พ่อร้องตำรวจขู่ลูกอายุ 14 ยึดรถไม่ชอบธรรม
พ่อร้องตำรวจขู่ลูกอายุ 14 ยึดรถไม่ชอบธรรม
พ่อร้องลูกชายอายุ 14 ขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ เจอตำรวจเรียกตรวจ ข่มขู่ให้เซ็นชื่อในกระดาษ ก่อนยกรถไป พอไปขอคืนเจอตำรวจทำท่าทางไม่ดีใส่
(12 ธ.ค. 67) นายสมปอง เรืองฤทธิ์ อายุ 61 ปี พาเด็กชายจุก อายุ 14 ปี ร้องเรียนผู้สื่อข่าวขอความเป็นธรรม โดยนายสมปองเล่าว่าตนเองมีอาชีพจัดงานคาราวานสินค้า และสวนสนุกตามสถานที่ต่างๆ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ถึงวันที่ 1 ธันวาคม ตนไปจัดงานถนนคนเดินลมหนาว บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเขาคิชฌกูฎ จังหวัดจันทบุรี
ช่วงกลางดึกวันที่ 27 พ.ย. ตนเองรู้สึกหิวจึงให้เด็กชายจุกขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้ออาหารที่ร้านสะดวกซื้อซึ่งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเขาคิชฌกูฏ ประมาณ 3 ร้อยเมตร จากนั้นเด็กชายจุกจึงขี่รถจักรยานยนต์ไปร้านสะดวกซื้อ และจอดรถจักรยานยนต์ไว้บริเวณหน้าร้าน เมื่อกลับออกมาพบรถยนต์ตำรวจสายตรวจ สภ.เขาคิชฌกูฏ จอดปิดท้ายรถจักรยานยนต์ และเมื่อเด็กชายจุก มาที่รถจักรยานยนต์ ตำรวจได้พูดข่มขู่ใส่เด็กชายจุกเสียงดัง ทำให้เด็กชายจุกตกใจ และหวาดกลัว
จากนั้นตำรวจสั่งให้เด็กชายจุก เซ็นชื่อในกระดาษสีขาว ซึ่งเด็กชายจุก ไม่ทราบว่าเป็นกระดาษอะไร แต่ด้วยความกลัว จึงเซ็นชื่อในแผ่นกระดาษดังกล่าว จากนั้นตำรวจจึงยกรถจักรยานยนต์ขึ้นรถสายตรวจ และให้เด็กชายจุกขึ้นรถไปด้วย เมื่อถึงหน้าทีว่าการอำเภอเขาคิชฌกูฏ ตำรวจให้เด็กชายจุกลงจากรถ จากนั้นด็กชายจุกเดินร้องไห้มาตนเอง
เช้าวันรุ่งขึ้นตนจึงไปที่ สภ.เขาคิชฌกูฏ เพื่อขอรับรถจักรยานยนต์กลับคืน แต่ตำรวจบอกให้นำหลักฐานรถจักรยานยนต์มาตรวจสอบ พร้อมค่าปรับ 2 พันบาท แต่เนื่องจากหลักฐานรถจักรยานยนต์ อยู่จังหวัดปราจีนบุรี และตนเองมาประกอบอาชีพที่อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี จึงทำให้ไม่สามารถเสียค่าปรับ และรับรถกลับคืนได้
หลังจากงานที่เขาคิชฌกูฏหมดแล้ว ตนเองมาจัดงานที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ไม่ได้เดินทางไปจังหวัดปราจีนบุรี จึงให้ญาติที่จังหวัดปราจีนบุรี ถ่ายเอกสารรถจักรยานยนต์ ส่งให้ทางไลน์ เพื่อใช้เป็นหลักฐาน ไปขอรับรถจักรยานยนต์กลับคืน และเมื่อไปถึงกับถูกตำรวจ สภ.เขาคิชฌกูฏ แสดงท่าทางเหยียดหยาม ไม่พูดจาหรือแนะนำ ตนเองให้ตำรวจตรวจสอบดูหลักฐานรถจักยานยนต์ในไลน์ แต่ตำรวจไม่ยอมดู และไม่ยอมพูดคุยด้วย ตนเองไม่รู้จะทำอย่างไร จึงมาร้องผู้สื่อข่าวขอความเป็นธรรม
นายสมปอง ยังกล่าวด้วยว่า ตนเห็นวีดีโอประชาสัมพันธ์ของ สภ.เขาคิชฌกูฏ ให้บริการประชาชนแล้วดูดี แต่ความเป็นจริงต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งตนเองผิดหวังการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ สภ.เขาคิชฌกูฏ เป็นอย่างมาก