เผาพริกเผาเกลือประท้วง ยื่น 4 ข้อแก้ “ปลาหมอคางดำ”
เผาพริกเผาเกลือประท้วง ยื่น 4 ข้อแก้ “ปลาหมอคางดำ”

เกษตรกร 19 จังหวัด ขนปลาหมอคางดำ 2 ตัน ประท้วงรัฐบาลไม่ยอมแก้ปัญหา เทกระจาดปลาก่อนจุดไฟเผาพริกเผาเกลือ พร้อมยืน 4 ข้อเรียกร้องจัดการหายนะ
(18 มี.ค. 68) บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลประตู 5 กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด ประมาณ 1,000 คน ได้ปักหลักชุมนุมประท้วงให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำโดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินเท้าจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มายังทำเนียบรัฐบาลโดยยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ดังนี้
ข้อที่ 1 ตั้งคณะกรรมการอิสระ กลับไปหาผู้กระทำความผิดกรณีปลาหมอคางดำระบาด
ข้อที่ 2 กำจัดปัญหาปลาหมอคางดำภายใน 1 ปี
ข้อที่ 3 ประกาศเขตภัยพิบัติ 19 จังหวัด
ข้อที่ 4 หน่วยงานรัฐจะต้องเป็นผู้แทนเกษตรกรผู้เสียหายดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเพื่อให้เกิดการชดใช้และเยียวยาเกษตรกร
นาย ปัญญา เกษตรกรวังกุ้ง จากจังหวัดสมุทรสงคราม ตัวแทนเกษตรกรระบุว่า แนะนำเกษตรกรผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 19 จังหวัด เพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้ออกมารับหนังสือ หรือ มอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต้องออกมารับหนังสือ หากไม่มาด้วยตนเอง จะเทปลาหมอคางดำที่เตรียมมา จำนวน 2 ตัน ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ว่ารัฐบาลเพิกเฉยต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ด้าน นางผิณ เกษตรกรนากุ้ง จังหวัดสมุทรปราการอายุ 87 ปี เล่าว่า ตนเองเสียหายจากปลาหมอคางดำมาเป็นระยะเวลา 5-6 ปี ครอบครัวของตนนั้นจะทำวังกุ้ง เป็นระยะเวลามามากกว่า 40 ปีแล้ว จากปัญหาปลาหมอคางดำระบาด ทำให้ต้องหมดเนื้อหมดตัว ไม่มีอาชีพ เป็นหนี้เป็นสิน รถจะต้องนำไปจำนำ โดยล่าสุดนี้ลงหอยไปกว่า 200,000 บาท เสียหายทั้งหมดจนปัจจุบันต้องไปรับจ้างตัดหัวปลา และนำเศษปลาไปขาย ชีวิตลำบาก เป็นหนี้เป็นสิน แต่ที่ผ่านมารัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่เคยเข้าไปชดเชยเยียวยาแต่อย่างไร เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า อยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาอย่างไร
นางผิณ เล่าด้วยน้ำตาว่า อยากให้รัฐบาลช่วยเยียวยาความเสียหายเพราะตอนนี้ไม่มีเงิน และไม่รู้จะแก้ไขปัญหาอย่างไร
เวลาประมาณ 11:00 น. นาย บัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง และ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้ออกมารับหนังสือ เครือข่ายเกษตรกร แต่กลุ่มเกษตรกรได้ยืนยันว่า
ให้นายกรัฐมนตรีและนายภูมิธรรม เวชยชัยต้องเป็นคนมารับหนังสือเท่านั้น โดยในช่วงระหว่างที่อธิบดีกรมประมงเดินผ่านกลุ่มเกษตรกร ถูกต่อว่า ว่าไม่ สามารถแก้ไขปัญหาได้
ต่อมาเวลาประมาณ 12:00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินข้ามถนนมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่ด้านหน้าประตูโดยประกาศ จะเทปลาหมอคางดำในเวลา 14:00 น ทำให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลนำรถเครื่องขยายเสียง มาประกาศ ห้ามการชุมนุมสาธารณะในรัศมีไม่เกิน 50 เมตรรอบทำเนียบรัฐบาลตามมาตรา 7 วรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558
บรรยากาศการชุมนุม มีการโต้ไปมา ระหว่าง เกษตรกรผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ที่ประกาศ เรื่อง กฎหมายการชุมนุม กระทั่ง เวลา 12:40 น. กลุ่ม เกษตรกรได้มีการเทปลาหมอคางดำจาก รถกระบะ 2 คัน จำนวน 2 ตัน และจุดเตาเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่ทำให้เกิดการระบาดของปลาหมอคางดำ เพื่อเป็นการแสดงออกว่ารัฐบาลและกฎหมายไม่สามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้ จึงใช้วิธีสาปแช่งแทน
ต่อมา เวลา 13.00 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชนเดินทางมาเป็นตัวแทนฝ่ายค้านรับหนังสือจากเกษตรกรหลังจากที่ไม่มีตัวแทนจากฝั่งของรัฐบาลมารับหนังสือตามข้อเรียกร้อง และให้สัมภาษณ์ว่า ปัญหาปลาหมอคางดำสามารถอยู่ได้ทั้งน้ำเค็ม น้ำจืด และน้ำกร่อย แม้กระทั่งน้ำเสีย ซึ่งส่งผลกระทบทำลายอาชีพประมง ทั้งผู้เลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลา ซึ่งการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาของรัฐบาลนั้นประชาชนไม่เห็นถึงความจริงใจ ซึ่งการมาของกลุ่มเกษตรกรครั้งนี้ เป็นการสะท้อนถึงความเดือดร้อนอย่างตรงไปตรงมา เพราะพวกเขาสิ้นเนื้อประดาตัว และที่ผ่านมากลุ่มเกษตรกรถูกฟ้องร้อง ถูกดำเนินคดีจากเอกชนซึ่งไม่เป็นผลดี หากรัฐบาลยังไม่เข้ามาทำการคลี่คลาย ทำให้เกษตรกรต้องกลายเป็นผู้ต้องหา
สำหรับการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลในช่วงระยะเวลา 1 ปีกว่า นายวิโรจน์ มองว่า จากรายงานของคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบ จากการนำเข้าปลาหมอคางดำ สามารถชี้ถึงตัวผู้ต้องสงสัยได้ ซึ่งเป็นบริษัทหรือนิติบุคคลแห่งหนึ่ง โดยตามหน้าที่นั้นรัฐบาลต้องนำข้อมูลนี้ไปทำการขยายผล ตรวจสอบซ้ำ แต่รัฐบาลกับนิ่งเฉย "นั่งขดนอนคู้ทำเป็นมองไม่เห็น ทำเหมือนปัญหานี้ไม่มีอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าเป็นการเกรงใจบริษัท บริษัทนั้นบริษัทนี้หรือเกรงใจใคร ซึ่งทำให้ปัญหามันเรื้อรังและมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ประชาชนก็เดือดร้อน สิ้นเนื้อประดาตัว แล้วจะปล่อยให้คนทำผิดลอยนวล ปลาหมอคางดำอยู่ดีๆจะว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรมาขึ้นที่อ่าวไทยเองได้หรือ หรืออยู่ดีๆมีพระสังข์เรียกเนื้อเรียกปลาหรือเรียกมันมาโผล่ที่บ่อกุ้งของประชาชน มันเป็นเช่นนั้นจริงๆหรือ"
นายวิโรจน์ แสดงความเห็นต่อว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกลับมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าสถานการณ์ปลาหมอคางดำนั้นคลี่คลายแล้ว ไม่มีปัญหานี้แล้ว เหลือปลาหมอคางดำเพียงแค่ตัวเดียว ซึ่งตนมองว่าเป็นการทำร้ายจิตใจของประชาชน เปรียบเสมือนกับว่า ไปตรวจสอบการขายบริการแล้วไม่พบ ไปตรวจรถเมล์ไม่เจอควันดำ ไปตรวจลอตเตอรี่ไม่เจอสลากกินแบ่งขายเกินราคา ตราบใดที่รัฐบาลยังไม่ยอมรับปัญหานี้ว่าเกิดขึ้นจริงและมีมนุษย์สร้างปัญหานี้ขึ้นมาจริง และไม่พยายามที่จะเอาผิดเรียกหาความรับผิดชอบ "เชื่อเถอะนางสาวแพรทอง ชินวัตรรู้อยู่แก่ใจ เพราะรายงานของอนุกรรมการได้ส่งให้กับรัฐบาลไปแล้ว ยกเว้นว่าอ่านไม่ออก หรือถ้าไม่อ่านก็เชื่อว่าพ่อของเขาอ่านแน่นอน เพราะพ่อเขาเป็นคนช่างเรียนรู้ แล้วเขาก็สามารถไปถามกับพ่อเขาเพราะเขาเป็นคนไม่อ่านอยู่แล้ว แต่พ่อเขาอ่านแน่นอน ก็ให้พ่อเป็นคนเล่าให้ฟังว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งง่ายมาก"
นายวิโรจน์ กล่าวว่า การที่เกษตรกรมายื่นหนังสือในครั้งนี้เพื่อเรียกร้องให้มีตัวแทนของรัฐบาลมารับหรือแสดงถึงการใส่ใจที่จะแก้ปัญหา ซึ่งพวกเขาต้องการให้รัฐบาลรับปากในการแก้ไขปัญหา สุดท้ายปล่อยให้ประชาชนแบกความทุกข์มาแล้วก็แบกความทุกข์นั้นกลับไป ส่วนตนเองในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน จะเป็นผู้รับหนังสือแทน ส่วนจะนำไปอภิปรายนายกรัฐมนตรีในวันที่ 24 มีนาคมนี้หรือไม่นั้น ขอให้รอติดตามเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งจะต้องใช้กลไกในรัฐสภาในการจัดการกับนายกที่ไม่รู้สี่รู้แปด ซึ่งวันนี้ยิ่งชัดเจน ซึ่งตามจริงแล้ววันนี้ "นายกรัฐมนตรีควรนำถุงพลาสติกมาใส่ปลากลับไปกินสัก 10 ตัว ก็ยังไม่มาเลย พอตัวเองเท้าไม่ติดดิน ซึ่งตนไม่รู้ว่ารองเท้าไข่มุกที่ใส่ไว้ มันลอยจากพื้นหรืออย่างไร ขอให้เท้าติดดินบ้างได้ไหม เอาปลาหมอไปกินบ้างได้ไหมจะได้รู้ว่าอร่อยหรือไม่อร่อย และย้อนถามว่าเพราะรองเท้าไข่มุกคู่ละ 50,000 บาท ใส่แล้วลอยจากพื้น เท้านี่แดงติดพื้นไม่ได้"
นายวิโรจน์ ได้ย้อนถามรัฐบาลกรณีที่ไม่ได้ส่งตัวแทนไปรับหนังสือตามที่เกษตรกรเรียกร้อง "ตกลงแล้วพรรคเพื่อไทย หัวใจคืออะไร คือประชาชน หรือทักษิณ ตนขอให้มองย้อนกลับไปที่การเลือกตั้งปี 2566 คุณไปไหว้ตามบ่อกุ้งบ่อปลาขอคะแนนเสียงเขา แต่ตอนนี้เขาเดือดร้อนเขาเอาปลามาให้ แต่จะมายังไม่มี สรุปแล้วหัวใจพรรคเพื่อไทยคือทักษิณใช่หรือไม่"
สำหรับข้อเรียกร้องเกษตรกร 4 ข้อที่เสนอให้ประกาศเขตพื้นที่ระบาดปลาหมอคางดำเป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัตินั้น นายวิโรจน์กล่าวว่า การประกาศเขตภัยพิบัติเป็นจุดเริ่มต้นที่แสดงให้เห็นว่ามันมีปัญหาเกิดขึ้นจริง ซึ่งรัฐบาลควรจะต้องยอมรับปัญหาและประกาศเขตภัยพิบัติเพื่อเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อให้ประชาชนได้รับการแก้ไขเยียวยา ไม่ได้ใช้งบประมาณมากมาย โดยไม่ได้ใช้งบประมาณมากมาย แต่ทำให้เกษตรกรสามารถฟื้นคืนและได้รับเงินชดเชยได้บ้าง และควรเร่งรัดเอาผิดคนที่นำเอาปลาหมอคางดำเข้ามาในประเทศไทย
"คุณจะปล่อยปละละเลย หรือจะเอาปลาไปอยู่ชั้น 14 หรือเปล่าล่ะ เพราะตอนนี้มันอยู่ในบ่อกุ้งบ่อปลาของประชาชน ให้ขนไปอยู่ชั้น 14 ได้ไหม หรือจะให้ขนไปอยู่ในบึงบ้านคุณหรือไม่ล่ะ เห็นว่ามีบึงใหญ่โต เอาไปปล่อยสก 10-20 ตัว เพื่อดูการขยายพันธุ์ "
นายวิโรจน์ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลแสดงความจริงใจ ด้วยการใช้งบประมาณในการเยียวยาประชาชนจากการประกาศเขตภัยพิบัติ และสองรัฐบาลจะต้องเป็นผู้แทนผู้เสียหายดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิด แต่ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ยอมรับความจริง เพราะมีนายทุนบางคนต้องการทำให้เรื่องนี้เงียบ ซึ่งรัฐบาลเกรงใจนายทุนหลายกลุ่มหรือไม่ ซึ่งถ้าหากจะเกรงใจในเรื่องส่วนตัวก็เป็นเรื่องของคุณ แต่นี่เป็นเรื่องที่มีประโยชน์และมีโทษต่อสาธารณะรัฐบาลจำเป็นต้องเคียงข้างประชาชนแสดงความเป็นมืออาชีพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: เกษตรกร 19 จังหวัดชุมนุม เรียกร้องนายกฯ จัดการ “ปลาหมอคางดำ”
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สุชาติ ส่งทนายยื่นฟ้อง 2 สส. หมิ่นประมาท เรียกเงิน 50 ล้านบาท ปมซื้อตึก7,000 ล้าน เอื้อผลประโยชน์พวกพ้อง
