“บอย” ไม่จบแค่ฉีกสัญญา เดินหน้าแจ้งความ “ดิ ไอคอน”
“บอย” ไม่จบแค่ฉีกสัญญา เดินหน้าแจ้งความ “ดิ ไอคอน”
“บอย ปกรณ์” โผล่สอบสวนกลาง พร้อม “หนุ่ม กรรชัย-กัน จอมพลัง” เดินหน้าฟ้อง “ดิ ไอคอน” ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ร่วมกับผู้เสียหายอีกกว่า 100 ราย - ยันไม่ได้มาฟอกตัว รู้ดีสิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรมาลบล้างสิ่งที่ตนทำผิดไปได้
(14 ต.ค. 67) เวลา 09.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตึกกองบังคับการปราบปราม นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกันจอมพลัง, นายกรรชัย กำเนิดพลอย หรือ หนุ่ม กรรชัย, พร้อมด้วย นายปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หรือ บอย ปกรณ์ ได้พาผู้เสียหาย ประมาณร้อยราย จากบริษัทเครือข่ายชื่อดัง มาแจ้งความดำเนินคดีที่ ศูนย์รับแจ้งความ บก.ปคบ. ถนนพหลโยธิน
โดย หนุ่ม กรรชัย ระบุว่า ในวันนี้เองได้พาผู้เสียหายจากหลายที่หลายจังหวัด มาแจ้งความ ในส่วนของ บอย ปกรณ์ หลังจากที่ออกรายการไปแล้วก็ต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจและอยากให้สัมภาษณ์สื่อ โดยตั้งแต่เกิดเรื่องเกิดราว บอย ปกรณ์ ยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์ที่ไหน ซึ่งตัวของบอยเองก็ได้รวบรวมผู้เสียหายโดยการให้ ผู้เสียหาย DM มาผ่านทาง IG และได้รวบรวมผู้เสียหายส่งมาให้ตนทาง Line ซึ่งมีผู้เสียหายติดต่อทางบอยปกรณ์มาประมาณ 40 คน และยังมีผู้เสียหายที่ไปร้องทางการเพจกันจอมพลังอีกหลายคน
กรณีที่บอสพอล ระบุว่าสนใจที่จะมาออกรายการของตนนั้น เบื้องต้นเช้านี้ตนให้ทีมงานติดต่อประสานไปหาบอสพอแล้ว ก็ขอเวลาสักนิด รอให้เขาพร้อมก็มาได้เลย อย่างไรก็ตาม กรณีที่ บอสพอลโพสต์ว่า พวกตนรวมกลุ่มทำเป็นขบวนการ เพื่อต้องการทำลายชื่อเสียงของบริษัทนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะคิดเช่นนั้นได้ แต่ตนอยากจะพูดตรงนี้ว่า “ถ้าเกิดหมาเน่ามันทำให้สังคมตลบอบอวล ตนก็พร้อมกินหมาเน่า เพื่อทำให้สังคมดีขึ้น และคิดถึงส่วนรวมของประชาชนให้ได้รับประโยชน์เป็นหลัก
สุดท้ายนี้ คือประเด็นเรื่องคลิปเสียงปริศนาที่ตนได้เปิดในรายการ โดยเสียงสนทนานี้ มีบุคคลคนหนึ่ง พยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ เพื่อผลประโยชน์ของบริษัท แล้วมีคนพุ่งเป้าว่าเสียงบุคคลคนนั้นคือ บอสพอล ตนก็อยากให้ตัวเขาเองออกมาชี้แจงว่าคลิปเสียงดังกล่าวใช่หรือไม่ใช่เสียงของเขากันแน่
ด้านของบอย ปกรณ์เอง ได้ให้สัมภาษณ์สื่อว่า วันนี้ตนมา 3 เรื่อง เรื่องแรกคือพาผู้เสียหายมาร้องเรียนและมาแจ้งความสำหรับผู้เสียหายที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนให้ DM หาตนได้เลย ซึ่งเป็นการประกาศจุดยืนว่าตนจะอยู่เคียงข้างผู้เสียหายและอยากรับผิดชอบ ในสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าตนถูกใช้เป็นเครื่องมือจนทำให้มีผู้เสียหาย
สอง ตนจะมาให้ปากคำตามที่บอกในรายการไว้ว่ายินดีจะเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย ซึ่งวันนี้ได้ประสานกับทางตำรวจไว้แล้วว่าจะเข้ามาให้ปากคำ และ สาม จะมีการลงบันทึกประจำวันเกี่ยวกับบริษัท เพราะตนต้องปกป้องสิทธิ์ของตนเอง และจะเอาผิดส่วนของบริษัทที่ไม่ได้บอกข้อมูลที่แท้จริงกับตน ทำให้ตนเข้าใจผิดและเกิดความเสียหายตรงนี้ขึ้นมา
ในส่วนของการเอาผิดต้องคุยกับทนายอีกทีว่าจะแจ้งข้อหาอะไรบ้าง เบื้องต้น จะมีการแจ้งความข้อหา “ฉ้อโกง” และการนำรูปของตนไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้เสียหาย ขอชี้แจงและขอย้ำว่าในการที่มาร้องทุกข์ในวันนี้ ไม่ได้เป็นการลบล้างและไม่สามารถลบล้างในสิ่งที่ตนทำได้ โดยจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม จนทำให้มีผู้เสียหายเกิดขึ้น
เบื้องต้นจะมีการแจ้งทางบริษัทก่อน และจะดูว่าบุคคลอื่นๆสามารถเข้าความผิดอะไรได้บ้าง ทั้งนี้ในสัญญาไม่ได้ระบุตัวสคริปต์จะระบุในส่วนของการทำงาน ว่าต้องให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และปกติการทำงานลักษณะนี้ กระบวนการบนเวทีจะมีการเขียนสคริปไว้อยู่แล้วเป็นปกติ
ด้านกัน จอมพลัง บอกว่า วันนี้พาผู้เสียหายนับ 100 คน มาแจ้งความดำเนินคดี ผู้เสียหายบางคนที่เป็นผู้พิการ ขายของไม่ได้แม้แต่ชิ้นเดียว แต่บริษัทกลับเคลมว่า ผู้เสียหายคนนี้ประสบความสำเร็จ ทั้งๆที่ขายไม่ได้ เขากลัวว่าจะมีผู้พิการคนอื่นหลงเชื่อ แล้วกลายเป็นเหยื่อ
ยืนยันว่าการกระทำของบริษัท The icon เข้าข่ายผิดคดีไหน เราจะดำเนินคดีนั้น ไม่มีละเว้นใครที่โดนขู่ให้ส่งเรื่องมาที่กัน จอมพลัง ได้เลย แล้วจะทำการตรวจสอบให้ เพราะพวกเราไม่ได้รับเงินใครมา
ตอนนี้อยากให้พวกบอสทั้งหลาย มีความรับผิดชอบ มีความกล้า เหมือนบอยป ปกรณ์ จากเดิมเป็นผู้บริหาร วันนี้กลายมาเป็น พีอาร์ มันจะเป็นไปได้อย่างไร
หลังจากนั้นทั้ง 3 คนได้พาผู้เสียหายขึ้นไปแจ้งความยังชั้น 2 ของตึกกองบังคับการปราบปรามทันที