จับหนุ่มลูกครึ่งเมียนมา-ปากีสถาน ลวงเด็กชายวัย 9 ขวบ หวังอนาจารแต่เด็กไม่ยอม จึงบีบคอดับก่อนโยนลงน้ำ

จับหนุ่มลูกครึ่งเมียนมา-ปากีสถาน ลวงเด็กชายวัย 9 ขวบ หวังอนาจารแต่เด็กไม่ยอม จึงบีบคอดับก่อนโยนลงน้ำ

89423 ม.ค. 68 18:35   |     Tum1

จับหนุ่มลูกครึ่งเมียนมา-ปากีสถาน ลวงเด็กชายวัย 9 ขวบ หวังอนาจารแต่เด็กไม่ยอม ก่อนบีบคอแล้วโยนลงน้ำ เสียชีวิตสลด

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 มกราคม 2568 พ.ต.ต.จิรวัฒน์อ่องสา พงส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน , เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สมุทรปราการ , แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าตรวจสอบร่าง ด.ช.กาย (นามสมมุติ) วัย 9 ขวบ ที่เสียชีวิตอยู่ในบ่อน้ำ ภายในหมู่บ้านร้างแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ที่ 3 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ 

ที่เกิดเหตุ เป็นป่ารกร้าง มีป่าหญ้าปกคลุม ซึ่งต้องเดินจากถนนเข้าไปในป่าหญ้าประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่จึงพบร่างเด็กชายที่เสียชีวิต นอนคว่ำหน้าอยู่ในบ่อน้ำ สภาพสวมเสื้อเพียงตัวเดียว ไม่สวมกางเกง เจ้าหน้าที่จึงกั้นจุดเกิดเหตุ เพื่อไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้น


จากการสอบสวน ทราบว่า ช่วงค่ำวานนี้ (22 ม.ค.68) ผู้ปกครองของเด็กชายวัย 9 ขวบ ได้เดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ ว่าเด็กหายไปไม่ได้เข้าบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงลงพื้นที่หาข่าวพร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณบ้านของเด็กชาย จึงพบตัวผู้ต้องสงสัยที่อยู่กับเด็กเป็นคนสุดท้าย เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปที่ห้องพักของผู้ต้องสงสัย ที่เป็นหนุ่มชาวเมียนมาลูกครึ่งปากีสถาน อายุ 25 ปี มีอาชีพขายโรตี ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ 

เบื้องต้น ผู้ต้องหาบอกว่า มาส่งเด็กชายวัย 9 ขวบ ที่หน้าปากซอยเท่านั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงได้สอบสวนต่อ จนผู้ต้องหายอมรับ ว่าพาเด็กชายวัย 9 ขวบไปจริง โดยสารภาพว่า พาเด็กซ้อนท้าย จยย.และไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะพามายังจุดเกิดเหตุ จับน้องถอดกางเกงและพยายามล่วงละเมิดทางเพศ แต่เด็กมีการขัดขืน จึงได้บีบคอเด็กจนเด็กแน่นิ่งไป แล้วโยนเด็กลงบ่อน้ำดังกล่าว หลังจากก่อเหตุก็มีการกลับไปใช้ชีวิตปกติ



ด้าน พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ที่เดินทางลงตรวจสอบพื้นที่จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ซึ่งได้พบว่าเด็กได้ซ้อนท้ายผู้ก่อเหตุ มาจนถึงหน้าปากซอยหมู่บ้านร้าง ซึ่งเป็นที่สิ้นสุดของกล้อง จึงทำการไล่หาและประกอบกับนำตัวผู้ก่อเหตุมาสอบถาม จนยอมรับสารภาพดังกล่าว ส่วนเรื่องล่วงละเมิดทางเพศต้องรอตรวจพิสูจน์อีกครั้ง เบื้องต้น ผู้ต้องหามีความผิดทั้ง "พรากผู้เยาว์ ทั้งพาเด็กไปจากผู้ปกครอง และกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปีซึ่งเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย" และน่าจะโดนข้อหา "ปิดบังซ่อนเร้นศพ" ด้วย 

ก่อนที่ผู้ต้องหาจะพาเด็กซ้อนท้าย จยย.ไป ตัวผู้ก่อเหตุได้มีการดื่มสุรากับเพื่อน คาดว่า น่าจะเกิดจากความเมาด้วยส่วนหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ต้องทำการสอบสวนอีกครั้ง อาจจะโดยเมาด้วยและสันดานด้วย และผู้ก่อเหตุยังเคยถูกจัดดำเนินคดีเรื่องยาเสพติดไปเมื่อ 2 ปีก่อน เพิ่งลักลอบเข้าเมืองมาเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา


จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหา ไปค้นห้องพักภายในซอยจ่าเหวก เพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม โดยได้ยึดเสื้อผ้าและ จยย.ที่ใช้ในการก่อเหตุ และจังหวะที่พาผู้ต้องหาไปค้นห้อง ได้ถูกกลุ่มญาติของเด็กและคนที่ทราบข่าวที่เดินทางมามุงดู ต่างกรูเข้าไปทำร้ายหรือรุมประชาทัณฑ์ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องรีบกันออกมาก่อนที่จะรีบนำขึ้นรถกลับไปยัง สภ.พระสมุทรเจดีย์ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


 

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.สุภาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี แม่เด็กที่เสียชีวิต ซึ่งกำลังตั้งครรภ์แก่ ทราบว่า เมื่อวานประมาณ 16.00 - 17.00 น. ลูกกลับมาจากโรงเรียน แล้วมาเปลี่ยนเสื้อผ้า เล่นอยู่บริเวณบ้าน ตนออกมาดูอีกทีก็ตอนประมาณช่วง 18.00 น. เพราะว่าน้องไม่เคยออกไปไหนไกลและไม่เคยกลับบ้านเกินเวลานี้ และมีพยานเห็นว่าเด็กไปกับผู้ก่อเหตุ หลังจากตนไปแจ้งความ ได้ไปขอดูกล้องวงจรปิดที่ร้านสะดวกซื้อ แต่ไม่เจอลูกชายในภาพจากวงจรปิด กระทั่งเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ก่อเหตุและได้สารภาพแล้ว อ้างว่าตัวเองเมาแล้วเกิดอารมณ์ เลยจะข่มขืนน้องแต่น้องไม่ยอม ก่อนบีบคอน้องดังกล่าว 

ตนไม่ได้ไปดูศพลูก แต่คนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า ลูกของตนน่าจะถูกกระทำชำเราไปแล้ว เพราะว่ารูทวารมีบาดแผลและมีเลือดออก ซึ่งตนมีลูกทั้งหมด 3 คน คนที่อยู่ในท้องเป็นคนเล็กสุด ส่วนคนที่เสียชีวิตเป็นลูกชายคนโต - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน




TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง