"ภูมิธรรม"ขอฝ่ายค้านอย่าโจมตี นายกฯ ปมไปงาน ตปท. ถ้าไม่ไปไทยก็เสียโอกาส

"ภูมิธรรม"ขอฝ่ายค้านอย่าโจมตี นายกฯ ปมไปงาน ตปท. ถ้าไม่ไปไทยก็เสียโอกาส

45823 ม.ค. 68 18:54   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

"ภูมิธรรม"ไม่อยากให้เอาเรื่องเล็กน้อยโจมตีนายกฯ ประเทศมีหลายปัญหา ส่วนเรื่องฝุ่นทุกฝ่ายมีมาตรการแก้ไข ชวนมาช่วยกันเสนอแนวคิดแก้ไข

(23ม.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีปัญหาฝุ่น"PM2.5"ทางกองทัพสามารถช่วยอย่างไรได้บ้างว่า จริง ๆ ต้องยอมรับและเข้าใจเรื่องฝุ่น"PM2.5"เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลายประเทศมาก วันนี้มีขึ้นจุดแดง 160 จุด ซึ่งจากการที่ตนเองไปประชุมที่ประเทศเวียดนามเมื่อประมาณ 2 - 3 สัปดาห์ก่อน พบว่า ที่เวียดนาม มีถึง 300 - 400 จุด และประเทศลาวก็บอกเหมือนกัน ดังนั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย 


นายภูมิธรรม กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้บริเวณชายแดนไทย ตนเองยังได้ประชุมเขตตรวจราชการที่ 10 , 15 , 16 ทางฝั่งเหนือและอีสาน ได้รับรายงานว่าจุดที่สร้างฝุ่น"PM2.5"หรือการเผา พบว่าการเผาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นตนเองจึงได้กำชับไปกับผู้ว่าราชการ 8 จังหวัดภาคเหนือและผู้ว่าราชการ 5 จังหวัดภาคอีสานที่ตนดูแลอยู่ ให้ดำเนินการตรงนี้อย่างจริงจัง ซึ่งจะมาสอดรับกับนโยบายปิดซีลชายแดน ด้วย 


นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนใหญ่ที่เห็นจุดฮอตสปอตอยู่ที่นอกชายแดนในดินแดนของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งดูได้จากดาวเทียม ดังนั้นต้องใช้มาตรการของกระทรวงการต่างประเทศในการดำเนินการ ส่วนภายในไทยก็มีปัญหาอยู่บ้าง อย่างกรณีที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้ การตัดอ้อย โดยรัฐบาลพยายามใช้มาตรการการตัดอ้อยสด จ่ายเงินเพิ่มเติมให้ เมื่อมาประท้วงก็ต้องมีมาตรการพูดคุยกัน แต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนการปฏิบัติของชาวไร่อ้อยบางส่วนได้ ตรงนี้ต้องดำเนินการพูดคุยต่อไป 


นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ก็พยามใช้มาตรการเฉพาะหน้าหลายเรื่อง ตั้งแต่การห้ามรถบรรทุกใหญ่เข้ามา การให้ปิดโรงเรียน และพยามดูเงื่อนไขหรือปัจจัยต่างๆ ส่วนทหารนั้นได้สั่งการไปแล้วพร้อมสนับสนุนเรื่องเครื่องมือ เช่น โดรน 


นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า งบประมาณที่จัดการเรื่องไฟป่าเดิมอยู่ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 400 กว่าล้านบาท ปัจจุบันได้กระจายไปที่องค์กรปกครองท้องถิ่นที่จะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบได้ แต่งบของส่วนกลางอาจยังไม่มากพอ ก็ต้องมาคุยกัน โดยตอนนี้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยและได้ประกาศ มาตรการดูแลไปแล้วดังนั้นจะต้องดำเนินการอย่างเต็มที่ ทั้งการเลือกยุทโธปกรณ์หรือเลือกใช้กำลังพลมาช่วยภัยพิบัติโดยเฉพาะเหตุไฟป่าซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ 


"ส่วนกระทรวงเกษตรฯ ก็ทำเรื่องของฝนหลวงทำให้บรรยากาศเปลี่ยนแปลง กระทรวงกลาโหมก็มีส่วนช่วยเข้าไปดำเนินการอยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องคุยกันในระดับนานาประเทศ ส่วนในประเทศต้องบูรณาการร่วมกัน เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและกำลังดำเนินการ" นายภูมิธรรม กล่าว 


เมื่อถามกรณีฝ่ายค้านออกมาโจมตีรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีเรื่องการแก้ปัญหาฝุ่น โดยมีการเชื่อมโยงกับการที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปประชุมที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นายภูมิธรรม มองว่า ไม่อยากให้มองเช่นนั้น ต้องแยกส่วนเรื่องของประเทศไม่ได้มีเรื่องฝุ่นอย่างเดียว ยังมีเรื่องเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการไปประชุมที่ดาวอส เป็นการประชุมของคนทั้งโลกทุกประเทศในโลกเพื่อหามาตรการร่วมกันที่จะดำเนินการทางเศรษฐกิจ ถ้าไม่ไปไทยก็เสียโอกาส และไม่ทันต่อการก้าวทันการเปลี่ยนแปลงแก้ไขปัญหาได้ 


"ไม่อยากให้เอาเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มาโจมตีนายกรัฐมนตรี ส่วนเรื่องฝุ่นอยากให้มาเสนอแนะช่วยคิดว่าทางที่แก้ได้จริง ๆ คืออะไร ถ้าสามารถทำให้สาธารณชนเห็นว่านั่นคือทางออก รัฐบาลก็ยินดีทำอยู่แล้ว ไม่อยากให้เอาเกมการเมืองมาปนกับการแก้ไขปัญหาของประชาชน" นายภูมิธรรม กล่าว


เมื่อถามว่ารัฐบาลควรออกคำสั่งที่เด็ดขาดมากกว่าขอความร่วมมือหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า อันนี้เป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนอยู่แล้ว เริ่มจากปัญหาที่เบา ขณะนี้หลายเรื่องเป็นมาตรการก็เริ่มเข้มงวดขึ้น เช่น เรื่องชายแดน ก็กำลังเข้าสู่กระบวนการเข้มข้น และต้องมีอีกหลายเรื่อง


ข่าวเวิร์คพอยท์23


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง