ปชน.เดินเกมโรยเกลือ จี้ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ “เทมส์ วัลลีย์”

(28 มี.ค. 68) นาย ธีรัจชัย พันธุมาศ นาย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร และ นาย เลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล ส.ส. พรรคประชาชน ได้มายื่นหนังสือที่กรมที่ดิน เพื่อขอให้มีการตรวจสอบชี้แจง การออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินของโรงแรม เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ หลังได้นำขึ้นมาอภิปรายในสภาว่าการออกเอกสารสิทธิ์ของของโฉนดดังกล่าวทั้ง 4 แปลง อยู่ในพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง ซึ่งต่อมามีการออกเอกสารสิทธิ์ที่คาดว่าน่าจะผิดกฎหมาย 

นาย ธีรัจชัย กล่าวว่า ในวันอภิปรายนายวราวุธทศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ตอบการอภิปรายว่า มีประกาศคณะปฏิวัติปี 2515 ได้ทำการยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีปี 2514 ซึ่งทำให้พื้นที่ดินบริเวณดังกล่าว ไม่เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำแล้ว แต่ตนขอชี้แจงว่ามติคณะรัฐมนตรี ได้กำหนดให้จัดตั้งนิคมสร้างตนเอง โดยนิคมสร้างตนเองลำตะคองกันพื้นที่ให้เป็นป่าต้นน้ำทั้งหมด 3 แห่งด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันยังคงบังคับใช้อยู่

ซึ่งประกาศคณะปฏิวัติปี 2515 เป็นเพียงแค่การจัดตั้งนิคมไม่ได้ยกเลิกประกาศพื้นที่แหล่งต้นน้ำ ต่อมาปี 2537 กรมที่ดินได้ทำการโต้แย้งหลังจากมีการประชุมคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ได้อนุญาตออกเอกสารสิทธิ์ให้กับราษฎรที่ทำกินในพื้นที่ รายละไม่เกิน 50 ไร่ ซึ่งเอกสารสิทธิ์ในสมัยนั้น น.ค. 3 เป็นการอนุญาตให้ครอบครองแต่ไม่ได้ให้กรรมสิทธิ์ ดังนั้นจุดนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำอยู่ และหากไปดูระเบียบของกรมที่ดิน 2543 มีกำหนดไว้ว่าห้ามออกเอกสารสิทธิ์โฉนดที่ดินทับลำธารป่าเขา ประเด็นที่ทางตนอยากให้กรมที่ดินตรวจสอบคือ การที่กรมที่ดินออกมาแถลงว่า ไม่ได้มีการออกโฉนดที่ดินในบริเวณดังกล่าว แม้แต่พื้นที่เดียวนั้น เป็นการให้คำตอบที่ไม่ชัดเจน ซึ่งตนมายื่นหนังสือในวันนี้ เพื่อยื่นต่ออธิบดีกรมที่ดิน ขอให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะตนบอกว่าสิ่งที่กรมที่ดินแถลงนั้นมีความคลาดเคลื่อน ซึ่งหากพบความผิดปกติขอให้ทำการเพิกถอนตามกฎหมาย โดยตนได้ตั้งข้อสังเกตว่า พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นการครอบครองของคนที่ทำธุรกิจได้อย่างไร 

นาย ธีรัจชัย ยืนยันว่า คำสั่งของคณะปฏิวัติในปี 2515 ไม่ได้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี 2514 ซึ่งคำสั่งดังกล่าวมีอำนาจเทียบเท่ากับประกาศราชกิจฎีกายืนยันว่าไม่มีการยกเลิก นาย ธีรัจชัย ได้กล่าวว่า ปี 2567 เคยมี ปปช. ทำการชี้มูลคนที่ครอบครองเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ใกล้เคียงกันและอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำ ซึ่งพื้นที่โรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ อยู่ในก้อนที่ 3 ปปช. ได้ชี้มูลว่า มีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ เป็นการออกโฉนดในพื้นที่ต้นน้ำลำธาร และได้สั่งดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 

นาย ธีรัจชัย กล่าวเสริมว่า การใช้ที่ดินในเขตนิคมสร้างตนเอง ต้องขออนุญาตจากอธิบดีกรม พม. 

แต่โรงแรมนี้ได้ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2516 แต่นายวราวุธ อ้างว่ามีการเปลี่ยนวัตถุประสงค์ในการใช้ประโยชน์ที่ดินในปี 2562 จึงขอตั้งคำถามว่านับตั้งแต่ปีที่สร้างโรงแรม 2559 - 2562 เป็นไปโดยชอบตามกฎหมายหรือไม่ และการเข้าไปครอบครองใช้ประโยชน์ที่ดินใช้เอกสารหรือการขออนุญาตแบบใด แต่ถ้าหากดูตามกฎหมายมีข้อยุติได้ว่าที่โรงแรมดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ป่าต้นน้ำลำธาร ซึ่งถ้าหากจะพิสูจน์ก็ทำได้ไม่ยาก โดยหลังจากนี้ตนจะมาตามเรื่องเป็นระยะๆ 

นาย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร กล่าวเพิ่มเติมว่า มติคณะรัฐมนตรี 2514 ยังมีผลบังคับใช้จนถึงปัจจุบัน ถ้ายังไม่มีคำสั่งใดมายกเลิก หมายความว่า พื้นที่ต้นน้ำลำธารยังคงอยู่ โดยอ้างถึงมติคณะกรรมาธิการปปช. 2567 ที่ทำการตรวจสอบที่ดินมีการเรียกแผนที่ที่ดินดังกล่าว และ พรบ.ประมวลกฎหมายการใช้ที่ดิน 2497 ฉบับที่ 43 ข้อที่ 14 (5) เขียนว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นภูเขาต้นน้ำลำธารออกโฉนดไม่ได้ แล้วตนขอถามว่า โฉนดที่ดินของโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ ได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่