หนุ่มไรเดอร์เครียดโดนหมายจับ พิมพ์ข้อความลาแม่ครั้งสุดท้าย

หนุ่มไรเดอร์เครียดโดนหมายจับ พิมพ์ข้อความลาแม่ครั้งสุดท้าย

23702 ก.ค. 67 00:38   |     AdminNews

หนุ่มไรเดอร์เครียดเรื่องคดีความตัดสินใจกระโดดสะพานดังดับ พยานเผยได้ยินเสียงตะโกนท้าทายก่อนคิดสั้น

เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 1 ก.ค. 67 พ.ต.ต ภารดา ตันติรุ่งอรุณ สว.(สอบสวน) สภ.สวนพริกไทย ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีเหตุคนกระโดดสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระ (สะพานปทุมธานี 1) ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี แล้วสูญหายไปในน้ำหลังรับแจ้ง จึงประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมนักประดาน้ำ ก่อนรุดไปตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน

ที่เกิดเหตุใต้สะพานปทุมธานี 1 โดยได้พบ น.ส.มีนา อายุ 17 ปี พยานที่เห็นเหตุการณ์gล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณบ่ายโมงกว่าขณะที่ตนยืนอยู่ใต้สะพานเพื่อรอแฟนมารับ จู่ๆก็ได้ยินเสียง ผู้ชายแลัผู้หญิง เดินทะเลาะกันขึ้นตรงบันไดสะพาน พอไปถึงช่วงใกล้กลางสะพานสักพักก็ได้ยินเสียงผู้หญิงพูดตะโกนเสียงดังว่า "มึงไม่กล้าโดดหรอก" สิ้นเสียงผู้เสียงก็เห็นร่างผู้ชายดิ่งจากสะพานลงน้ำใกล้ตอ,jv จากนั้นชายคนดังกล่าวก็โผล่หัวขึ้นเหนือน้ำก่อนจะตะเกียกตะกายพยายามเกาะขอบตอม่อไปทางทิศใต้ ซึ่งขณะนั้นมีคนตกปลาคนหนึ่งที่ยืนห่างจากตนไปประมาณ 10 กว่าเมตร ก็ได้พยายามโยนเชือกไปให้ชายคนที่กระโดดลงมา แต่ไม่ทันเพราะชายคนดังกล่าวจมน้ำไปต่อหน้าต่อตาตน จากนั้นก็มีคนโทรศัพท์แจ้งตำรวจและกู้ภัยฯมาที่เกิดเหตุ

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขึ้นไปตรวจบริเวณใกล้กลางสะพานก็พบเห็นมีโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องวางอยู่โดยมีอยู่ 1 เครื่องที่สามารถเปิดได้และมีข้อความพิมพ์คำว่า

"เบอร์ญาติ 093 xxx-xxxx มารดา ป่วยจิตเวช

ใครพบโทรศัพท์เครื่องนี้โปรดรู้ว่าเจ้าของเครื่องนี้ได้เสียชีวิตลงแล้วรถจอดอยู่ระแวกที่พบโทรศัพท์โปรดนำมาคืนให้มารดาด้วย ความยุติธรรมในประเทศนี้ไม่มีจริงลาก่อนมี" เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงได้ติดต่อไปยังเบอร์ที่พิมพ์ข้อความไว้ระบุว่าเป็นมารดาเพื่อขอข้อมูลและขอให้เดินทางมาตรวจสอบหลักฐาน

จากนั้นนักประดาน้ำอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้ทำการลงค้นหาภายในแม่น้ำเจ้าพระยาตามจุดที่พยานชี้ยืนยัน ระหว่างนั้นก็มี น.ส.ภาสิริ อายุ 55 ปี เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมกล่าวว่าตนคือแม่ของคนที่สูญหายในน้ำ เจ้าหน้าที่จึงเปิดรูปในโทรศัพท์ให้ดูหญิงคนดังกล่าวจึงยืนยันว่าเป็นลูกชายตนชื่อนาย "ฟ" (สงวนชื่อนามสกุล) อายุ 26 ปี โดยกล่าวว่าลูกชายตนนั้นมีอาชีพเป็นไรเดอร์ และรับจ้างทั่วไป แต่ไม่ได้พักอยู่กับตน จะมีการโทรมาพูดคุยกันเท่านั้น ล่าสุด ลูกชายโทรมาบอกว่า มีคดีหมายจับจาก สน.สายไหม ข้อหาทำร้ายร่างกายอดีตภรรยาของลูกชาย โดยตนทราบเพียงว่าลูกชายตนนั้นมีอาการเครียด แต่ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุฆ่าตัวตายในครั้งนี้ ยิ่งพอตนมาทราบว่าลูกชาย เดินขึ้นไปกับผู้หญิงซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร จึงเชื่อว่าลูกชายตนนั้นอาจจะถูกผู้หญิง ท้าทายให้กระโดดสะพานหรืออาจถูกทำร้าย จึงขอให้ตำรวจช่วยเร่งติดตามหาผู้หญิงคนดังกล่าวและขอให้กู้ภัยช่วยค้นหาร่างลูกชายตนให้เจอด้วย ส่วนเรื่องรถนั้นตนไม่รู้จริงๆว่าลูกชายตนใช้รถอะไรและรถจอดที่ไหน

ต่อมาเวลาประมาณเกือบ 1 ทุ่ม เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำก็พบร่างของผู้เสียชีวิตห่างจากจุดตอม่อประมาณเกือบ 10 เมตร ก่อนที่จะนำร่างมาไว้บริเวณใกล้ริมตลิ่ง เพื่อรอให้แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม มาทำการชันสูตร และในขณะเดียวกัน แม่ของผู้เสียชีวิต พอรู้ว่านักประดาน้ำงมร่างลูกชายเจอถึงกับร้องไห้แทบเป็นลม พร้อมตะโกนว่าให้นำลูกตนไปหาหมอรีบส่งโรงพยาบาลช่วยลูกตนด้วย ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามพูดปลอบ แต่เหมือนกับแม่ผู้เสียชีวิตไม่ยอมฟังร้องไห้ตลอดคล้ายคนเริ่มจะสติแตกและต่อว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจ หาว่าไม่ยอมช่วยลูกตนปล่อยให้ลูกตนแช่น้ำทำไม อย่างนั้นก็ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการปลอบโยนและพยายามอธิบายให้เข้าใจพร้อมกับแจ้งว่าลูกชายจมน้ำเสียชีวิตหลายชั่วโมง


ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเปิด โทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตเพื่อดูในไลน์พบว่ามีเพื่อนอยู่รายหนึ่งที่ผู้เสียชีวิตได้มีการแชทข้อความไปยังเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ที่คาดว่าน่าจะเป็นคนที่คอยส่งงานลูกค้าให้ โดยมีข้อความว่าแชทของเมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.67) 

ผู้ตาย : เค้าบอกแค่ออกหมายมา ให้เข้ามาเคลียร์

เพื่อน : ตกลงเป็นหมายจับไหมหรือแค่เรียก

ผู้ตาย : หมายจับ

เพื่อน : หมายจับก็ต้องจับสิ ไม่งั้นหมายมันไม่หาย เพื่อนพี่กลัวว่าเราจะโดนจับนอกสถานที่

ผู้ตาย : เค้ากำลังเคลียให้

เพื่อน : ว่างแล้วโทรมาทีนะ

ผู้ตาย : โทรไลน์ไปคุยกับเพื่อน

จากนั้นในช่วงเวลา 14.14 น. ของวันนี้ ( 1 ก.ค. 67) เพื่อนรุ่นพี่คนที่คุยแชทเมื่อวานได้ส่งแชทมา

เพื่อน : ไม่ต้องมาแล้วนะ แม่เธอโทรมาคุยแล้ว พี่ต้องให้แม่เทอจัดการแล้วล่ะพี่ยุ่งไม่ได้


จากการสอบถามแม่ของผู้เสียชีวิตเบื้องต้นให้การว่า ผู้ตายเคยมีภรรยาและมีลูก 1 คนก่อนที่จะเลิกลากันไปเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา โดยปัญหาที่เลิกรากันนั้น เพราะมีคนมาบอกให้ลูกสะใภ้กับลูกชายตนเลิกกัน ทำให้ลูกชายตนเกิดความเครียด จากนั้นไม่นาน เมื่อปี 66 อดีตลูกสะใภ้ได้ไปแจ้งความกับตำรวจที่ สน.สายไหม ว่าลูกชายตนทำร้ายร่างกาย จนกระทั่งจู่ๆก็มีหมายจับของตำรวจมาที่ลูกชายตน ทำให้ลูกชายที่กำลังไม่สบายก็มีความเครียดมากขึ้น ก่อนที่ตนจะมาทราบจากตำรวจว่าลูกชายตนมากระโดดสะพานข้ามแม่น้ำฆ่าตัวตาย แต่ตนเชื่อว่าลูกตนน่าจะถูกทำร้ายหรือมีคนยุยงจากคนที่มากับลูกชายตน ซึ่งตนยังไม่รู้ว่าเป็นใคร ทางตำรวจเองจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกดังกล่าว ส่วนศพได้มอบให้มูลนิธิฯ นำส่งสถาบัน นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตและตรวจสอบร่องรอยว่ามีการถูกทำร้ายหรือไม่

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง