นายกฯแถลงเอง ทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้าครบวงจร

นายกฯแถลงเอง ทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้าครบวงจร

17718 มี.ค. 68 16:24   |     AdminNews

นายกฯอิ๊งค์ เอาจริงปราบบุหรี่ไฟฟ้า หลังทลายโกดังใหญ่พื้นที่นนทบุรีห่างโรงพักไม่ถึง 1 กิโลเมตร ย้ำของกลางนับชิ้นแล้ว ทำลายหมด ด้านตำรวจรับสอดส่องไม่ทั่วถึง เหตุคนร้ายย้ายของกลางหนีตำรวจทุกครั้ง ปฏิเสธเจ้าของโกดังเป็นอดีตเมียตำรวจ

18 มี.ค.68 ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยกเลิกการแถลงข่าว โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แถลงข่าวแทน ก่อนเดินทางด่วนไปยัง โกดังแห่งหนึ่งพื้นที่ ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อแถลงข่าวผลการจับกุม“บุหรี่ไฟฟ้า” โดยพบว่าโกดังดังกล่าวอยู่ห่างจากสถานีตำรวจภูธรบางบัวทองเพียง 900 เมตร 


โดยการแถลงข่าววันนี้ มาผู้แถลงข่าวประกอบด้วยนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจโท สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพลตำรวจตรีโชติวัฒน์ เหลืองวิไล ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล


โดยพลตำรวจโท สำราญ กล่าวว่า วันนี้ เป็นปฏิบัติการของกองบัญชาการตำรวจนครบาลร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ขอศาล อนุมัติหมายค้นพื้นที่ 10 จุด ที่สืบทราบว่าเป็นแหล่งเก็บและขายบุหรี่ไฟฟ้า-น้ำยา โดยยึดของกลางทั้งหมด 260,000 ชิ้น มูลค่าประมาณ 130 ล้านบาท เป็นการปฏิบัติงานต่อเนื่องหลังรับนโยบายจากรัฐบาล โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ทุกหน่วยทำงานบูรณาการร่วมกัน โดยภาพรวมผลปฏิบัติการทั้งหมดสามารถยึดของกลางได้กว่า 800,000 ชิ้นมูลค่า กว่า 200 ล้านบาท ซึ่งครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุด และมีมูลค่าที่สูงมาก เพราะของที่พบในโกดังแห่งนี้เป็นสินค้าพรีเมี่ยม โดยประเมินมูลค่าต่อชิ้นอยู่ที่ประมาณ 500 บาท


ขณะที่นางสาวแพทองธาร ขอชื่นชมตำรวจที่ได้ประสานงานกันเป็นอย่างดี จนทำให้สามารถจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าลอตใหญ่ได้ โดยสิ่งที่รัฐบาลกังวล คือปริมาณของสารเสพติดที่แฝงอยู่ในบุหรี่ไฟฟ้าจะมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากมีการนำน้ำยาไปผสมกับยาเค และในหลายเคสส่งผลถึงชีวิต โดยบุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นยาเสพติดที่จะติดในระยะยาว เลิกยาก 


ด้านพลตำรวจตรีนพศิลป์ ระบุว่า จากการสืบสวนของตำรวจนครบาล ร่วมกับตำรวจภูธรทุกภาค โดยมีการจับกุมทั่วประเทศ และมีการขายผ่านทางออนไลน์อย่างแพร่หลาย ซึ่งเคสนี้เป็นการล่อซื้อผ่านทางเว็บไซต์ และกลุ่ม LINE จากนั้นได้มีการสะกดรอยตามว่ามีการจำหน่ายสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าที่ใดบ้าง จนมาพบว่ามีจุดพักสินค้า จนขยายผลว่ามีการรับสินค้ามาจากเส้นทางใด ซึ่งพบว่ามีความเชื่อมโยงกับที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ที่เพิ่งมีการตรวจค้นที่โกดังด่านศุลกากรแหลมฉบัง โดยหลังจากนี้จะมีการสืบสวนขยายผลว่าใครเป็นคนนำสินค้าเข้ามา 


ขณะเดียวกันในสถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่แพ็คสินค้า จากการสั่งของผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ก่อนมีการจัดส่งทางไปรษณีย์ ขณะเดียวกันที่โกดังแห่งนี้ยังมีตู้สำหรับโชว์สินค้าสำหรับผู้ที่จะนำไปจำหน่ายรายย่อยได้นำไปตั้งโชว์สินค้าให้กับลูกค้าด้วย ถือว่าเป็นสถานที่ครบวงจร นอกจากนี้จะมีการขยายผลไปถึงความผิดฐานฟอกเงินต่อไปอีกด้วย


ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าโกดังแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง พลตำรวจตรีนพศิลป์ บอกว่า พื้นที่ของโกดังแห่งนี้ได้มีการแจ้งต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แล้ว จนมีการประสานงานร่วมกัน และพบว่าโกดังดังกล่าวเป็นโกดังปิด ซึ่งในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีมีหลายโกดัง การตรวจสอบของตำรวจอาจจะไม่ทั่วถึง ซึ่งยังพบว่าพฤติการณ์ผู้ต้องหาจะย้ายสินค้าหนีหากมีตำรวจเข้ามาตรวจสอบ


ในส่วนของปัญหาข้อกฎหมาย นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องของกฎหมายต้องมีความชัดเจน ซึ่งต้องใช้เวลา ตอนนี้ทางรัฐบาลของมุ่งเน้นไปในการจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ และต้องค่อยค่อยสื่อสารไปยังประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ว่า บุหรี่ไฟฟ้าคือ สิ่งผิดกฎหมาย จึงขอฝากไปยังกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงอุดมศึกษาฯ ที่ต้องเน้นย้ำในเรื่องการให้ความรู้


เมื่อถามว่า เกิดจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่หรือไม่โดยเฉพาะในส่วนของกรมศุลกากร ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ด่านแรกในการตรวจสอบสินค้า นายกรัฐมนตรี บอกว่า ต่อจากนี้รัฐบาลสั่งเข้มงวดในเรื่องนี้ ซึ่งเชื่อว่าทุกภาคส่วนทราบตรงกันว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลเอาจริงเอาจัง แล้วจะเห็นได้ว่าสถานการณ์กำลังจะดีขึ้น และหลังจากนี้ต้องมีความเข้มงวดเพิ่มมากขึ้น


ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ามีความปลัดใจหรือไม่ว่าโกดังแห่งนี้อยู่ใกล้กับสถานีตำรวจนั้น นายกรัฐมนตรีบอกว่าต้องเด็ดขาดในเรื่องนี้ซึ่งต้องไปตรวจสอบว่า สินค้าเหล่านี้นำเข้ามาอย่างไร ตำรวจก็กำลังตรวจสอบอยู่ 


นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันที่รัฐบาลเริ่ม เกิดความสับสนเรื่องของกฎหมายและนโยบายต่างๆ เพราะช่วงแรกไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่วันนี้มีความชัดเจนแล้ว ทุกอย่างก็เดินหน้าได้ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของตัวเองในฐานะนายกรัฐมนตรีที่จะต้องสร้างความชัดเจนในเรื่องนี้


มีข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีโกดังที่ใหญ่กว่าโกดังแห่งนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี บอกว่า ตอนนี้มีข้อมูลเข้ามาจำนวนมาก แต่ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป เพราะข้อมูลต่างๆตำรวจเป็นคนเก็บรวบรวม ซึ่งตนเองไม่ทราบ 


หลังจากนี้ขณะที่พลตำรวจโทสำราญ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้ ของกลางเหล่านี้จะถูกส่งไปทำลาย โดยมีขั้นตอนวงรอบกำหนดอยู่เหมือนกับการทำลายยาเสพติด โดยวันที่ทำลายจะมีการเชิญสื่อมวลชนไปด้วย 


ก่อนที่นายกรัฐมนตรี กล่าวเสริมว่า ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ว่าจะมีใครเก็บไป เพราะตำรวจได้นับของกลางทุกอย่างไว้ทั้งหมดแล้ว

 

ส่วนที่ตำรวจมีข้อมูลหรือไม่ว่า โกดังแห่งนี้เป็นของภรรยาตำรวจ พลตำรวจตรีนพศิลป์ ระบุว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด โกดังดังกล่าวเป็นโกดังที่ปล่อยเช่า มีเจ้าของเป็นผู้หญิง เป็นอดีตภรรยาตำรวจ แต่ผู้ต้องหาคือ ผู้ที่มาเช่า ซึ่งผู้ให้เช่าไม่ทราบ


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง