ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ หนุ่ม กรรชัย - ครอบครัวเด็ก 8 ขวบ

ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ หนุ่ม กรรชัย - ครอบครัวเด็ก 8 ขวบ

107901 ก.ค. 67 23:01   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ หนุ่ม กรรชัย - ครอบครัวเด็ก 8 ขวบ ศาลนัดไต่สวนใหม่ 30 ก.ย. นี้ ด้านพิธีกรดังเผยไม่หนักใจ ขอบคุณแฟนคลับให้กำลังใจ

จากกรณีครอบครัวแม่เด็ก 8 ขวบ ได้ยื่นฟ้อง "หนุ่ม กรรชัย" กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดัง พร้อมผู้บริหารบริษัทวันดีคืนดี จำกัด และ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 รวมทั้งหมด 7 คน ต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในข้อหา "ร่วมกันกระทำความผิดมาตรา 30 บัญญัติกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ พ.ศ. 51 เป็นเจ้าของช่องหรือผู้ถือใบอนุญาตมีส่วนร่วมในการเผยแพร่ควบคุมในการออกอากาศมีส่วนร่วมและการกระทำความผิด" 


โดยต้นเหตุและสาเหตุมาจากการนำเสนอภาพของ"เด็ก 8 ขวบ" และแม่ ซึ่งพาดหัวข่าวว่า "อ้างตนเป็นพระพุทธเจ้ามาเกิด" ซึ่งเป็นความเท็จและเข้าข่ายความผิด พรบ.คุ้มครองเด็กมาตรา 27 และหมิ่นประมาทในการโฆษณา รวมถึงเป็นการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยคดีนี้ศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ช่วงเวลา 13.00 น.


ในวันนี้เป็นวันนัดไต่สวนมูลฟ้องเป็นนัดแรก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในช่วงเช้าที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้จัดกำลังเข้าดูแลป้องกันเหตุกว่า 50 นาย พร้อมแยกโซนให้ฝ่ายโจทก์ที่เป็นครอบครัวเด็ก 8 ขวบ ที่มีพ่อ , แม่ , เด็ก 8 ขวบ และทนาย รวมไปถึงกลุ่มญาติธรรมที่เดินทางมาให้กำลังใจกว่า 100 คน 


ขณะที่ฝ่ายของ "หนุ่ม กรรชัย" มาพร้อมกับ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง , อี้ แทนคุณ และ กัน จอมพลัง ที่เดินทางมาจาก กทม.เพื่อให้กำลังใจ "หนุ่มกรรชัย" โดยทั้งหมดได้ขึ้นเบิกความไต่สวนในเวลา 13.00 น. คาดว่าศาลอาจจะให้ทั้งคู่เจรจาไกล่เกลี่ย หากทั้ง 2 ทั้งฝ่ายตกลงกันไม่ได้น่าจะมีการเบิกความไต่สวนมูลฟ้องในวันนี้ 


ต่อมาเวลา 12.30.น. กัน จอมพลัง ได้เดินทาง สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อพูดคุยกับ หมอต้น และ ผกก.เมืองสุราษฎร์ธานี กรณีที่ คุนยายเคลื่อน เหมกัง อายุ 84 ปี ที่มีคนร้องเรียนไปว่าให้ ยายเคลื่อน ย้ายออกจากบ้านพักที่อาศัยอยู่ภายใน 2 เดือน หลังจากนั้นทีมงาน กัน จอมพลัง ได้เดินทางไปที่ซอยวัดโพธิ์ซอย 2 เพื่อที่จะเดินทางไปพบกับคุณยายเคลื่อน พร้อมกับเจ้าหน้าที่ พม. , หมอต้น และผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข 


เมื่อมาถึงเคลื่อนก็ได้เจอกับยายเคลื่อนและลูกของยาย 1 คน ส่วนอีกคน อายุ 50 กว่า เป็นผู้ป่วยติดเตียง ส่วนยายเมื่อได้เจอกับ กัน จอมพลัง ก็ได้ยกมือไหว้ ขอบคุณพร้อมกับมีน้ำตาออกมา ซึ่งทางคุณ กัน จอมพลัง เมื่อได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของคุณยายอยู่ในสภาพที่มีข้าวกินบ้าง ไม่มีกินบ้าง ต้องไปขอข้าวจากวัด บางวันถ้าพระไม่ได้บิณฑบาต เพื่อนบ้านก็จะนำมาให้อดบ้างกินบ้างในแต่ละวันได้ 


ทั้งนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่เร่งจัดหาบ้านเช่าให้คุณยายโดยด่วน ซึ่งบ้านนั่นราคาประมาณไม่เกิน 3,000 บาท ส่วนน้องคนที่ผู้ป่วยติดเตียงก็จะพาไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ถ้าได้บ้านแล้วก็จะพาน้องกลับมาอยู่กับยายเหมือนเดิม ส่วนสุนัขของยายที่ยายเป็นห่วงอยู่ตอนนี้ ก็จะติดต่อกับปศุสัตว์มาฉีดยาและมารักษาพร้อมกับพาไปไว้ที่ปศุสัตว์ก่อน 


ส่วนทาง พม. เล่าว่า ก่อนหน้านี้คุณยายได้มีงานทำและได้เงินเดือนประมาณ 8,000 บาททุกเดือน และหลังจากนั้นที่คุณยายได้ล้มก็ประกอบอาชีพไม่ได้ จนตอนนี้ทางเจ้าของที่ซึ่งที่ให้ยายเช่าอยู่อาศัยอยู่ เดือนละ 1000 บาท เจ้าของที่ก็จะขยับขยายเพื่อที่จะขายและให้ยายหาที่อยู่ใหม่ ส่วนลำพังยายเองก็เดือดร้อนเรื่องได้มีเพื่อนบ้าน 2 คนที่ส่งเรื่องร้องเรียนไปยังเพจ กัน จอมพลัง 


ต่อมา เมื่อเวลา 16.27 น. "หนุ่ม กรรชัย" ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีพร้อม กัน จอมพลัง โดยทั้งคู่ได้เดินขึ้นสู่ ห้องพิจารณาคดีบัลลังก์ที่เจ็ด 


ในเบื้องต้นศาลได้ให้ทั้งคู่ได้พูดคุยและไกล่เกลี่ย แต่ผลการไกล่เกลี่ยไม่ได้ศาลจึงเปิดสืบพยานไต่สวนขึ้น สำหรับพยานปากแรกเป็นนายแพทย์ธเนศ แพทย์ประจำตัวของเด็ก 8 ขวบ ขึ้นให้ปากคำเบิกความเป็นคนแรก


ขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการเบิกความของนายแพทย์ธเนศ ซึ่งทางแม่และเด็ก 8 ขวบ ได้ถูกกันออกมาอีกห้องหนึ่ง อย่างไรก็ตามการไต่สวนในวันนี้ทางศาลได้กำหนดเวลาไต่สวนไม่เกิน 20.00 น. หลังจากนั้นก็จะนัดสืบกันต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพิจารณาใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง แต่ไม่สำเร็จ จนต้องมีการไต่สวน นพ.คเณศ คณินวรพันธุ์ แพทย์ประจำตัวของเด็ก 8 ขวบ ซึ่งเป็นพยานฝ่ายผู้ร้อง ได้เพียงแค่ 1 ปาก และทางศาลได้ยุติการไต่สวนลงในเวลา 20.00 น. 


ต่อมา หนุ่ม กรรชัย ได้เดินลงจากศาลและมาให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ว่าไม่ได้หนักใจอะไร พร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณ FC ก่อนที่จะถ่ายรูปกับ FC และเดินทางขึ้นรถตู้กลับที่พัก

  

ขณะที่ แม่ของเด็ก 8 ขวบ เปิดเผยว่า วันนี้ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีดูแลทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างดี โดยทางศาลท่านก็ให้มีการพูดคุยมีการไกล่เกลี่ยกันประมาณนี้ หากถามว่ารูปคดีทางเราหนักใจหรือไม่ เราขอยืนยันเหมือนเดิมว่าไม่ได้หนักใจ เหตุที่ช่วงแรกที่มีการพูดจาไกล่เกลี่ยกันนั้นจุดประสงค์ของเรา ต้องการให้ลบสิ่งที่ไม่เป็นความจริง อันไหนที่เป็นการลงไปแล้วที่เป็นการทำลายความเสียหายให้น้อง


แม่ของเด็ก 8 ขวบ กล่าวต่อไปว่า แต่ทางคู่กรณีเค้าไม่ยอมลบ ยังยืนยันเหมือนเดิม ก็ต้องไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงในชั้นศาล ตอนนี้ก็ขอให้ทุกคนรอดูผลการตัดสินของศาล และในช่วงนี้ก็จะมีของศาลเด็กและเยาวชนที่จะตัดสิน 1 คดี และคงจะมีการตัดสินของกระบวนการของศาลยุติธรรมออกมา   


"ในส่วนไหนที่เรากลัวว่าคดีความจะขาดอายุความก็จะไปดำเนินการแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ. เพื่อป้องกันคดีความขาดอายุและอาจจะมีเพิ่มเติมขึ้นเรื่อย ๆ ตราบใดที่ยังไม่มีการหยุดนำเสนอข่าวที่ข้อมูลอันเป็นเท็จ" แม่ของเด็ก 8 ขวบ ระบุ


ด้าน ทนายของฝ่ายครอบครัวเด็ก 8 ขวบ กล่าวว่า วันนี้ทางศาลเห็นว่าเมื่อมีการพูดคุยกันแล้วน่าจะมีการตกลงกันได้เพราะทางฝ่ายผู้ถูกร้อง มีทนายมาจำนวน 4 ท่าน จึงให้มีการไล่เลียงความต้องการของแต่ละฝ่ายมีอันไหนที่สามารถตกลงกันได้ จึงใช้เวลาในช่วงต้นนานนิดหนึ่ง   

    

ทนาย ย้ำว่า ขณะนี้คดียังอยู่ในช่วงที่ยังสามารถไกล่เกลี่ยกันได้ตลอด และวันนี้ถือว่าเป็นการไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์ไปเพียง 1 ปาก แต่ยังไม่ทันเสร็จ ในเรื่องของการถามค้านและถามจริง ศาลได้นัดไปไต่สวนอีกนัดหนึ่งในวันที่ในวันที่ 30 กันยายน ที่จะถึงนี้ ในเวลา 09.00 น. เป็นต้นไป 


ทนาย กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของคดีพรุ่งนี้ที่ศาลเด็กและเยาวชนก็ไม่ได้มีความหนักใจอะไรมากพยานหลักฐานที่ดำเนินการฟ้องเป็นพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นจริง ที่สื่อนำภาพของน้องไปตัดต่อ ซึ่งในรูปคือสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้า ทางฝ่ายเราขอให้ทางสื่อที่นำเสนอลบภาพดังกล่าวออก  


ทนาย กล่าวอีกว่า พรุ่งนี้ที่ศาลเด็กและเยาวชนจะเป็น 2 คดี คดีแรกนัดฟังคำสั่งในคดีที่น้องเป็นผู้ร้องขอให้คุ้มครองสวัสดิภาพ กับคดีที่ 2 เป็นการไต่สวนพยานผู้ถูกกล่าวหาคือพ่อและแม่ ตามที่ พม.กล่าวหา ว่าเลี้ยงลูกโดยมิชอบตามมาตรา 26 วง(3)(5) โดยทางฝ่ายเราได้อ้างพยานไปทั้งหมด 65 ปาก เพื่อจะชี้หรือแสดงให้ศาล เห็นว่ากิจกรรมของน้องหรือการเลี้ยงดูน้องมันไม่ได้เป็นไปตามที่ พม.กล่าวหา 


"คือคดีนี้ทางเราร้องขอให้ทางศาลยกคำร้อง โดยพยานทั้งหมดศาลให้นัดเดียว และให้พยานทำคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรเบิกความแล้วให้เซ็นชื่อรับรองและยื่นต่อศาล" ทนาย ระบุ


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง