แม่ค้าริมหาด อ.บ้านฉาง โอด! ข้อห้ามเยอะ ทำ นทท.หนีหาย ค้าขายขาดทุน
แม่ค้าริมหาด อ.บ้านฉาง โอด! ข้อห้ามเยอะ ทำ นทท.หนีหาย ค้าขายขาดทุน
แม่ค้าริมหาดพยูน-หาดน้ำริน อ.บ้านฉาง โอด! ข้อห้ามเยอะ ทำนักท่องเที่ยวหนีหาย ค้าขายขาดทุน
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบชายหาดพยูน-ชายหาดน้ำริน ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง หลังได้รับร้องเรียนจากพ่อค้าแม่ค้าริมชายหาด ว่ามีเจ้าหน้าที่นำป้ายประกาศห้ามทำลายทรัพยากรธรรมชาติชายหาด มาปักไว้จำนวนมากตลอดแนวชายหาด ทำนักท่องเที่ยวหนีหายไปหมด แม่ค้าร้านอาหาร รถเร่ขายอาหารทะเล และส้มตำริมชายหาดขายของไม่ได้ ประสบภาวะขาดทุน โดยพบปักป้ายตั้งแต่ทางลงชายหาดไปจนตลอดแนวทั้ง 2 หาด รวมทั้งติดป้ายตามต้นสน และเสาไฟส่องสว่างบริเวณชายหาด อาทิ
- ป้ายห้ามเปิดเพลงเสียงดัง
- ห้ามใช้เสียง
- ห้ามจำหน่ายสินค้าในที่หรือทางสาธารณะ
- ห้ามนำรถจอดรถทุกชนิดบริเวณชายหาด
- ห้ามก่อไฟปิ้งย่าง
- ห้ามประกอบอาหารบนชายหาดและทางสาธารณะ
- ห้ามให้อาหารสัตว์
- ห้ามจุดพลุ ประทัด
- ห้ามปล่อยโคมลอย
- ห้ามปัสสาวะและอุจจาระบริเวณชายหาด
แม่ค้าริมชายหาด ต่างบอกว่า เห็นเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบ้านฉาง มาปักป้ายห้ามตลอดแนวชายทั้ง 2 หาด มาร่วมจะ 5 เดือนแล้ว ปักถี่ยิบเรียงกันเป็นตับนับร้อยป้าย ทั้งติดเสาไฟและต้นสนที่ขึ้นอยู่บริเวณชายหาด ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ข้อห้ามบางข้อควรจะอนุโลมบ้าง โดยเฉพาะห้ามปิ้งย่าง เพราะนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นครอบครัว เตรียมอุปกรณ์มาเพื่อประกอบอาหารปิ้งย่าง มาเห็นป้ายก็เผ่นหนี ย้ายไปชายหาดอื่นหมด
ปัจจุบันพบว่า ชายหาดทั้ง 2 หาดซบเซามาก แม่ค้าขายอาหารมขายของไม่ได้เลย บางวันขายได้วันละ 200 บาท จากเมื่อก่อนที่มีการอนุญาตให้ปิ้งย่างได้มีรายได้วันละ 2,000 บาท อยากให้ทางเทศบาลตำบลบ้านฉาง เจ้าของพื้นที่ได้ดูความเหมาะสมและอนุโลมด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวกลับมาคึกคักเหมือนเดิม
ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นหากปล่อยไว้นาน จะทำให้นักท่องเที่ยวหนีหายไปถาวร ซึ่งยังไม่รวมปัญหาอีกหลายเรื่อง ที่นักท่องเที่ยวเข้านั่งรับประทานอาหารและพักผ่อน รวมทั้งเที่ยวชมชายหาดที่ต้องเจอ ทั้งเรื่องห้องน้ำที่ไม่สามารถใช้ได้ รวมถึงถังขยะไม่กระจายตามชายหาด เพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ทำให้มีการทิ้งขยะกระจายเกลื่อนทั่วชายหาดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม มีรายงานด้วยว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปเที่ยวบริเวณชายหาด พบป้ายข้อห้ามบางป้ายมีการเขียนข้อความ ที่ไม่ใช่ลักษณะเป็นทางการ และข้อหาการเปรียบเทียบปรับ เป็นข้อความคล้ายเชิงประชด เช่น ป้ายห้ามใช้เสียง ระบุ "การเปิดเพลงเสียงดังจนได้ยินไปถึงสามบ้านแปดบ้าน ถือเป็นการกระทำที่สร้างความเดือดร้อนและรบกวนผู้อื่น" และ "ผู้ส่งเสียง ทำให้ทำให้เกิดเสียง และกระทำความอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจ หรือเดือดร้อน" เป็นต้น