เปิดข้อความสุดท้ายหนุ่ม 18 เหยื่อฆ่าล้างครัว 4 ศพ
เปิดข้อความสุดท้ายหนุ่ม 18 เหยื่อฆ่าล้างครัว 4 ศพ
คืบหน้าเหตุหนุ่มใหญ่วัย 55 ฆ่าล้างครัว 4 ศพ หลังตามง้อเมียแต่ไม่สำเร็จ พบเด็กหนุ่มวัย 18 ปี ญาติของเมียผู้ก่อเหตุส่งข้อความสุดท้ายหาแม่ที่ กทม. ก่อนถูกปลิดชีพ
(21 ก.ย. 67) ความคืบหน้ากรณี นายนพดล อายุ 55 ปี เจ้าของรีสอร์ทริมน้ำโขงแห่งหนึ่ง ใน จ.หนองคาย ก่อเหตุใช้อาวุธปืน 11 มม. ยี่ห้อคิมเบอร์ สังหารโหด น.ส.คลิตา หรือ หมิว อายุ 28 ปี อดีตภรรยาที่เลิกรากันไปได้ประมาณ 1 ปี นางจรวยพร อายุ 50 ปีแม่ของ น.ส.คลิตา และนายเบส ลูกพี่ลูกน้องของ น.ส.คลิตา อายุ 18 ปี ที่หนีไปหลบในห้องน้ำ จากนั้นนายนพดลใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองเสียชีวิต เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านของนางจรวยพรในพื้นที่ ต.โพนเพ็ก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น มีเพียงเด็กหญิงวัย 1 ขวบ 7 เดือน ลูกสาวของนายนพดลกับ น.ส.คลิตา เพียงคนเดียวที่รอดชีวิต
จากการตรวจสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ทราบว่านายนพดลได้ตามมาง้อ น.ส.คลิตา ที่เลิกกันไปราว 1 ปี แต่ไม่สำเร็จ โดยที่ผ่านมาเจ้าตัวตามมาง้อ น.ส.คลิตาอยู่บ่อยครั้ง และคิดว่า น.ส.คลิตา มีผู้ชายคนอื่น กระทั่งเกิดเหตุการณ์สลดขึ้น และจากการตรวจสอบภายในรถของนายนพดลพบว่ามีอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ในรถเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้นำร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ศพออกมา โดยร่างของนายนพดล มือปืนนั้น ได้ส่งมอบให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ จ.หนองคาย โดยญาติไม่ติดใจ ขณะที่ ศพของแม่ยาย ภรรยา และหลานชาย ได้นำใส่โลงเตรียมประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้อง และชาวบ้าน รวมทั้งเพื่อนของนายเบส ลูกพี่ลูกน้องของ น.ส.คลิตา ที่ต้องมาเสียชีวิตทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย
และพบว่าขณะเกิดเหตุนั้น น้องเบส ส่งข้อความไปหาแม่ที่อยู่ กทม. บอกว่า แม่ บักบอย มันยิง ตายหมด ก่อนที่แม่จะพยายยามโทรหาแต่น้องเบสไม่รับสาย ซึ่งแม่ของน้องเบสได้โพสต์ข้อความแชทดังกล่าวระบุว่า เบสทำไมทิ้งแม่ไปแบบนี้ ซึ่งในวันนี้แม่ของน้องเบสจะเดินทางกลับมาที่บ้านเกิดเหตุเพื่อจัดเตรียมงานศพให้กับทุกคน
ขณะที่ นายเวียงชัย อายุ 58 ปี สามีของนางจรวยพร และเป็นพ่อของ น.ส.คลิตา ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงประมาณ 08.00 น.ตนเองออกไปซื้อกับข้าวในหมู่บ้าน ซึ่งมีเพื่อนบ้านได้โทรมาบอกว่า ได้ยินเสียงปืนดังอยู่ในบ้าน ก่อนที่ตนเองจะโทรแจ้งตำรวจว่ามีเสียงปืนดังขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ จึงได้เดินทางมาที่เกิดก่อน ส่วนตนเองก็ขับรถกลับมาบ้าน พอมาถึงบ้านทางเจ้าหน้าที่ไม่ให้ตนเองเข้าไป เพราะเกรงว่ามือปืนจะทำร้ายคนอื่นอีก และยังไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร จึงได้รอให้เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่และเคลียร์พื้นที่ก่อน ซึ่งเพื่อนบ้านบอกว่าได้ยินเสียงปืนดังครั้งแรก 3 นัด ครั้งที่สอง 4 นัด ครั้งที่สาม อีก 2 นัด
พอเจ้าหน้าที่ได้เคลียร์พื้นที่เรียบร้อย พร้อมกับอุ้มหลานสาวออกมาบอกว่าหลานไม่โดนยิง จึงได้เข้าไปกระทั่งทราบว่าถูกยิงตายแล้ว 4 ศพ ทั้งภรรยาตนเอง ลูกสาว หลานชาย และอดีตลูกเขย ส่วนหลานสาววัย 1 ขวบ 7 เดือน รอดชีวิตคนเดียวในบ้าน คาดว่ามือปืนน่าจะมาประมาณ 08.00 น. เพราะตอนที่ตนออกไปซื้อกับข้าวประมาณ 08.00 น. ยังไม่เห็นรถของนายนพดลมาจอด
ก่อนหน้านี้ลูกสาวได้หนีสามีมาได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ได้ยินว่าเคยทะเลาะกันมาก่อนแล้ว ตบตีกันมาก่อน ถึงขั้นขึ้นศาลมาแล้วตั้งแต่อยู่ จ.หนองคาย ที่ผ่านมาเคยคิดอยู่ว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ เพราะเหตุการณ์แบบนี้ได้ยินในข่าวบ่อยๆ และก็ได้เตือนลูกสาวไปบอกว่า ตอนที่ถูกเขาตบเขาตีก็อย่าไปตอบโต้เขา เดี๋ยวเขาจะยิงหรือฆ่าทิ้ง ซึ่งก็เคยได้เตือนไว้อยู่
