แมวไปอึหน้าบ้าน! เพื่อนบ้านฉุนยิงสองสามีภรรยาเสียชีวิตคารถจยย.

(3 ก.ย.67) พ.ต.ท.สุธน จิตตภูมิภักดี สารวัตรสอบสวนสภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิตใกล้เคียงวัดตลาดเหนือ ม.3 ต.บางแขยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี พ.ต.ท.เสฏฐพงศ์ ทรงกลด รองผกก.สส.สภ.เมืองปทุมธานี พ.ต.ต.สงค์กานต์ สมจิตร สว.สส.สภ.เมืองปทุมธานี แพทย์นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.เมืองปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู 

ที่เกิดเหตุหน้าบ้าน พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อนายณรงค์วิทย์ อายุ 45 ปี (คนขับขี่) ถูกยิงที่กกหูซ้าย และนางชาดา อายุ 55 ปี (คนซ้อน) ถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่หน้าผาก ทั้งสองศพนอนเสียชีวิตอยู่บนรถจักรยานยนต์ และหน้าบ้านพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 3 ปลอก นอกจากนี้กระสุนปืนยังไปถูกรถกระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ ที่กระจกประตูข้างคนขับ1 รูและกระจกแคป 1 รู 

จากการสอบถามนางบุญชื่น อายุ 54 ปี แม่ผู้ก่อเหตุ บอกว่า เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ล้างของจากนั้นก็ได้ยินเสียงปืน ตอนแรกนึกว่าเสียงประทัดได้ยินประมาณ 4-5 นัด ส่วนสามีนั่งอยู่ที่โต๊ะห้องโถง ก่อนที่ตนเองจะออกมาดูพบว่าลูกชายเดินเข้ามาภายในบ้าน โดยตนเองพยายามจะกอดเขาไว้ แต่ลูกชายได้เข้ามาเอารถจยย.ขี่ออกไปพร้อมอาวุธปืน 

โดยวานนี้ผู้ตายได้มาทะเลาะกับตนเองที่หน้าบ้านหาว่าตนเองไปดุว่าแมว (สัตว์เลี้ยง)ของคนตายทั้งที่ตนเองไม่ได้ยุ่งเกี่ยวเลย ไม่ว่าจะทำอะไรเขาก็ชอบมาบ่นว่า บางทีลูกชายนั่งกินหน้าบ้านก็จะด่าว่าหาว่าเกะกะ คาดว่าลูกชายคงรำคาญหรือโมโห โดยคนตายทะเลาะกับตนเองตั้งแต่ปี2549ตั้งแต่เริ่มปลูกบ้านเลยเพราะผู้ตายหาว่าตนเองไปล้ำเขตกันเคยมาทะเลาะบ่นด่าทุกวัน ลูกชายได้ยินมาทุกวันคาดว่าคงรำคาญ 

ส่วนนายวรเทพ อายุ 28 ปี ลูกชายผู้ตาย บอกว่า ตนเองเป็นลูกแม่ที่ถูกยิงตายส่วนผู้ชายนั้นเป็นพ่อเลี้ยงตนเอง ทำงานอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี และไม่รู้เหตุการณ์ที่เกิดเหตุน้าได้โทรศัพท์ไปบอกว่าแม่ถูกยิงตายจึงมาดูที่เกิดเหตุ

ทางด้านพ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุผู้เสียชีวิตมีการเลี้ยงแมวและแมวได้ไปถ่ายที่หน้าบ้านของผู้ก่อเหตุ โดยมีการราดน้ำมามันก็กระเด็นจนมีปากเสียงกัน โดยลูกชายอายุ 30 ปีเศษอารมณ์ร้อน เพราะถูกด่าบุพการีจึงโกรธแค้นแทนแม่ จึงชักอาวุธปืนออกมายิงก่อนจะหลบหนีไป คิดว่าจะได้ตัวผู้ก่อเหตุเร็วๆนี้

โดยปลอกกระสุนปืนที่พบเป็นปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.หลังเกิดเหตุหลบหนีไปมุ่งหน้าแยกบางคูวัด ซึ่งชุดสืบสวนระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ทั้งนี้ได้ให้แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ส่วนตัวผู้ก่อเหตุได้ให้ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดใช้เทคนิคตำรวจ เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีทางกฎหมาย