เผาแล้ว 'ยายเกียน' ป่วยติดเตียงบ้านถูกตัดไฟสุดท้ายเสียชีวิต

วันที่ 4 ตุลาคม 2567 ที่เมรุวัดท่านาขาม หมู่ 4 ต.นาขาม อ.วังยาง จ.นครพนม นางสาวภิรมย์ มีแก้ว นายอำเภอวังยาง จ.นครพนม เป็นประธานประกอบพิธีฌาปนกิจศพ นางเกียน ลี้พล อายุ 68 ปี ผู้ป่วยติดเตียงกลุ่มเปราะบาง ชาวบ้านนาขาม ต.วังยาง อ.วังยาง จ.นครพนม เสียชีวิต จากปมพนักงานบริษัทเอกชน รับจ้างตัดไฟจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทำการตัดไฟฟ้าบ้านพัก ทั้งที่ต้องใช้เครื่องออกซิเจนช่วยหายใจ รวมถึงเตียงลม ตลอดเวลา เพราะมีแผลกดทับ ทำให้ไฟฟ้าดับนานกว่า 2 ชั่วโมง รอญาติไปจ่ายค่าไฟที่ค้าง 2 เดือน เป็นเงิน 1,155 บาท เพราะก่อนนี้ไม่เคยชำระ เพราะใช้ไฟไม่เกินกำหนดรัฐบาลช่วยเหลือ ภายหลังพนักงานจึงมาติดตั้งให้จนกระทั่งอาการป่วยทรุดและเสียชีวิตในคืนเดียวกัน ทำให้ญาติคาใจ เชื่อว่าต้นเหตุเกิดจาการตัดไฟฟ้า 

ถึงแม้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะออกมายืนยันว่า ไม่ใช่สาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากไม่ได้เสียชีวิตทันที และไม่เข้าหลักเกณฑ์การชดเชยเยียวยา แต่ทางญาติไม่ต้องการที่จะเรียกร้องการชดเชยเยียวยา แต่ขอให้เป็นบทเรียนใหม่สำหรับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในการวางแนวทางไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก ถึงแม้จะอ้างไม่มีการลงทะเบียนบ้านผู้ป่วยติดเตียงในระบบ พร้อมยืนยันว่า มีการยืนยันต่อหน้าพนักงานทำหน้าที่ตัดไฟ แต่อ้างทำตามหน้าที่ พร้อมอโหสิกรรม กับเรื่องที่เกิดขึ้น และเชื่อว่ายายเกียน ไม่ตายฟรี เพราะสังคมได้ประโยชน์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะได้ใส่ใจในการบริการมากขึ้น 

สำหรับการประกอบพิธีฌาปนกิจครั้งนี้ มีนายจารุวัต เนียมเล็ก ผู้ช่วยผู้ว่าการไฟฟ้าเขต 1 อุดรธานี ส่งพวงหรีดมาร่วมไว้อาลัย พร้อมมีนายทวี สราญรมย์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นครพนม นำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน ผู้นำชุมชนท้องถิ่น และชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมไว้อาลัย ประกอบพิธีฌาปนกิจศพ แบบเรียบง่ายตามประเพณีชาวบ้าน ในส่วนของเงินทำบุญ ส่วนใหญ่จะมีการช่วยกันทำบุญตามความเหมาะสม ไม่มีการมอบเงินช่วยเหลือเป็นทางการ 

นอกจากนี้ สอบถามญาติ ระบุว่า พนักงานเอกชนรับจ้างตัดไฟฟ้า ได้มาขอขมาศพตามประเพณีความเชื่อแล้ว พร้อมยืนยันว่า ไม่รู้ว่ามีคนป่วยติดเตียงอยู่ในบ้าน พร้อมสำนึกผิด แต่ญาติไม่ได้ติดใจและขออโหสิกรรม ขอให้นำเป็นบทเรียนในการทำงานบริการประชาชน

ด้าน นางสาวภิรมย์ มีแก้ว นายอำเภอวังยาง จ.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับข้อมูลกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง ในส่วนของฝ่ายปกครอง และองค์กรท้องถิ่น มีข้อมูลครบ ในพื้นที่ 4 ตำบลรวม 27 หมู่บ้าน แต่ยอมรับว่า ไม่เคยมีการลงทะเบียนตามระบบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ไม่ใช่เพียงยายผู้เสียชีวิตเท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมาการไฟฟ้า ไม่ได้มีการประสานรับข้อมูล กับทางฝ่ายปกครอง ยอมรับว่าประชาสัมพันธ์น้อยมาก พึ่งมารับทราบหลังเกิดเรื่อง อย่างไรก็ตามไม่อยากโทษหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เมื่อเกิดปัญหาแล้ว ถือเป็นบทเรียนในการทำงานของทุกฝ่าย สำคัญที่สุดระเบียบข้อปฏิบัติ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะต้องสร้างความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์กับชาวบ้านมากขึ้น การเสียชีวิตของยายวันนี้ ขอให้เป็นศพสุดท้าย และเชื่อว่ายายไม่ได้ตายฟรี แต่เป็นคุณประโยชน์ ต่อประชาชน ทั่วประเทศ ได้รับรู้ถึงสิทธิ ด้านการบริการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมากขึ้น เชื่อว่าจะปรับปรุงแก้ปัญหาไม่ให้เกิดความสูญเสียซ้ำอีกแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ญาติอโหสิกรรมการไฟฟ้า ให้เก็บเป็นบทเรียน ระวังอย่าเกิดซ้ำ

การไฟฟ้า รับตัดไฟบ้านยายป่วยติดเตียงจริง แต่ไม่เสียชีวิตทันที เร่งหาทางเยียวยา