัก 1.15 กรัม
• ถุงที่ 3 น้ำหนัก 2.34 กรัม
• ถุงที่ 4 น้ำหนัก 1.22 กรัม 

2) ยาบ้า บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 1 ถุง จำนวน 183 เม็ด 

3) อาวุธปืนดัดแปลง จำนวน 1 กระบอก 

4) กระสุนขนาด.22 จำนวน 1 นัด 

5) ธนบัตรแบงค์ 100 บาท จำนวน 10 ฉบับ 

6) ซองพลาสติกใสสำหรับแบ่งใส่ยาเสพติดจำนวน 3 ห่อนับ 1,000 ซอง 

7) เครื่องชั่งแบบพกพา อิเล็กทรอนิกส์

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 4 คนในข้อหา "ร่วมกันจำหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เฮโรอีน)ฯ" 

นอกจากนี้ นายสหชาติ หรือ "เต้ ดงกระเชา" ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของบ้าน ถูกแจ้งข้อหา "มีอาวุธปืนดัดแปลง พร้อมเครื่องกระสุนขนาด .22 ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" อีก 1 ข้อหา และนายณัฐวุฒิ หรือ มิกซ์ ผู้ต้องหา ที่ 4 ถูกแจ้งข้อหา "จำหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า)ฯ"

จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงสอบถามผู้ถูกจับว่ายาเสพติด (เฮโรอีน) ทั้งหมดเป็นของใครและมีไว้ทำอะไร ผู้ถูกจับทั้งหมดแจ้งว่า ยาเสพติดทั้งหมดเป็นของพวกตน โดยจะนำมาขายให้ลูกค้าตามจำนวนเงินที่ลูกค้าต้องการ โดยซื้อยาเสพติด (เฮโรอีน) มาจากนายฟรุ๊ค (ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล) อยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองฯ ในราคา 20,000 บาท ส่วนอาวุธปืนดัดแปลงพร้อมเครื่องกระสุนนั้น นายเต้ รับว่า เป็นของตน มีไว้ป้องกันตัว และยาบ้า จำนวน 183 เม็ดนั้น นายมิกซ์ รับว่าเป็นของตน ซึ่งจะนำมาขายให้แก่ลูกค้าในราคาเม็ดละ 30 บาท 

เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลางทำการบันทึกจับกุมตัว ที่กองร้อยบังคับการและบริการ กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดน จ.สุพรรณบุรี และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดอนเจดีย์ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่คล้ายกัน :

• บุกทลายแหล่งปาร์ตี้ยา รวบชายหญิง 41 ราย
• รวบ 3 ผู้ต้องหาพร้อมยาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ด

สำหรับ "นายเต้" ได้ถูกกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี (ชุดไกรสีห์) , เจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน.จังหวัดสุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดปราบปราบปรามยาเสพติด ฝ่ายปกครองอำเภอดอนเจดีย์ บุกเข้าจับกุมเมื่อวันที่ 25 ก.ค.67 อยู่ระหว่างประกันตัว แต่ยังกลับมาขาย ในจำนวนมี่มากขึ้นกว่าเดิม และยังมีอาวุธปืนอีกด้วย โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้น ได้ให้นายเต้โทรศัพท์ตามพ่อ ซึ่งทำงานอยู่ในตัวจังหวัดสุพรรณบุรี กลับมาบ้านเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ในการจับกุมของเจ้าหน้าที่ นอกเหนือจากย่าของนายเต้ ที่ตื่นขึ้นมาดูการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่

ซึ่งทั้งพ่อและย่า ต่างพูดด้วยความเสียใจว่า "สั่งสอนลูกหลานแล้ว แต่ไม่เคยเชื่อฟัง อุตส่าห์ประกันตัวออกมาหวังว่าจะคิดได้และตัวกลับใจ แต่กลับหนักกว่าเดิม"

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังจะนำตัวไปสอบสวนขยายผล "นายเต้" ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า "ขอเติมหน่อยได้ไหม" เจ้าหน้าที่จึงถามกลับว่า "ขอเติมอะไร" นายเต้ บอกว่า "ขอเติมเฮโรอีน เพราะยังไม่ได้เติมเลย ไม่ไหว รู้สึกมีอาการปวดข้อ ปวดกระดูก" ขณะนั้นพ่อนายเต้ ยืนอยู่ได้พูดขึ้นว่า "รู้ว่าไม่ดีแล้วไปยุ่งกับมันทำไม" เจ้าหน้าที่ได้ถามด้วยว่า "ถูกจับครั้งก่อน ได้ดูข่าวตัวเองหรือเปล่า" นายเต้ บอกว่า "ไม่ได้ดู อยากดู แต่ครั้งนี้ ไม่อยากออกข่าว เพราะครั้งนี้หนักกว่าเดิม"