จับตา!รัฐฯเผย"โควิด-19"มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ภายใน 1 เดือน ดับแล้ว 5 ราย

จับตา!รัฐฯเผย"โควิด-19"มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ภายใน 1 เดือน ดับแล้ว 5 ราย

99410 พ.ค. 68 12:35   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

จับตา!รัฐฯเผย"โควิด-19"มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ภายใน 1 เดือน ดับแล้ว 5 ราย พบผู้ป่วยสูงกว่าไข้หวัดใหญ่ถึง 2 เท่า

(10พ.ค.68) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลห่วงใยประชาชน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยข้อมูลระหว่างวันที่ 27 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2568 


จากข้อมูลพบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 8,446 ราย เข้ารับการรักษาทั้งในระบบผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ไม่รวมคนที่ติดเชื้อแล้วไม่ได้ไปรักษาที่โรงพยาบาล ครอบคลุมทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กเล็กอายุ 0–4 ปี วัยเรียน วัยทำงาน ไปจนถึงผู้สูงอายุ 


ทั้งนี้สถานการณ์โควิด-19 ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา (ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2568 ) พบว่าจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 สูงกว่าไข้หวัดใหญ่ถึง 2 เท่า และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย 


นายคารม กล่าวว่า การดูแลตนเองในชีวิตประจำวันเพื่อให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ควรปฏิบัติ ดังนี้ 


  1. การลดการสัมผัสเชื้อโรค ด้วยการกินอย่างปลอดภัย กินสุก อุ่นร้อน ปรุงใหม่ ใช้ภาชนะแยกเฉพาะ ซื้อจากร้านที่ถูกหลักสุขาภิบาลอาหาร
  2. 2.ล้างมือบ่อย ๆ ก่อนกินหลังกินอาหาร ก่อนเข้าบ้าน ก่อนและหลังสัมผัสใบหน้า ด้วยน้ำประปากับสบู่ นานอย่างน้อย 20 วินาที ถ้าไม่มีใช้แอลกอฮอล์เจลเข้มข้นอย่างน้อย 70% 
  3. 3.ล้างผักผลไม้ถูกวิธี เปิดก๊อกน้ำไหล เกิน 5 นาที หรือล้างด้วยการแช่เบกกิงโซดา หรือแช่น้ำด่างทับทิม ก่อนกินหรือปอกเปลือก หรือก่อนแช่ตู้เย็น
  4. สวมหน้ากากเหมาะสม คนปกติทั่วไปใส่หน้ากากผ้าได้ ผู้ป่วยหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วไปใส่หน้ากากอนามัยผ่าตัด ถ้าต้องดูแลผู้เสี่ยง/ป่วยโควิด-19 หรือตรวจเชื้อให้ใส่หน้ากากเอ็น-95 ถ้าทำหัตถการใกล้ชิดให้ใส่เกราะบังหน้าและชุดพีพีอีครบชุด 


“ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากผู้ติดเชื้อสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ 2–3 วันก่อนแสดงอาการ” นายคารม ระบุ


นายคารม กล่าวด้วยว่า โดยจะเริ่มมีอาการป่วยหลังรับเชื้อประมาณ 3 – 4 วัน และหลังติดเชื้อ ควรแยกตัวอย่างน้อย 5 วัน ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวยังมีโอกาสแพร่เชื้อถึง 50 % ในวันที่ 7 โอกาสลดลงเหลือ 25 – 30 % และเหลือประมาณ 10 % ภายในวันที่ 10 ดังนั้น ควรแยกตัวจนไม่มีอาการ และตรวจ ATK ซ้ำจนได้ผลลบ พร้อมสวมหน้ากากเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ โดยเฉพาะหากในครอบครัวมีผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้มีโรคประจำตัว หากพบอาการผิดปกติ เช่น ไอ เจ็บคอ หายใจเหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น หรือลิ้นไม่รับรส ควรรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที หากล่าช้าเกิน 48 ชั่วโมง อาจเพิ่มความเสี่ยงเสียชีวิตได้


ที่มา : รัฐบาลไทย 


ข่าวเวิร์คพอยท์23


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat